บทความนี้ขอแนะนำ “การเลือกที่นอนและเครื่องนอนแบบไหนถึงจะดีกับลูกน้อย ให้เขาได้หลับสบายตัวมากที่สุด” การนอนถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับเด็กๆ เพราะถ้าเด็ก ๆ ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอในห้องนอนที่เหมาะสม และเครื่องนอนที่มีคุณภาพ ก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพและพัฒนาการของพวกเขา สำหรับเด็กโตแล้ว พวกเขาสามารถเลือกการนอนที่สบายได้ด้วยตัวเขาเอง แต่สำหรับเด็กทารกนั้นยังไม่สามารถเลือกและบอกเราได้ว่าเขาชอบที่นอนแบบไหน ซึ่งในบทความนี้มีวิธีการเลือกซื้อและเลือกใช้ที่นอนให้เหมาะสมกับลูกน้อยมาฝากกัน
หัวใจสำคัญของการนอนหลับ
สิ่งหนึ่งที่ทารกและเด็กเล็กต้องการคือบรรยากาศ “ห้องนอน” ที่อบอุ่น และที่นอน “ที่น่านอน” 2 สิ่งนี้จะช่วยให้ลูกน้อยของคุณรู้สึกสบายใจเมื่อเขาต้องเข้านอน ความสำคัญของห้องนอนของลูกจึงอยู่ที่ “คุณภาพ” ไม่ใช่งานดีไซน”
เด็กอ่อนควรเริ่มเครื่องนอนใช้ตอนอายุเท่าไร?
เด็กเล็กๆ นั้นยังไม่จำเป็นต้องใช้หมอนและผ้าห่ม เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ เช่น ผ้าห่มอาจเลื่อนไปคลุมศีรษะ หรือพันตัวเด็กได้ จึงแนะนำให้เด็กๆ เริ่มใช้หมอนและผ้าห่มตอนอายุประมาณ 1 ขวบ 6 เดือน – 2 ขวบขึ้นไป แต่หากจะใช้ผ้าห่มสำหรับทารกแรกเกิด ให้เลือกผ้าห่มที่เป็นผ้าฝ้ายที่มีน้ำหนักเบา และวางลูกให้เท้าชนปลายเตียง เพื่อไม่ให้ลูกดิ้นลงไปอยู่ใต้ผ้าห่มซึ่งจะเสี่ยงต่อการถูกผ้าห่มคลุมศีรษะ
ที่นอนและเครื่องนอนที่ควรมีสำหรับลูกน้อย
1.เตียงนอน
การฝึกให้ลูกได้นอนที่เตียงของตัวเองนั้นผู้เชี่ยวชาญหลายท่านกล่าวว่า จะช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุระหว่างนอนหลับได้ และมีข้อดีคือ เป็นการฝึกการนอนหลับที่ดีให้กับลูก ฝึกให้ลูกชินกับเตียงของตัวเอง และเขาจะเข้านอนเองได้ง่ายในอนาคต การเลือกเตียงสำหรับเด็ก ควรเลือกที่มีราวกั้นกันตกเพื่อความปลอดภัย และควรตรวจสอบความยาวควรอยู่ระหว่าง 1-2 นิ้ว ซึ่งเป็นระยะที่ปลอดภัยที่สุด ที่มือและเท้าของเด็กจะไม่ไปติดลูกกรง วัสดุที่ใช้ทำเตียงต้องแข็งแรงได้มาตรฐานปลอดภัย และปราศจากสารเคมีและอันตรายที่จะส่งผลต่อตัวของลูกน้อยด้วย
2.ที่นอน
สำหรับเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก ที่นอนของเขาไม่ควรยุบง่ายหรือนิ่มเกินไป ควรเป็นที่นอนที่แน่นแต่ไม่แข็ง เวลาลูกนอนอาจจะมีจังหวะคว่ำหน้า หากเลือกที่นอนที่นิ่มเกินไปหน้าของลูกอาจจะจมลงไปกับที่นอนได้
