อะโวคาโด ผลไม้มากประโยชน์ ดีต่อคนท้องมากกว่าที่คิด

บทความนี้ขอแนะนำ “อะโวคาโด ผลไม้มากประโยชน์ ดีต่อคนท้องมากกว่าที่คิด” การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ อาจจะมีการแพ้ท้องที่แตกต่างกันออกไป อยากทานอาหารที่แปลกไปจากที่เคยทานในการท้องเสียด้วยซ้ำ แถมคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์ ก็ต้องระวังเรื่องสุขภาพและอาหารการกินเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ซึ่งอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่ทานแล้วไม่เพิ่มน้ำหนัก มีประโยชน์มากมาย แต่คุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์จะได้ไหม และทานได้ในปริมาณเท่าไหน บทความนี้มีมาฝากกัน

อะโวคาโด้ คืออะไร

อะโวคาโด หรือ ลูกเนย ผลที่สุกจัดจะมีสีดำ มีผิวขรุขระ เนื้อภายในถ้าสุกแล้วจะมีสีเขียว เนื้ออ่อนนุ่ม มีรสชาติคล้ายเนยที่มีจากนมวัว มีโปรตีนชนิดย่อยง่าย และไขมันดี เป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายกว่า 20 ชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก ซึ่งประโยชน์ของอะโวคาโดนั้นมีหลากหลายด้าน เช่น บำรุงสมอง บำรุงดวงตา ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ไปจนถึงประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น 

อะโวคาโดมีรสจืดและมีไขมันสูง โดยอะโวคาโดปริมาณ 100 กรัม มีไขมัน 15 กรัม แต่ในความจริงแล้ว การรับประทานอะโวคาโดนั้นไม่ได้ทำให้อ้วนหรือมีน้ำหนักตัวเพิ่ม เพราะไขมันในอะโวคาโดจัดเป็นไขมันชนิดที่ดี อีกทั้งยังมีน้ำตาลน้อยและมีไฟเบอร์สูง ทำให้รู้สึกอิ่มนาน ช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

คนท้องกินอะโวคาโดได้ไหม?

หากคุณแม่ตั้งครรภ์กำลังสงสัยว่าคนท้องกินอะโวคาโดได้ไหม คำตอบคือ “ได้” เพราะอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่ให้สารอาหารสำคัญแก่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโฟเลต โพแทสเซียม ไฟเบอร์ ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุ ล้วนจำเป็นต่อร่างกายคุณแม่ตั้งครรภ์ อีกทั้งอะโวคาโดยังมีประโยชน์ร่างกายคุณแม่หลายอย่าง ซึ่งจะช่วยให้ลูกน้อยในครรภ์มีการเจริญเติบโต และมีพัฒนาการที่ดีเยี่ยม ดังนั้นการรับประทานอะโวคาโดตอนท้อง จึงถือว่าปลอดภัย และดีต่อสุขภาพคุณแม่เป็นอย่างมาก

คนท้องกินอะโวคาโดได้มากเท่าไหร่?

สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ สามารถรับประทานอะโวคาโดวันละครึ่งผลเท่านั้น เพราะการรับประทานอะโวคาโดที่มากเกินไป ก็อาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ ฉะนั้นควรรับประทานอะโวคาเพียงวันละครึ่งผลเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยต่อตัวคุณแม่เอง และลูกน้อยในครรภ์ด้วย

อะโวคาโดมีประโยชน์อย่างไรกับคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์

1.แหล่งโฟเลตที่ดีเยี่ยม

การขาดโฟเลตหรือกรดโฟลิกที่เพียงพออาจทำให้เกิดข้อบกพร่องในทารกได้ ดังนั้น ทารกในครรภ์จึงต้องการกรดโฟลิกที่เพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนาของอวัยวะที่เหมาะสม อะโวคาโดเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยกรดโฟลิกประมาณ 5 ไมโครกรัมต่อปริมาณครึ่งถ้วย

