คนท้องกินเผ็ดได้ไหม จะอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือเปล่า

คู่มือสำหรับคุณแม่

บทความนี้ขอแนะนำ “คนท้องกินเผ็ดได้ไหม จะอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือเปล่า” คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนต้องชอบทานอาหารรสเผ็ด หรือรสจัดจ้านอยู่แล้ว แล้วยิ่งถ้าตั้งครรภ์ฮอร์โมนเปลี่ยนอาจจะทำให้อยากทานอาหารราชาติเผ็ดมากขึ้นก็ได้ แต่ด้วยที่คุณแม่ตั้งครรภ์เมื่อทานอาหาร ทารกในครรภ์ก็จะได้รับอาหารที่ทานด้วย ซึ่งการทานเผ็ดนั้นสำหรับคนท้องทานได้ไหม แล้วมันจะส่งผลอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือเปล่า บทความนี้มีคำตอบมาฝากกัน ทำไมคนท้องจึงอยากกินรสเผ็ด ร้อยละ 90 ของหญิงตั้งครรภ์ทุกคนจะมีความอยากอาหารที่จำเพาะเจาะจง แม้แต่นักวิจัยเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงตั้งครรภ์จึงมีความอยากกินอาหารรสเผ็ด (หรืออาหารอื่น ๆ) แต่มีบางทฤษฎีได้อธิบายไว้ว่าอาจจะเกิดจากฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อตั้งครรภ์จึงมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะอยากกินอาหารที่ตัวเองชื่นชอบ หรือ ความอยากอาหารของหญิงตั้งครรภ์ อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการขาดสารอาหารได้ด้วย ดังนั้น จึงต้องกินอาหารให้เพียงพอ หรือเยอะขึ้น และเลือกอาหารที่มีประโยชน์ ครบถ้วน 5 หมู่อย่างหลากหลาย คนท้องกินเผ็ดได้ไหม ลูกจะหัวล้าน แสบตัว จริงหรือ            คนโบราณเชื่อกันว่า หากแม่ท้องกินเผ็ดจะส่งผลเสียต่อลูกน้อยในครรภ์ เช่น ลูกจะหัวล้าน ท้องอืด แสบผิว ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว การที่ลูกมีผมน้อย ผมมากนั้นขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์จากพ่อแม่ล้วน ๆ ต่อให้กินอาหารรสเผ็ด ใส่พริก 10 เม็ด ก็ไม่ทำให้ลูกหัวล้าน ส่วนเรื่องแม่กินเผ็ดแล้วจะทำให้ลูกในท้องแสบตัวก็ไม่เป็นจริงเช่นกัน เพราะสิ่งที่ส่งไปถึงลูกคือสารอาหารเท่านั้น รสชาติต่าง ๆ ทั้งเผ็ด เปรี้ยว เค็ม […]

การผ่าคลอด เรื่องที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องรู้ ทั้งก่อนคลอดและหลังคลอด

คู่มือสำหรับคุณแม่

บทความนี้ขอแนะนำ “การผ่าคลอด เรื่องที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องรู้ ทั้งก่อนคลอดและหลัง คลอด” เมื่อคุณแม่ทราบแล้วว่าตัวเองตั้งครรภ์ เชื่อว่าความสุขจะมาเยือนทุกคนในครอบครัวอย่างแน่นอน และอีกเรื่องที่คุณแม่หลายท่านต้องคิดและนึกตรึกตรองอย่างมาก ก็คือเรื่องของการคลอดลูกว่าจะคลอดแบบไหนดี คลอดแบบธรรมชาติหรือผ่าคลอด แต่การผ่าคลอดก็เป็นวิธีที่คุณแม่หลายท่านเลือก ซึ่งการผ่าคลอดนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ทั้งก่อนคลอดและหลังคลอด ซึ่งในบทความนี้มีข้อมูลมาฝากกัน การผ่าคลอด คืออะไร ผ่าคลอด หรือที่เรียกว่า Cesarean Section (C-Section) คือ การคลอดด้วยการผ่าตัดแทนการคลอดแบบธรรมชาติทางช่องคลอด ซึ่งแพทย์จะใช้วิธีเปิดปากแผลบริเวณระหว่างหน้าท้องและมดลูก หากคลอดธรรมชาติไม่ได้ หรือการคลอดธรรมชาติอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อแม่และบุตร  และความไม่พร้อมทางด้านร่างกายหลายอย่างของสุขภาพแม่ หรือแม้แต่การคลอดในภาวะฉุกเฉิน แพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดคลอด การผ่าตัดคลอด คุณแม่ตั้งครรภ์แบบไหนที่ต้องผ่า           ไม่ใช่ทุกการตั้งครรภ์จะเหมาะกับวิธีผ่าคลอด คุณหมอจะแนะนำให้คลอดตามธรรมชาติ และผ่าคลอดในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น โดยจะพิจารณาจากความเสี่ยงและปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้ – ภาวะอุ้งเชิงกรานแคบ คือภาวะที่ขนาดอุ้งเชิงกรานของคุณแม่ไม่พอดีกับตัวเด็ก  ทำให้ไม่สามารถคลอดธรรมชาติได้ – เด็กไม่กลับหัว  หรือนอนขวาง ทำให้ไม่สามารถคลอดธรรมชาติได้ เพราะจะทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บ – มีภาวะรกเกาะต่ำ รกเคลื่อนตัวลงมาปิดปากมดลูก ซึ่งโดยปกติควรจะต้องเปิดเพื่อให้เด็กออกมา  – ทารกมีอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติหรืออยู่ในภาวะคับขัน – พบเนื้องอกอยู่ในจุดสำคัญ เช่น […]