3.หมอน
ต้องเลือกขนาดที่เหมาะสมกับตัวเด็ก และรูปทรงของหมอนต้องรองรับกับศีรษะของลูกได้พอดี ไม่สูงจนเกินไป ไม่ควรให้เด็กนอนหมอนของผู้ใหญ่เด็ดขาด หมอนที่ดีสำหรับเด็กทารกไม่ควรแข็งจนเกินไป และก็ไม่ควรนุ่มจนศีรษะยุบลงไปกับหมอน แต่ต้องมีความนุ่มนวลที่กำลังพอดี และควรเป็นใยสังเคราะห์ เพราะสามารถซักล้างได้ง่าย ไม่ควรใช้นุ่น ฟองน้ำ ขนนก ผ้าขนสัตว์ ผ้าสำลี สาเหตุของไรฝุ่นสะสม
4.ผ้าห่ม
ผ้าห่มที่เหมาะสำหรับเด็กทารกมักจะเป็นผ้าสี่เหลี่ยมผืนไม่ใหญ่มาก ผลิตจากผ้าฝ้ายหรือเส้นใยโพลีเอสเตอร์ และจะมีขนาดประมาณ 70 – 120 ซม. บางเบา อ่อนนุ่ม ระบายความร้อนได้ดี และต้องไม่อับชื้น ไม่ค่อยเป็นขุยหลังซักทำความสะอาดจึงลดการระคายเคือง อาการคัน และอาการแพ้ของผิวหนังได้ดี
วิธีเลือกเตียงนอนสำหรับลูกน้อย
1.เตียงไม้
ข้อเสียของเตียงไม้มีน้ำหนักเยอะ เคลื่อนย้ายลำบาก ใช้ได้สักพักลูกโต ก็ใช้ไม่ได้แล้วต้องทิ้ง ตอนทิ้งก็ลำบากเข้าไปอีก จึงไม่คุ้มค่าต่อการซื้อ แต่การให้ลูกได้นอนในเตียงไม้โดยใช้ ที่นอน ที่มีเนื้อแน่นนั้น มีข้อดีดังนี้
– ง่ายต่อการอุ้มวาง
– โครงสร้างของเตียงไม้ จะเป็นพื้นไม้ แผ่นเรียบ และตรง ซึ่งส่งผลต่อโครงสร้างร่างกายของลูกในอนาคตได้
– สามารถปรับระดับ ให้เหมาะกับเด็ก แต่ละช่วงอายุ
– มีความแข็งแรง และคงทนต่อการใช้งาน
2.เปลไกว
นอนแบบเปลไกว ไว้เห่กล่อมทารกนอนอยู่ ซึ่งรูปร่างเปลไกวสมัยนี้ก็วิวัฒนาการมาจากเปลสมัยโบราณ ข้อดีของเปลไกว คือ
– ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกเพลินจน สามารถนอนหลับ ได้นานขึ้น และ สบายขึ้น
– ช่วยประหยัดเวลา และ ผ่อนแรง ในการอุ้มกล่อม
– มีส่วนช่วยในการกระตุ้นพัฒนาการด้านสมองและการทรงตัวของทารก
3.เพลย์เพน (playpen)
ผู้เชี่ยวชาญ ด้านพัฒนาการเด็ก พบว่า เพลย์เพน มีประโยชน์อย่างมาก หากพ่อแม่รู้จักวิธีใช้อย่างถูกต้อง ซึ่งข้อดีของเพลย์เพนส่วนใหญ่คือ
– ใช้งานง่าย มั่นใจได้ว่า ลูกอยู่ในที่ปลอดภัย
– มีฟังก์ชั่นการใช้งาน อเนกประสงค์ หลายส่วน ที่ช่วยเพิ่มความสะดวก ให้คุณพ่อคุณแม่ และ เสริมพัฒนาการ ให้ลูก เช่น ระบบสั่นสะดวก กล่องเสียงดนตรี ม่าน ฯลฯ
– เหมาะสำหรับบ้าน ที่มีพื้นที่จำกัด เพราะ เคลื่อนย้ายได้ง่ายและสะดวก
– พับเก็บได้ สามารถนำใส่ในรถได้ หากจำเป็นต้องใช้ เมื่อเดินทาง
วิธีเลือกที่นอนสำหรับลูกน้อย
1. เลือกที่นอนที่ไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป
ควรเลือกที่นอนให้มีความแข็งปานกลาง คือไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป แต่มีความแน่นไม่ยวบยาบ ที่นอนที่แข็งเกินไปส่งผลให้เด็กรู้สึกไม่สบายตัว ระหว่างนอนอาจรู้สึกเจ็บได้ ส่วนที่นอนที่นิ่มจนเกินไป หรือยุบตัวง่าย ระหว่างนอนที่นอนอาจเกิดการห่อตัว ทำให้เด็กขยับตัวไม่สะดวก และหากลูกนอนคว่ำ หน้าของลูกอาจจมไปกับที่นอนทำให้ขาดอากาศหายใจได้
2.เลือกที่นอนที่ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ
ควรเลือกวัสดุที่มีคุณภาพ มีคุณสมบัติกระจายน้ำหนักได้ดี มีความยืดหยุ่น เนื้อแน่นไม่ยุบ รองรับแรงกดทับได้ดี และระบายอากาศได้ดี นอกจากนี้ยังควรเป็นวัสดุที่ไม่มีส่วนผสมของสารสังเคราะห์ต่าง ๆ อีกด้วย
3.ไม่ควรใช้ที่นอนเก่า
เพราะที่นอนเก่าอาจจะมีการยุบตัว ส่งผลให้กระดูกของลูกพัฒนาผิดรูปได้ เพราะกระดูกของเด็กแรกเกิดยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ และที่นอนเก่าอาจจะมีเชื้อโรคต่าง ๆ แฝงอยู่ เด็กแรกเกิดที่ภูมิคุ้มกันยังทำงานไม่เต็มที่อาจได้รับเชื้อโรคได้ง่าย หรืออาจทำให้ลูกเป็นโรคภูมิแพ้ได้
4. ควรเลือกที่นอนที่ทำความสะอาดง่าย
เพราะเด็กแรกเกิดมีช่วงเวลาการขับถ่ายที่ไม่แน่นอน จึงควรเลือกที่นอนที่สามารถนำออกมาทำความสะอาดได้ง่าย รวมไปถึงสามารถนำมาผึ่งแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคและระบายอากาศด้วย อีกทางหนึ่งที่จะช่วยรักษาความสะอาดให้กับที่นอนเด็กแรกเกิด คือการปูแผ่นรองเปื้อนก่อนทุกครั้ง
5. เลือกที่นอนผืนเดียวกัน และมีขนาดพอดีเตียง
ควรเลือกที่นอนเด็กแรกเกิดที่เป็นผืนเดียวกัน ไม่มีรอยต่อหรือร่องที่นอน รวมไปถึงมีขนาดเท่ากับเตียงนอน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กขยับตัวไปติดตามร่องที่นอนหรือร่องเตียงต่าง ๆ จนอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
บทส่งท้าย
การนอนหลับสำหรับลูกน้อยคือส่งสำคัญอย่างมาก ฉะนั้นควรเลือกที่นอน และเครื่องที่นอนที่เหมาะสม สะอาด และต้องปลอดภัยอย่างมากสำหรับลูกน้อย เพราะลูกน้อยยังไม่สามารถสื่อสารบอกเราได้ ฉะนั้นเราก็ควรจะเลือกสิ่งของที่ดีที่สุดให้กับเขา เพื่อที่เขาจะได้นอนหลับสบายมากขึ้น และส่งผลให้ร่างกายของเขาแข็งแรง และมีจิตใจและอารมณ์ที่ดีตามไปด้วย
เครดิตรูปภาพ www.soundhealthandlastingwealth.com www.newtonbaby.com www.traeumeland.com parenting.firstcry.com