ข้อดีของคาร์ซีทที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้และควรเลือกใช้ เพื่อความปลอดภัยของลูก

บทความนี้ขอแนะนำ “ข้อดีของคาร์ซีทที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้และควรเลือกใช้ เพื่อความปลอดภัยของลูก” ปัจจุบันทางได้ประกาศราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พ.ค.  ให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งคาร์ซีท เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่หลายคนยังไม่เข้าใจประโยชน์ของคาร์ซีทมากนัก บทความนี้เลยอยากแชร์ข้อดีของคาร์ซีท ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจว่าควรให้ลูกนั้นนั่งคาร์ซีทจะดีกว่าไหม

Convertible Car Seat 101: Everything You Need to Know

คาร์ซีท คืออะไร

Car seat คาร์ซีท เป็นเบาะนั่งนิรภัย เป็นอุปกรณ์ที่ทำขึ้นเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย ขณะนั่งในรถยนต์ เพราะถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะช่วยลดระดับความรุนแรงจากอุบัติเหตุ ลดการบาดเจ็บของร่างกายของลูกคุณได้ ซึ่งในต่างประเทศนั้นมีการบังคับใช้คาร์ซีทอย่างจริงจังด้วย ซึ่งตัวของคาร์ซีทนั้นก็ถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อรองรับสรีระของเด็ก ๆ และให้ใช้ได้กับเข็มขัดนิรภัยทั่วไปภายในรถยนต์อีกด้วย

Best Convertible Car Seats for 2022, Tested - Car and Driver

คาร์ซีทมีความสำคัญอย่างไรบ้าง

1.เป็นอุปกรณ์เซฟตี้ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กขณะนั่งอยู่ในรถยนต์ ในขณะที่รถยนต์กำลังเคลื่อนไหว สามารถช่วยลดระดับความรุนแรงจากอุบัติเหตุ ลดอาการบาดเจ็บของร่างกายของลูกคุณได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด เพราะตัวคาร์ซีทจะมีเข็มขัดที่ช่วยรัดและป้องการกระทบกระเทือนได้

2.ป้องกันอุบัติเหตุ เพราะหากเด็กซุกซน นั่งไม่อยู่กับที่ ก็จะทำให้ผู้ที่ขับรถนั้นเสียสมาธิได้ หากเขาได้นั่งคาร์ซีทก็จะไม่สามารถลุกขึ้นมารบกวนได้

3.ฝึกให้ลูกมีวินัย รู้จักหน้าที่ของตัวเองขณะเดินทาง เขานั้นจะได้นั่งอยู่กับที่ ไม่ซุกซน

4.ฝึกเขามีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ง่ายต่อการดูแลอีกด้วย

Two Boy In Car Seats Traveling In Car And Playing Stock Photo - Download  Image Now - Car, Child, Toy - iStock

ข้อดีของคาร์ซีท

1. มีประโยชน์ต่อทั้งลูกและพ่อแม่

ข้อดีอันแรกคือช่วยเรื่องความปลอดภัยในขณะเดินทาง เพราะระหว่างหากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน เช่น รถต้องเบรกกระทัน รถโดนเฉี่ยว รถชน หรือปัญหาอื่น ๆ หากฝึกให้ลูกนั่งคาร์ซีทจนติดเป็นนิสัย จะลดความรุนแรงในขณะเกิดเหตุ และลดการบาดเจ็บของลูกได้ดี เพราะคาร์ซีทถูกออกแบบมาดีให้เหมาะสมกับสรีระของเด็ก มีเข็มขัดรัดอย่างปลอดภัย หรือแม้แต่ลูกหลับก็สบาย คุณแม่ไม่ต้องคอยอุ้มหรือประคอง บอกเลยว่าคาร์ซีทนั้นปลอดภัยมากกว่าตักของคุณแม่เสียอีก

2.ติดตั้งคาร์ซีทได้ตามอายุ

ปัจจุบันนั้นคาร์ซีทมีการพัฒนาไปเรื่อย ๆ คาร์ซีท 1 ตัว สามารถใช้ได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิด จนถึง 7 ขวบ กันเลยทีเดียว ซึ่งมันจะมีวิธีติดตั้งตามอายุของเด็กดังนี้