กรดไหลย้อนในคุณแม่ตั้งครรภ์ อาการที่ไม่ควรมองข้าม ต้องรีบรักษาให้หายโดยไว

คู่มือสำหรับคุณแม่

บทความนี้ขอแนะนำ “กรดไหลย้อนในคุณแม่ตั้งครรภ์ อาการที่ไม่ควรมองข้าม ต้องรีบรักษาให้หายโดยไว” คุณแม่ตั้งครรภ์นั้นจะต้องมีความอึดอัดแล้ว เพราะด้วยความที่ท้องโตขึ้นทุกวัน และถ้าหากมีอาการกรดไหลย้อนร่วมด้วย ก็จะทำให้ไม่สบายตัว และจะทำอะไรก็ลำบาก แม้อาการกรดไหลย้อนไม่ได้รุนแรง แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเพราะมันสามารถกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันได้เลย ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่อยากเป็นกรดไหลย้อนต้องทำอย่างไร บทความนี้มีข้อมูลมาฝากกัน  กรดไหลย้อน คืออะไร ? กรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD) เป็นภาวะที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปยังหลอดอาหาร ซึ่งเกิดจากกรดในกระเพาะอาหาร จนทำให้เกิดอาการที่รบกวนต่อการชีวิตประจำวัน และเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ เช่น การอักเสบของหลอดอาหาร โรคกรดไหลย้อนเป็นภัยเงียบที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยสาเหตุหลักๆ ของโรคนี้ก็มาจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของเรานั่นเอง โดยจะทำให้มีอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ ลามขึ้นมาบริเวณหน้าอกหรือลำคอ หลังจากทานอาหารมื้อหนัก และมีอาการเรอมีกลิ่นเปรี้ยว กรดไหลย้อนในคนท้อง เกิดจากอะไร  – การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงที่ตั้งครรภ์ส่งผลต่อกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหาร ทำให้กล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหารมีการคลายตัว ส่งผลให้กระบวนการย่อยอาหารทำได้ไม่ค่อยดี จนทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมายังหลอดอาหาร  – ฮอร์โมนตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อให้กล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างมีการคลายตัว ทำให้อาหารและกรดในกระเพาะอาหารสามารถที่จะไหลย้อนกลับขึ้นมายังหลอดอาหารได้ง่ายขึ้น  – หากคุณแม่มีอาการกรดไหลย้อนเกิดขึ้นบ่อยในช่วงไตรมาสที่สอง และไตรมาสที่สาม นั่นอาจเป็นผลมาจากการที่มดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น และทารกก็มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย การขยายตัวของทารกและมดลูกก็จะไปเบียดหรือกดทับอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการย่อยอาหาร และดันให้อาหารหรือกรดในระบบทางเดินอาหารไหลย้อนหลับไปยังหลอดอาหารด้วย อาการกรดไหลย้อนในคนท้อง – รู้สึกแสบร้อนที่บริเวณกลางอก  – […]

ท้องผูกในช่วงตั้งครรภ์ เรื่องใกล้ตัวที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม

คู่มือสำหรับคุณแม่

บทความนี้ขอแนะนำ “ท้องผูกในช่วงตั้งครรภ์ เรื่องใกล้ตัวที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม” คุณแม่ตั้งครรภ์แล้วท้องผูกสามารถเกิดขึ้นได้เกือบทุกคนและเกือบจะตลอดช่วงการตั้งครรภ์เลยหากคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วท้องผูกจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่ครรภ์ใหญ่แล้วยิ่งรู้สึกอึดอัดมากกว่าเดิม ดังนั้นจะมีวิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรบ้าง เรามีข้อมูลมาฝากกัน สาเหตุที่ทำให้ คนท้องท้องผูก – ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงตั้งครรภ์อาจทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้เคลื่อนไหวได้น้อยลง อาหารเคลื่อนผ่านลำไส้ช้าลง จนอาจส่งผลให้คนท้องท้องผูกได้ – ยาและอาหารเสริม ยาหรืออาหารเสริมบางชนิดที่อาจกระตุ้นให้คนท้องท้องผูกได้ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินรวมบางชนิด ยาลดอาการคลื่นไส้อาเจียน ยาลดกรด ยาแก้ปวดบางชนิด ท้องผูกขณะตั้งครรภ์อันตรายหรือไม่ อาการท้องผูกขณะตั้งครรภ์ไม่ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ แต่บางครั้งอาการท้องผูกก็อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายได้หากมีอาการท้องผูกร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ปวดท้อง ท้องผูกสลับท้องเสียอย่างต่อเนื่อง ถ่ายเป็นมูกหรือเลือด นอกจากนี้การขับถ่ายที่ลำบากมากขึ้นจากอาการท้องผูกยังอาจทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนัก อาจมีเลือดออก และทำให้คุณแม่เกิดความรู้สึกเจ็บบริเวณทวารหนักได้ แต่ส่วนใหญ่จะดีขึ้นและหายได้เองหลังคลอดบุตร แต่หากอาการเจ็บป่วยรุนแรงมากขึ้นหรือมีเลือดออกบริเวณทวารหนักมาก ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วเพื่อความปลอดภัยของแม่และลูกในครรภ์ ท้องผูกสาเหตุที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนักของคุณแม่ตั้งครรภ์                 เมื่อตั้งครรภ์ มดลูกจะขยายไปเบียดเส้นเลือดดำที่ทวารหนัก จึงเป็นที่มาของริดสีดวงทวารหนัก ซึ่งมีลักษณะอาการ คือ เป็นก้อนยื่นออกมาจากทวารหนัก ขณะอุจจาระทั้งมีเลือดสดออกมาตามหลังอุจจาระรอบๆ ทวารหนักเปียกแฉะ และคัน หากมีการอักเสบจะเจ็บปวดบริเวณทวารหนักได้ และกลายเป็นปัญหาสร้างความไม่สบายใจให้คุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่อหลีกเลี่ยงริดสีดวงทวารหนักได้ โดยการป้องกันไม่ให้เกิดอาการท้องผูก การรักษาอาการคนท้องท้องผูก หากคนท้องมีอาการท้องผูกรุนแรง คุณหมออาจสั่งจ่ายยาดังต่อไปนี้ด้วย […]