2.ช่วยย่อยอาหาร

โรคท้องร่วงและท้องผูกเป็นเรื่องปกติในระหว่างตั้งครรภ์ ปริมาณเส้นใยมีมากในอะโวคาโดช่วยในการย่อยอาหารและทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น

3.รักษาโรคโลหิตจาง

การขาดธาตุเหล็กในระหว่างตั้งครรภ์สามารถนำไปสู่ภาวะโลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์ อะโวคาโดมีธาตุเหล็กจำนวนมากที่จำเป็นในระหว่างตั้งครรภ์

4.รักษาระดับคอเลสเตอรอลและน้ำตาล

การบริโภคอะโวคาโดเป็นประจำช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในระหว่างตั้งครรภ์

5.อัดแน่นด้วยวิตามิน

อุดมไปด้วยวิตามิน B1, B2, B5, B6, C, E และ K ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นสำหรับอาหารของมารดาและสำคัญสำหรับทารกในครรภ์ที่กำลังเติบโต

6.บรรเทาอาการตะคริวที่ขา

ตะคริวที่ขายังพบได้บ่อยในระหว่างตั้งครรภ์ และอะโวคาโดสามารถช่วยบรรเทาอาการตะคริวที่ขาได้ พวกมันมีโพแทสเซียมมากกว่ากล้วย โพแทสเซียมร่วมกับแคลเซียมจะช่วยบรรเทาอาการตะคริวได้

7.กระตุ้นการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์

อะโวคาโดหนึ่งถ้วยมีโคลีน 22 มก. ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาสมองและระบบประสาทของทารกในครรภ์ และการพัฒนาเส้นประสาท

8.ช่วยลดอาการแพ้ท้อง

อาการแพ้ท้องเป็นอีกหนึ่งอาการของการตั้งครรภ์ในไตรมาสแรกทั่วไปที่ทำให้คุณแม่เหนื่อย และในอะโวคาโดที่อุดมไปด้วยวิตามินซีมากมาย ที่สามารถช่วยลดอาการแพ้ท้อง และอาการคลื่นไส้ของคุณแม่ตั้งครรภ์ได้

9.กระตุ้นการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์

อะโวคาโดหนึ่งถ้วยมีโคลีน 22 มก. ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาสมองและระบบประสาทของทารกในครรภ์ และการพัฒนาเส้นประสาท

10.ช่วยให้คนท้องไม่อ้วน

อะโวคาโดอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งเป็นไขมันที่ย่อยง่าย มีคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำ ทำให้คุณแม่ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์สามารถรับประทานได้ นอกจากนี้อะโวคาโดยังสามารถช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ทำให้รับประทานแล้วไม่อ้วน 

ข้อควรในระวังในการรับประทานอะโวคาโด

1.คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอะโวคาโดดิบ เพราะหากรับประทานเข้าไปมาก ๆ ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะได้

2.สำหรับคุณแม่ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอะโวคาโดที่มากเกินไป เพราะอะโวคาโดมีแคลอรีที่สูง แม้ว่าจะเป็นไขมันดีก็ตาม อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกาย และลูกในครรภ์ได้

3.หากคุณแม่แพ้น้ำยาง ควรระมัดระวังการสัมผัสอะโวคาโดเป็นพิเศษ เพราะผลอะโวคาโดมียางที่อาจเป็นอันตรายสำหรับคนที่มีอาการแพ้ได้

บทส่งท้าย

อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มากไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย แต่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ก็ควรจะรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมจะดีกว่า เพราะถึงแม้ว่าจะมีไขมันดี แต่ขึ้นชื่อว่าไขมันทานมาก ๆ ก็อาจจะส่งผลเสียมากกว่าดีก็ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่คุณแม่ทานได้ไม่ต้องกังวลกลัวว่าน้ำหนักจะขึ้น หรือน้ำตาลจะขึ้น แต่ก็ควรทานให้พอเหมาะพอดีจะดีต่อร่างกายและลูกน้อยมากกว่านะ

เครดิตรูปภาพ www.tastingtable.com www.pregnancyfoodchecker.com