 – 0-1 ขวบ หันหน้าเข้าเบาะ ปรับเอนระดับ 4 ดูความบาลานซ์ที่ลูกบอลสีแดง

 – 1-4 ขวบ หันไปด้านหน้าตามปกติ ปรับเอนระดับที่ 2 แบบกึ่งนั่งกึ่งนอน 

 – 4-7 ขวบ ติดตั้งแบบบูสเตอร์ หันไปด้านหน้าตามปกติ ปรับเอนระดับที่ 1

หากติดตั้งให้เหมาสมตามอายุและสรีระของเด็กจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้นตามไปอีกด้วย บอกเลยว่า ซื้อครั้งเดียวใช้ได้คุ้มมาก

3.มีการติดตั้งอย่างปลอดภัย

คาร์ซีทมีการออกแบบที่ดีและได้มาตรฐาน เพราะถ้าหากติดตั้งถูกวิธีนั้นคาร์ซีทก็จะไม่ขยับ หรือเลื่อนไปมาได้เลย สำกรับวิธีการติดตั้งนั้นก็คือ ดึงสายเข็มขัดนิรภัยออกมาให้สุด แล้วพาดไปที่ใต้ฐานของคาร์ซีทเพื่อไปเสียบในตัวล็อก จากนั้นดึงสายให้แน่นและตึงเพื่อให้คาร์ซีทแนบสนิทกับเบาะรถ แล้วพาดสายขึ้นไปเข้าล็อคชั้นที่ 2 ที่ติดอยู่กับคาร์ซีทอีกชั้นนึง ปลอดภัยหายห่วงได้อย่างแน่นอน

4.มีการออกแบบที่ดี 

คาร์ซีทมีการออกแบบที่ดีและได้มาตรฐาน ปลอดภัยต่อลูกน้อยอย่างมาก และยังรวมถึงการออกแบบที่เหมาะสมกับสรีระของเด็ก ซึ่งเด็กแต่ละวัยนั้นก็จะมีสรีระรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป ทั้งความสูง ขนาดตัว ความยาวของแขนและขา ดังนั้นจึงช่วยประคองตัวเด็กและเพิ่มความปลอดภัยได้ดี

5.ใช้วัสดุที่ไม่เป็นอันตรายกับเด็ก

เด็กนั้นผิวยังค่อนข้างบอบบางและแพ้ง่าย หลาย ๆ แบรนด์ก็ออกแบบให้เหมาะสมกับผิวหนังของเด็กอย่างมากที่สุด มีความอ่อนนุ่ม ปลอดภัยต่อผิวของเด็ก ระบายอากาศได้ดี แถมยังสามารถถอดออกมาซักได้ด้วย

Car Seat Buying Guide - Child Safety Experts

การเลือกซื้อคาร์ซีท

ปัจจุบันคาร์ซีทนั้นมีหลากหลายรูปทรง หลายสี หลายแบรนด์ให้ได้เลือกซื้อมาใช้กัน แต่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกซื้อคาร์ซีทแบบไหนที่เหมาะสมกับลูกน้อยของเราดีนั้น มาลองดูวิธีการเลือกกัน

1.เลือกซื้อตามอายุ และน้ำหนักของลูก

คาร์ซีทนั้นมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่แบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (สำหรับเด็กแรกเกิด – 2 ปี) แบบหันหน้าออกจากเบาะ (สำหรับเด็ก 2-7 ปี) และแบบบูสเตอร์ (สำหรับเด็ก 4-12 ปี) ควรเลือกซื้อให้เหมาะสมและถูกประเภท และในปัจจุบันบางยี่ห้อนั้นก็ออกแบบให้สามารถใช้งานได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยโตอายุประมาณ 7 ขวบ กันเลยทีเดียว 