คุณแม่ตั้งครรภ์ ใส่รองเท้าส้นสูงได้ไหม จะส่งผลอันตรายหรือเปล่า

คู่มือสำหรับคุณแม่

บทความนี้ขอแนะนำ “คุณแม่ตั้งครรภ์ ใส่รองเท้าส้นสูงได้ไหม จะส่งผลอันตรายหรือเปล่า”  คนท้องใส่รองเท้าส้นสูงได้ไหม ถึงจะตั้งครรภ์ แต่ยังอยากตามแฟชั่นอยู่ จริง ๆ แล้วการใส่รองเท้าส้นสูงระหว่างตั้งครรภ์ทำได้หรือไม่ เสี่ยงอันตรายหรือเปล่า บทความนี้มีข้อมูลมาฝากกัน  ใส่รองเท้าส้นสูงตอนท้องได้ไหม ฮอร์โมนช่วงตั้งครรภ์อย่างโปรเจสเตอโรนจะทำหน้าที่ขยายเส้นเอ็น และทำให้เส้นเอ็นบริเวณหลังส่วนล่าง สะโพก ท้อง และขามีความอ่อนนุ่ม นั่นก็หมายความว่าขาของคุณจะมีแรงน้อยลง การใส่รองเท้าส้นสูงจึงไม่สบายเท้ายิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ยังเพิ่มความปวด และน้ำหนักกดทับให้กับอวัยวะส่วนล่างของร่างกายยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย เอาเป็นว่าการใส่รองเท้าส้นสูงก็ไม่ได้ส่งผลเสียทางตรงต่อทารกในท้องก็แล้วกัน แต่การใส่รองเท้าส้นสูงนั้น จะเพิ่มความเสี่ยงให้คุณแม่ท้องหกล้มได้ง่ายขึ้น เนื่องจากคุณแม่ตอนท้องจะมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 2 เลยทำให้จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายเปลี่ยนไป คุณจะสังเกตได้ว่าคุณรู้สึกเซหรือไม่มั่นคงเหมือนก่อนท้อง การท้องกับการใส่รองเท้าส้นสูงเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ น้ำหนักจะถ่วงไปข้างหน้า ดังนั้นเมื่อท้องแล้วใส่ส้นสูงเลยเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ถึง 2 เท่า เมื่อนั้นแหละที่จะส่งผลกระทบต่อลูกในท้อง  หากใส่รองเท้าส้นสูงตอนท้อง จะเสี่ยงอันตรายแค่ไหน 1. ตะคริว การใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อน่องอยู่ในตำแหน่งที่หดตัว ส่งผลให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อน่องและเป็นตะคริวได้ คุณแม่ตั้งครรภ์มักจะเป็นตะคริวง่ายอยู่แล้ว หากใส่ส้นสูงเข้าไปอีก อาการตะคริวอาจจะแย่กว่าเดิมและเป็นบ่อยครั้งขึ้น 2. ปวดหลัง เวลาใส่รองเท้าส้นสูงจะทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานโน้มไปข้างหน้า หลังของเราจึงไม่ได้อยู่ในท่าที่ตั้งตรง และยิ่งเมื่อต้องแบกรับน้ำหนักของร่างกายที่มากขึ้น อาการปวดหลังก็ตามมาได้ง่าย นอกจากนั้น เส้นเอ็นบริเวณด้านล่างของหลังและบริเวณขาจะหลวมในช่วงตั้งครรภ์ การใส่ส้นสูงจึงทำให้เกิดความดันบริเวณข้อต่อต่าง […]

คุณแม่ตั้งครรภ์เป็นตะคริว เกิดขึ้นจากอะไร และจะมีวิธีป้องกันอย่างไรดี

คู่มือสำหรับคุณแม่

บทความนี้ขอแนะนำ “คุณแม่ตั้งครรภ์เป็นตะคริว เกิดขึ้นจากอะไร และจะมีวิธีป้องกันอย่างไรดี”  ช่วงเวลาที่ตั้งครรภ์เป็นเวลาที่เหล่าคุณแม่ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก เพราะอาการไม่สบายตัวของคนท้องเกิดขึ้นมากมายหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือตะคริว ที่ทำเอาคุณแม่เจ็บปวดทรมานสุด ๆ ซึ่งอาการตะคริวเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วจะมีวิธีป้องกันไหม บทความนี้มีข้อมูลมาฝากกัน อาการตะคริว เกิดจากอะไร อาการตะคริว เกิดจากการที่กล้ามเนื้อหดเกร็งอย่างรุนแรง อาจเกิดได้ในกล้ามเนื้อหลาย ๆ ส่วนของร่างกาย เช่น ตะคริวน่อง ตะคริวขา ตะคริวเท้า ตะคริวท้อง เป็นต้น และอาการตะคริวสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ เพศหญิง และเพศชาย โดยเฉพาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ ความรุนแรงจะมากน้อยแค่ไหน มีวิธีบรรเทาหรือไม่ หรือมีวิธีช่วยป้องกันอย่างไร มาติดตามกัน แม่ท้องเป็นตะคริว เพราะอะไร           ตะคริวคนท้องเป็นอาการปวดเฉียบพลันเนื่องจากกล้ามเนื้อหดเกร็ง มักเกิดขึ้นที่กล้ามเนื้อน่องหรือเท้า ซึ่งในระหว่างที่ตั้งครรภ์คุณแม่มักจะมีอาการตะคริวเกิดขึ้นในตอนกลางคืน และเป็นบ่อยในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 โดยสาเหตุของตะคริวคนท้องเกิดได้จากหลายประการ เช่น 1.น้ำหนักเกินที่มากเกินไป 2.ระบบเผาผลาญที่มีการเปลี่ยนแปลง 3.การขาดวิตามิน 4.การขยับร่างกายมากเกินไปในระหว่างวัน จนเกิดความเหนื่อยล้า 5.การไม่ขยับร่างกายเลย 6.มดลูกกดทับเส้นประสาท 7.การไหลเวียนที่ขาลดลงเนื่องจากตัวทารกกดทับหลอดเลือด 8.การขาดแคลเซียมหรือแมกนีเซียม […]

