หลังคลอดกี่เดือนถึงท้องได้ มีลูกหัวปีท้ายปีดีไหม ต้องรอระยะเวลาเท่าไหร่ถึงจะตั้งท้องคนถัดไปได้

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง หลังคลอดกี่เดือนถึงท้องได้ มีลูกหัวปีท้ายปีดีไหม ต้องรอระยะเวลาเท่าไหร่ถึงจะตั้งท้องคนถัดไปได้ คลอดลูกเสร็จแล้ว คุณพ่อคุณแม่วางแผนปั๊มลูกคนต่อไปทันที แต่ก็มีคำถามว่าแบบนี้มันจะเร็วเกินไปไหม หลังคลอดกี่เดือนถึงท้องได้แบบปลอดภัย แล้วท้องต่อไปมีอะไรให้ต้องระวังบ้างหรือเปล่านะ

หลังคลอดกี่เดือนถึงท้องได้

หลังจากคลอดลูกคนล่าสุดแล้ว แพทย์จะแนะนำระยะปลอดภัยสำหรับการตั้งครรภ์ครั้งใหม่คือ 1-2 ปี เพื่อให้ร่างกายของคุณแม่ได้พักฟื้นจากการตั้งครรภ์ครั้งก่อนหน้าอย่างเต็มที่ เพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย คุณแม่คงสงสัยว่า หลังคลอดกี่เดือนถึงท้องได้ ซึ่งต้องดูจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น

1. ความพร้อมของร่างกายคุณแม่  ร่างกายคุณแม่หลังคลอดจะเกิดการเปลี่ยนแปลง และต้องอาศัยเวลาในการฟื้นฟูสุขภาพ ให้ร่างกายกลับสู่ภาวะปกติ การดูแลสุขภาพหลังคลอด และการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ

2. การดูแลมดลูกหลังคลอด  การตั้งครรภ์ ทำให้มดลูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มดลูกจึงเป็นอวัยวะที่รับบทหนักมาตลอด 9 เดือน จากเดิมที่ขนาดมดลูกคล้ายกับผลของชมพู่ ก็ต้องค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับทารกในครรภ์ เมื่อผ่านการคลอดลูกแล้ว มดลูกยังต้องใช้เวลาในการบีบรัดให้กลับสู่สภาพเดิม ระหว่างนั้นคุณแม่ควรดูแลด้วยการประคบอุ่นบ้างจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดหลังคลอดได้

3. การดูแลฝีเย็บ  ฝีเย็บจะอยู่ระหว่างอวัยวะเพศและทวารหนัก เมื่อคลอดธรรมชาติ คุณหมอจะกรีดให้คุณแม่คลอดได้ง่ายขึ้น และเย็บติดไว้ ทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บตึงหลังคลอดได้ การเตรียมตัวก่อนมีลูกคนต่อไป จึงควรดูแลแผลฝีเย็บให้หายดีก่อน

4. การเลือกรับประทานอาหาร  คุณแม่ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะคุณแม่ต้องเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จึงควรได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ ขณะเดียวกันร่างกายของคุณแม่เองก็ต้องได้รับการฟื้นฟู อาหารสำหรับคุณแม่ท้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม  

5. การตกไข่หลังคลอด  การตกไข่หลังคลอดของคุณแม่แต่ละคนแตกต่างกัน หากคุณแม่ไม่ได้ให้นมลูกอย่างสม่ำเสมอ อาจตกไข่ได้เร็วที่สุด 33 วันหลังคลอด ต่างจากคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นประจำ ที่การตกไข่ไม่บ่อยเท่า ประจำเดือนจะมาช้าหรืออาจไม่มีประจำเดือนเลยในช่วงที่ให้นมลูกอย่างต่อเนื่อง

มีลูกหัวปีท้ายปีดีจริงไหม

คนเฒ่าคนแก่มักจะชอบพูดชมคนที่มีลูกหัวปีท้ายปีว่าเป็นเรื่องที่ดี มีลูกทันใช้ ร่างกายแข็งแรงถึงตั้งท้องติด ๆ  กันได้แบบนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การมีลูกแบบหัวปีท้ายปี เราไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะการที่คลอดลูกคนหนึ่งต้นปี แล้วปลายปีคลอดอีกหนึ่งคน นั่นหมายความว่า หลังคลอดลูกคนแรกปุ๊บ คุณแม่ก็เริ่มตั้งครรภ์ทันที ซึ่งกรณีแบบนี้ถือว่าเร็วเกินไป การตั้งครรภ์ใหม่ที่เหมาะสม ควรจะต้องเว้นห่างอย่างน้อย 1-2 ปี เพื่อให้ร่างกายของคุณแม่ฟื้นตัวเต็มที่ ร่างกายแข็งแรงพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ถัดไป  

การตั้งท้องแบบหัวปีท้ายปี คุณแม่เสี่ยงที่จะมีการคลอดก่อนกำหนด เสี่ยงที่ช่องคลอดจะฉีกขาดเพราะยังฟื้นตัวได้ไม่ดี และร่างกายอาจจะทรุดโทรมจากความเหนื่อยล้า เพราะต้องเหนื่อยเลี้ยงดูทารกที่เพิ่งเกิดมา และเหนื่อยที่ต้องอุ้มท้องลูกอีกคนไปพร้อม ๆ  กัน จึงไม่สามารถใช้เวลากับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้อย่างเต็มที่ ซึ่งพิจารณาดูแล้ว ไม่เป็นผลดีต่อแม่และลูกแต่อย่างใด