2.เลือกคาร์ซีทที่ได้มาตรฐานรองรับ และมีคุณภาพที่ดี

คาร์ซีทเป็นเบาะนิรภัยก็จริง แต่ควรเลือกซื้อที่ดูได้มาตรฐาน และได้ได้รับการรองรับจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ เลือกซื้อแบรนด์ที่ได้รับการไว้วางใจและดีควรเลือกซื้อที่เป็นของมือหนึ่งจะปลอดภัยมากกว่า เพราะมือสองอาจจะมีผ่านการใช้งานมาแล้ว อะไหล่บางตัวอาจจะมีการเสื่อมตามสภาพแล้วก็เป็นได้

3.เลือกคาร์ซีทแบบติดตั้งถาวรหรือแบบเคลื่อนย้ายได้

คาร์ซีทแบบติดตั้งระยะยาวอาจจะมีราคาที่แพงกว่า ปลอดภัยสูงแต่การทำความสะอาดจะยากในการถอดออกมาซักล้าง หรือแบบที่เคลื่อนย้ายได้นั้นเบาะหมุนได้ และใช้งานได้อิสระมากกว่า ถอดออกและนำไปใช้ยังส่วนอื่น ๆ ได้อีกด้วย ฉะนั้นการเลือกตัดสินใจซื้อควรมองถึงประโยชน์ที่จะนำไปใช้ให้สูงที่สุด

4. เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับรถยนต์

คาร์ซีทนั้นต้องเหมาะสมกับรถยนต์และติดตั้งเข้ากับรถยนต์ได้ด้วย ก่อนจะเลือกซื้อรุ่นไหน แบรนด์ไหน ก็ต้องเช็คให้ดีก่อนว่าสามารถติดตั้งเข้ากับรถได้หรือเปล่า ติดตั้งแล้วมั่นคงปลอดภัยดีไหม 

บทส่งท้าย

คาร์ซีท เบาะรถยนต์นิรภัยที่มีข้อดีและประโยชน์ต่อลูกน้อยมากมาย แถมยังเป็นผลดีต่อคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย เพราะมันจะมีความปลอดภัยขณะนั่ง ฝึกให้เขามีวินัย มีความรับผิด มีระเบียบไปในตัวอีกด้วย คือมีประโยชน์ที่ควรเลือกซื้อมาใช้มาก และสามารถเลือกซื้อได้ตามความพอใจของคุณพ่อคุณแม่ หรือตามความเหมาะสมได้เลย อุบัติเหตุนั้นเราไม่อยากให้เกิดขึ้นหรอก แต่ถ้าสิ่งไหนที่จะทำให้ลูกน้อยปลอดภัยก็ควรจะนำมาใช้ เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงอันตรายได้ด้วยนะ

เครดิตรูปภาพ www.pampers.com www.driving.co.uk www.caranddriver.com

บทความ แม่และเด็ก

อาหารเด็ก/นม/ของเล่นเด็ก/คู่มือคุณแม่

บทความล่าสุด
Tag
ขวดนม Pigeon (1) ของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก (32) คอกกั้นเด็ก (1) คาร์ซีท (1) คู่มือสำหรับคุณแม่ (182) จุกนม (1) ชุดคลุมท้อง (1) ชุดว่ายน้ำเด็ก (1) ตู้แช่นม (1) ทิชชู่เปียก (1) ที่ดูดน้ำมูก (1) นมกล่อง UHT (1) นมผง (1) น้ำยาซักผ้าเด็ก (1) น้ำยาล้างขวดนม (1) น้ำเกลือล้างจมูก (2) ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก (19) ฝากครรภ์ (1) รถเข็นเด็ก (1) รถไฟฟ้าเด็ก (1) รวมเรื่อง นม สำหรับเด็ก (1) สารพันปัญหา แม่และเด็ก (37) สารพันปัญหาแม่และเด็ก (174) อาหารสำหรับเด็ก (24) อาหารเสริมสำหรับเด็ก (3) อุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับเด็ก (10) อุปกรณ์เสริมสำหรับเด็ก (76) เครื่องนึ่งขวดนม (1) เครื่องปั๊มนม (1) เครื่องอุ่นนม (1) เคล็ดลับเลี้ยงลูก (2) เปล (1) เปลไกวไฟฟ้า (1) เสื้อผ้าเด็ก (5) แพมเพิส (1) โลชั่นเด็ก (1)