คลอดลูกแบบไหนดี คลอดแบบธรรมชาติหรือผ่าคลอด  ต่างกันอย่างไร

คู่มือสำหรับคุณแม่

บทความนี้ขอแนะนำ “คลอดลูกแบบไหนดี คลอดแบบธรรมชาติหรือผ่าคลอด  ต่างกันอย่างไร”  คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านอาจจะยังมีคำถามที่คิดไม่ตกว่าจะคลอดลูกแบบไหนดีถึงจะดี และปลอดภัย ซึ่งในปัจจุบันการคลอดลูกก็มีหลายวิธีเช่น คลอดลูกธรรมชาติ คลอดลูกแบบผ่าคลอด แต่ละวิธีนั้นจะแตกต่างกันอย่างไรนั้น เรามีข้อมูลมาฝากกัน คลอดธรรมชาติ กับ ผ่าคลอด แบบไหนดีกว่า เพราะอะไร การคลอดธรรมชาติ คือ การคลอดทารกผ่านทางช่องคลอด ซึ่งเป็นวิธีที่องค์การอนามัยโลกแนะนำเนื่องจากมีความปลอดภัยต่อแม่และลูกมาก และมีภาวะแทรกซ้อนน้อย วิธีนี้เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีสุขภาพแข็งแรง ร่างกายมีความพร้อม เช่น อุ้งเชิงกรานกว้าง ทารกอยู่ในท่ากลับหัวแล้ว ทารกตัวไม่ใหญ่มากจนเสี่ยงภาวะคลอดติดไหล่  การผ่าคลอด หรือการผ่าตัดคลอด คือ การผ่าตัดเปิดหน้าท้องและมดลูกเพื่อนำทารกออกจากถุงน้ำคร่ำ เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีข้อบ่งชี้ทางสุขภาพที่ตรวจพบมาก่อน เช่น ภาวะรกเกาะต่ำ ครรภ์เป็นพิษ อุ้งเชิงกรานแคบ ทารกไม่กลับหัว หรือมีความจำเป็นต้องคลอดเร่งด่วน เพื่อช่วยชีวิตแม่และทารกไว้ก่อน เช่น การคลอดก่อนกำหนด คลอดธรรมชาติแล้วยังไม่สามารถคลอดได้สำเร็จ ที่เรียกว่า “ภาวะคลอดเนิ่นนาน” จะเห็นได้ว่า คลอดธรรมชาติกับผ่าคลอดมีข้อบ่งชี้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการที่จะบอกว่า การคลอดวิธีไหนดีกว่ากันนั้นจึงต้องพิจารณารายละเอียดเป็นอย่างๆ ไป คลอดลูกแบบไหนดี  คลอดลูกธรรมชาติ           การคลอดตามธรรมชาติ (Active Birth) เป็นวิธีปกติที่คุณแม่เบ่งคลอดเองทางช่องคลอด […]

เมื่อคนท้องติดโควิด 19  ต้องทำอย่างไร กินยาอะไรได้บ้าง ?

