บทความนี้ขอแนะนำ “โรคที่มาพร้อมฤดูร้อน ที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องระวัง” คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องพบเจอกับหลากหลายปัญหาในช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งก็อดทนและต่อสู้ผ่านไปให้ได้ และเรื่องฤดูก็สำคัญด้วยเช่นกัน ซึ่งฤดูร้อนเองก็มีโรคภัยที่ส่งผลต่อคนท้องด้วย ซึ่งจะมีวิธีป้องกันและรับมืออย่างไรบ้างนั้นไปดูกัน
โรคหน้าร้อน ที่คนท้องต้องระวัง
เมื่อต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนจัด แม้แต่คนทั่วไปก็ยังมีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคหน้าร้อน ต่าง ๆ ได้ หากไม่ใส่ใจดูแลตัวเองเท่าที่ควร ยิ่งหากเป็นคนท้องด้วยแล้ว ก็ยิ่งต้องระมัดระวังสุขภาพเป็นพิเศษ เพราะโรคบางอย่างนั้นอาจส่งผลรุนแรงต่อร่างกายของคุณแม่ ตลอดจนทารกน้อยในครรภ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ ๆ เลย แต่ว่าจะมีโรคไหนบ้างที่เราควรระวังไว้ ไปดูกันเลย
1. คนท้องร้อนกว่าคนปกติ
คนท้องมักจะร้อนกว่าคนปกติ เนื่องจากภาวะการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ ทั้งต่อมไทรอยด์ที่ทำงานเพิ่มขึ้น ร่างกายต้องเผาผลาญพลังงานมากขึ้น อีกทั้งภายในร่างกายของคนท้องจะมีปริมาณเลือดที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก ทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว ร่างกายของผู้หญิงตั้งครรภ์จึงเกิดความร้อนมากกว่าปกติ
อาการ
ขี้ร้อน เหงื่อออกมาก หงุดหงิด อ่อนเพลีย รู้สึกไม่สบายตัว เมื่อประกอบกับช่วงนี้เป็นฤดูร้อน จึงเป็นปัจจัยให้เกิดอันตรายต่อคุณแม่ และอาจมีผลกระทบถึงลูกน้อยได้
วิธีป้องกัน
– อยู่ในที่ร่ม ไม่ออกไปเผชิญกับแดดจ้า อากาศร้อน เป็นเวลานาน ๆ
– อยู่ในสถานที่ที่อาการถ่ายเทได้สะดวก ไม่ร้อนจนเกินไป
– สวมใสเสื้อที่มีเนื้อผ้าบางเบา ซับเหงื่อและระบายความร้อนได้ดี ไม่ใส่แบบรัดรูป
– หลีกเลี่ยงหรือลดอาหารประเภทที่มีเกลือมากเกินไป เพราะเกลือจะทำให้อุณหูมิของร่างกายคุณแม่สูงขึ้นกว่าเดิม
– รับประทานผักและผลไม้ หรือเครื่องดื่มเย็น ๆ เพื่อดับร้อน
2.ภาวะร่างกายขาดน้ำ
ภาวะร่างกายขาดน้ำมักเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับโรคลมแดด เนื่องจากเมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ร่างกายจะขับเหงื่อออกมามากกว่าปกติ ทำให้ปริมาณของเหลวในร่างกายลดลง เลือดจึงมีความเข้มข้นมากขึ้น ภาวะนี้อาจกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอ็อกซิโทซิน งส่งผลให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดได้
อาการ
เวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน เป็นลม มีภาวะระบายลมหายใจเกิน หรือหายใจติดขัด เป็นตะคริว ปริมาณของเหลวที่ออกจากร่างกาย เช่น เหงื่อ และปัสสาวะลดลง อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นโดยไม่มีสัญญาณของอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ
วิธีการป้องกัน
– หลีกเลี่ยงการออกแดดจ้าหรืออยู่ในที่ที่อากาศร้อน
– พักผ่อนให้เพียงพอ
– ลดปริมาณคาเฟอีน งดดื่มชา กาแฟ หรือน้ำอัดลม
– ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน
– กินผัก ผลไม้ ที่มีส่วนประกอบของน้ำสูงและอุดมไปด้วยวิตามิน เช่น แตงกวา คะน้า มะเขือเทศ แตงโม มะละกอ ฝรั่ง สะระแหน่
3.โรคฮีตสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด
โรคฮีตสโตรก เกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป จนไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ทำให้มีอุณหภูมิในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส รวมถึงการขาดน้ำและเกลือแร่ร่วมด้วยเป็นเวลานาน ซึ่งช่วงฤดูร้อน หญิงตั้งครรภ์อาจเกิดโรคฮีตสโตรกได้ง่ายกว่าคนปกติ
อาการ
ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่มีเหงื่อออก ต่างจากการเพลียแดดทั่วไปที่จะพบมีเหงื่อออกด้วย กระหายน้ำมาก อ่อนเพลีย เมื่อยล้า คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ ความดันต่ำ หน้ามืด หายใจเร็ว หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อาการจะหนักขึ้น จนชัก ไตล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ช็อก และเกิดลิ่มเลือดอุดตันจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากเริ่มมีอาการ ให้รีบเข้าร่มโดยเร็ว ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกตัว คอ รักแร้ เชิงกราน ศีรษะ และใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน ก่อนนำส่งสถานพยาบาล
วิธีป้องกัน
– หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่อากาศไม่ถ่ายเท ร้อนอบอ้าว
– สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ดูดซับเหงื่อได้ดี
– หากต้องออกไปนอกบ้าน ควรมีหมวกหรือร่มกันแดด
– หากต้องเดินทางไกลควรมีผู้ใกล้ชิดร่วมดูแลไปด้วย
– ควรดื่มน้ำ 1-2 แก้วก่อนออกจากบ้าน หากต้องอยู่ในที่ที่อากาศร้อนเป็นเวลานานควรจิบน้ำบ่อย ๆ แม้ว่าจะไม่รู้สึกกระหายก็ตาม
4.อาหารเป็นพิษ
อากาศร้อน ๆ ช่างเป็นใจให้แบคทีเรียและเชื้อโรคทำงาน อาหารจึงบูดเสียง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะอาหารที่ไม่ได้เก็บแช่ไว้ในตู้เย็น อาหารที่ทำไว้ล่วงหน้านาน ๆ โดยไม่ได้อุ่นให้ร้อนอยู่เสมอ อาหารที่เตรียมขึ้นอย่างไม่สะอาด อาหารปรุงไม่สุก เมื่อคุณแม่รับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ ก็จะทำให้เกิดอาการของโรคได้
อาการ
ถ่ายเป็นน้ำ คลื่นไส้อาเจียน มีไข้หนาวสั่น หรือมีอาการปวดบริเวณลำตัวร่วมด้วย ปกติแล้วอาการต่าง ๆ จะหายเองภายใน 3 วันโดยไม่ต้องรักษา แต่อย่านิ่งนอนใจ เพราะหากมีอาการรุนแรง อาจเกิดภาวะช็อกได้
วิธีป้องกัน
– กินอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ๆ ไม่กินอาหารที่เก็บไว้ค้างคืน เพื่อป้องกันการรับเชื้อโรค
– ล้างผักผลไม้หลายๆ ครั้ง รวมถึงล้างภาชนะใส่อาหารและช้อนส้อมให้สะอาดทุกครั้งก่อนใช้
– ล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารหรือปรุงอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำ
5.โรคเครียดจากอากาศร้อนจัด
อากาศที่ร้อนจัดในระยะนี้ บางวันมีอุณหภูมิทะลุ 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้คนท้องที่มักจะมีอารมณ์หงุดหงิดง่ายอยู่แล้ว ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นและเครียด ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อลูกในครรภ์ ทำให้เด็กตัวเล็ก และมีอาการดิ้นมากขึ้น
และผลการวิจัยพบว่าการสัมผัสอากาศร้อนจัดทำให้เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดเพิ่มขึ้น 6% เมื่ออายุครรภ์ 34 สัปดาห์ และความเสี่ยงจะเพิ่มเป็น 21% ในสัปดาห์ที่ 36-38 ของการตั้งครรภ์ นักวิจัยยังเชื่อว่า ภาวะเครียดจากอากาศที่ร้อนจัดอาจขัดขวางการพัฒนาของรกหรือเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนของเลือดไปยังมดลูก ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อาจนำไปสู่การคลอดก่อนกำหนดได้
อาการ
เครียด หงุดหงิดมากขึ้น เหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย และเบื่ออาหาร
วิธีป้องกัน
– ควรอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
– สวมใส่เสื้อผ้าให้พอเหมาะกับสภาพครรภ์ เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย
– ทำตัวเองให้สดชื่น ด้วยการอาบน้ำคลายร้อน หรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น ดูหนัง ฟังเพลง
บทส่งท้าย
ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตามคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์อาจจะไม่สามารถทานยาบางชนิดได้ เพราะมันอาจจะส่งผลต่อทารกในครรภ์ แต่ก็ไม่ควรที่จะเครียดเกินไป ควรปล่อยตัวให้สบาย ๆ จะดีกว่า
เครดิตรูปภาพ www.verywellfamily.com www.perinatalservicesbc.ca www.fetalvisionimaging.com www.beingtheparent.com www.insideprecisionmedicine.com