1.กรณีคลอดธรรมชาติ 

หากแม่คลอดธรรมชาติ การคลอดครั้งต่อไป มีโอกาสที่จะคลอดธรรมชาติได้เหมือนเดิม แต่ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 ปี เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เต็มที่ พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ถัดไป 

2.กรณีผ่าคลอด 

กรณีที่คุณแม่ผ่าคลอดในครรภ์ล่าสุด การตั้งครรภ์ถัดไป คุณแม่อาจสามารถคลอดธรรมชาติได้ หากแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าร่างกายของคุณแม่แข็งแรงและพร้อมที่จะคลอดเอง แต่โดยมากแล้ว หากครรภ์ก่อนหน้าผ่าคลอด ครรภ์ต่อมาก็มีโอกาสที่จะต้องผ่าคลอดอีกเช่นกัน 

มีลูกหัวปีท้ายปี มีความเสี่ยงอะไรบ้าง

นอกจาก คำถามที่ว่า หลังคลอดกี่เดือน ถึงจะตั้งท้องใหม่ได้ คุณแม่ที่อยากมีลูกหัวปีท้ายปี ควรคำนึงความเสี่ยง เพราะคุณแม่ที่มีลูกหัวปีท้ายปี มักประสบพบเจอความเสี่ยงสูง เกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อน ทั้งต่อตนเองและทารกในครรภ์ เนื่องมาจากร่างกายยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่จากการคลอดลูกคนแรก โดยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีดังนี้

– การคลอดก่อนกำหนด ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมีโอกาสเกิดปัญหาสุขภาพมากกว่าทารกที่คลอดครบกำหนด เช่น น้ำหนักตัวน้อย ระบบหายใจและระบบย่อยอาหารยังไม่สมบูรณ์ ติดเชื้อ ฯลฯ

– การฉีดขาดที่ช่องคลอด คุณแม่ที่คลอดลูกคนแรกด้วยวิธีธรรมชาติ มีความเสี่ยงสูง ที่จะเกิดการฉีดขาดที่ช่องคลอด ซึ่งอาจส่งผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ และการคลอดบุตรในครั้งต่อไป

– ภาวะขาดสารอาหาร ร่างกายของคุณแม่ที่ยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่ อาจไม่สามารถส่งสารอาหารที่เพียงพอ ไปเลี้ยงทารกในครรภ์ ส่งผลต่อพัฒนาการของทารก

– น้ำหนักตัวลูกน้อยกว่าปกติ ทารกที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ ส่งผลต่อสุขภาพและพัฒนาการในระยะยาว

– ภาวะเหนื่อยล้า คุณแม่ที่ต้องดูแลลูกสองคนพร้อมกัน อาจรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม

บทส่งท้าย

สำหรับคุณแม่ที่อยากท้องลูกคนต่อไปเร็ว ๆ ควรพูดคุยกับคุณหมอ วางแผนการมีบุตรว่า หลังคลอดกี่เดือนถึงท้องได้ และคอยดูแลสุขภาพร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ในทุกมื้อ ดื่มน้ำเปล่าบ่อย ๆ รักษาสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง เพื่อเตรียมความพร้อมกับการตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพในครั้งต่อไป

เครดิตรูปภาพ

www.lovetoknowhealth.com www.rashtiandrashti.com rocprivateclinic.com www.oviahealth.com

บทความ แม่และเด็ก

อาหารเด็ก/นม/ของเล่นเด็ก/คู่มือคุณแม่

บทความล่าสุด
Tag
ขวดนม Pigeon (1) ของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก (32) คอกกั้นเด็ก (1) คาร์ซีท (1) คู่มือสำหรับคุณแม่ (173) จุกนม (1) ชุดคลุมท้อง (1) ชุดว่ายน้ำเด็ก (1) ตู้แช่นม (1) ทิชชู่เปียก (1) ที่ดูดน้ำมูก (1) นมกล่อง UHT (1) นมผง (1) น้ำยาซักผ้าเด็ก (1) น้ำยาล้างขวดนม (1) น้ำเกลือล้างจมูก (2) ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก (19) ฝากครรภ์ (1) รถเข็นเด็ก (1) รถไฟฟ้าเด็ก (1) รวมเรื่อง นม สำหรับเด็ก (1) สารพันปัญหา แม่และเด็ก (37) สารพันปัญหาแม่และเด็ก (171) อาหารสำหรับเด็ก (24) อาหารเสริมสำหรับเด็ก (3) อุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับเด็ก (10) อุปกรณ์เสริมสำหรับเด็ก (76) เครื่องนึ่งขวดนม (1) เครื่องปั๊มนม (1) เครื่องอุ่นนม (1) เคล็ดลับเลี้ยงลูก (2) เปล (1) เปลไกวไฟฟ้า (1) เสื้อผ้าเด็ก (5) แพมเพิส (1) โลชั่นเด็ก (1)