คู่มือสำหรับคุณแม่

บทความนี้ขอแนะนำ “เมื่อคนท้องติดโควิด 19  ต้องทำอย่างไร กินยาอะไรได้บ้าง?”  ในปัจจุบันที่โรค โควิด 19 ยังระบาดอยู่นั้น ตัวเราก็ยังมีความเสียงอยู่ไม่รู้ว่าวันไหนจะติดเชื้อ ซึ่งกลุ่มคนท้องเป็นอีกกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังมาก ๆ เพราะหากติดโควิดจะทำให้มีอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ มากมาย และเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ส่งผลทำให้ไม่แข็งแรงอีกด้วย วันนี้เราเลยมีคำแนะนำเกี่ยวกับ คนท้องติดโควิด มาฝากว่าเมื่อติดโควิดจะต้องทำอย่างไร มียารักษาตัวไหนที่กินได้และกินไม่ได้บ้าง บทความนี้มีข้อมูลมาฝากกัน ทำอย่างไรเมื่อ คนท้องติดโควิด คนท้องติดโควิด ต้องทำอย่างไร ก่อนอื่นเมื่อเราประเมินตนเองแล้วว่ามีความเสี่ยงต่อการติดโรคโควิด-19 มีขั้นตอนการปฏิบัติดังนี้  1.ให้รีบทำการตรวจโรคโควิด-19 ก่อนเลยเป็นอันดับแรก ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าในช่วงแรกที่มีความเสี่ยงนี้อาจจะไม่มีอาการแสดงจึงทำให้ไม่สามารถตรวจพบเชื้อได้ทันที เพราะฉะนั้นจึงควรทำการตรวจหาเชื้ออย่างต่อเนื่อง  2.ต่อมาเมื่อพบว่า คนท้องติดโควิด ให้ทำการกักตัวและรีบรักษาทันที เพราะหากปล่อยไว้นาน ๆ อาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ 3.สำหรับการรักษาโควิด-19 ในผู้ป่วยตั้งครรภ์นั้นจะต้องได้รับการรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิด และควรได้รับยาอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งมีอาการดีขึ้นและตรวจโควิดไม่พบเชื้อ  คุณแม่ตั้งครรภ์ป่วยโควิด จะส่งผลอย่างไรบ้าง – คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด 19 มากกว่า 2 ใน 3 มักไม่แสดงอาการ – คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด 19 แล้วมีอาการรุนแรงมักมีภาวะอ้วน […]

ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มแอลกอฮอล์ จะอันตรายต่อเด็กในครรภ์หรือเปล่า

คู่มือสำหรับคุณแม่

บทความนี้ขอแนะนำ “ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มแอลกอฮอล์ จะอันตรายต่อเด็กในครรภ์หรือเปล่า”  คนท้องไม่ใช่คนป่วย เรามักจะได้ยินคำนี้บ่อย ดังนั้นเมื่อคนท้องอยากทานอะไร ก็ได้ทั้งนั้นไม่มีข้อห้าม แต่อาจจะมีของกินบางอย่างที่คนท้องไม่ควรทานอย่างยิ่งนั่นคือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมันจะส่งผลต่อเด็กในครรภ์ได้ แต่จะส่งผลเสียอย่างไรบ้างนั้น เรามีข้อมูลมาฝากกัน ดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงอย่างไร เหล้าหรือแอลกอฮอล์นั้น ส่งผลเสียต่อคนปกติและคนท้อง ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ดื่ม แต่ไม่ได้หมายความว่า แม้เพียงเล็กน้อยคุณแม่ท้องก็สามารถดื่มได้อย่างสบายใจ ดังนั้น คนท้องดื่มเครื่องดื่มที่ส่วนผสมของแอลกอฮอล์มาก ๆ ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ เพราะจะส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์อย่างแน่นอน รู้หรือไม่ว่า การดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลร้ายแรงต่อทารกยาวนานไปถึงตลอดชีวิตของพวกเขาได้ เช่น อาการ FAS หรือ Fetal alcohol syndrome เป็นอาการผิดปกติได้ชัดเจนจากรูปร่างหน้าตา ไปถึงสมองและการพัฒนาการด้านอื่นๆ ของร่างกาย มาจากความเสี่ยงของพฤติกรรมคุณแม่ตั้งครรภ์ดังต่อไปนี้ 1.คนท้องมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ เป็นความเชื่อที่มีกันมานานแล้วว่า การดื่มเหล้า ดื่มยาดองแล้วจะทำให้เลือดลมดี ขับน้ำนมได้มาก คลอดง่าย จนแม่บางคนติดเหล้าและเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง หรือการดื่มเบียร์แล้วจะช่วยล้างไขเคลือบตัวลูก เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องและไม่ควรทำ เพราะการที่ร่างกายของทารกจะผลิตไขสีขาวหรือเหลืองอ่อน ๆ มาหุ้มตัวนั้น เป็นเกราะบาง ๆ ให้กับทารก ช่วยป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรียต่าง ๆ ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย […]

คุณแม่เสริมหน้าอกซิลิโคน แม่ทำนมมายังให้นมลูกได้ปกติไหม จะส่งผลร้ายต่อลูกหรือเปล่า

คู่มือสำหรับคุณแม่

บทความนี้ขอแนะนำ “คุณแม่เสริมหน้าอกซิลิโคน แม่ทำนมมายังให้นมลูกได้ปกติไหม จะส่งผลร้ายต่อลูกหรือเปล่า” ก่อนมีลูก คุณแม่ไปทำหน้าอกเสริมซิลิโคนมา พอมีลูกแล้วยังสามารถให้นมลูกได้ปกติไหม จะส่งผลร้ายหรืออันตรายต่อลูกน้อยหรือเปล่า หรือต้องผ่าตัดเอาซิลิโคนออกกันแน่ เรื่องที่คุณแม่หลายท่านสงสับ ในบทความนี้มีข้อมูลมากฝากกัน เสริมหน้าอกให้นมลูกได้ไหม การเสริมหน้าอกก็ยังสามารถให้นมลูกได้ตามปกติ ไม่มีผลกระทบต่อการสร้างน้ำนม เพียงแต่หลังเสริมหน้าอก ควรนวดหน้าอกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการเสริมหน้าอกด้วยถุงซิลิโคน ร่างกายจะมีการสร้างพังผืดมาล้อมถุงซิลิโคนไว้ ถ้าพังผืดมีมากก็อาจทำให้เต้านมมีลักษณะแข็งตึงไม่เหมือนธรรมชาติได้ การเสริมหน้าอก ส่งผลต่อนมแม่อย่างไร 1.ตำแหน่งที่เสริมหน้าอก ตำแหน่งและขนาดของซิลิโคนสามารถส่งผลต่อแรงกดภายในเต้านม ซึ่งเต้านมประกอบด้วยเนื้อเยื่อต่อมผลิตน้ำนมด้านบนชั้นกล้ามเนื้อ หากเสริมหน้าอกในตำแหน่งระหว่างเนื้อเยื่อต่อมและชั้นกล้ามเนื้อ จะมีแนวโน้มได้รับแรงกดลงบนต่อมและท่อน้ำนม ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคในการไหลของน้ำนมและลดปริมาณน้ำนมได้ แต่หากตำแหน่งที่เสริมหน้าอกอยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อ จะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำนมน้อยกว่า 2.ตำแหน่งของแผล ตำแหน่งของแผลจะเป็นตัวกำหนดระดับความเสียหายของต่อมผลิตน้ำนม ท่อน้ำนม เส้นประสาท และเลือดที่มาหล่อเลี้ยงเต้านม ถ้าตำแหน่งแผลอยู่รอบขอบของหัวนม และลานนม อาจส่งผลต่อความรู้สึกบริเวณหัวนมและตัดเส้นประสาทที่จะเป็นในการหลั่งน้ำนม 3.การทำงานของเนื้อเยื่อเต้านม แม้ว่าการผ่าตัดเพื่อเสริมหน้าอกที่มีการพัฒนาผิดปกติ จะถูกระบุว่าอาจทำให้สูญเสียการทำงานของเนื้อเยื่อเต้านม ในกรณีเช่นนี้ อุปสรรคในการให้นมไม่ได้เกิดจากการเสริมหน้าอกโดยตรง แต่ปัญหาผิดปกติของหน้าอกสามารถทำให้การผลิตน้ำนมลดลงแม้จะยังไม่ได้เสริมหน้าอกก็ตาม 4.เนื้อเยื่อแผลเป็นและอาการคัดเต้านม เนื้อเยื่อแผลเป็นอาจทำให้เต้านมแข็ง ผิดรูป และเจ็บ ทั้งยังสามารถขยายเข้าไปในท่อน้ำนมและและส่งผลต่อการไหลของน้ำนม หากนมไม่สามารถไหลออกจากเต้าได้ คุณแม่อาจมีอาการคัดเต้านมอย่างมากและเกิดอาการเต้านมอักเสบได้ 5.การผลิตน้ำนมที่ไม่สัมพันธ์กับการให้นมแม่ บางครั้งการเสริมหน้าอกอาจทำให้เกิดการผลิตน้ำนมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการให้นมแม่ หรือเกิดซีสต์ที่มีน้ำนมอยู่ภายใน ในกรณีเช่นนี้มักเกิดหลังการผ่าตัด ซึ่งจำเป็นต้องเอาซิลิโคนที่เสริมเข้าไปออก […]