คนท้องตาแดง จะส่งผลอันตรายกระทบกับทารกในครรภ์หรือเปล่า

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง คนท้องตาแดง จะส่งผลอันตรายกระทบกับทารกในครรภ์หรือเปล่า อีกหนึ่งโรคที่คุณแม่หลาย ๆ คนมักจะเจอเวลาตั้งครรภ์นั่นคือ “โรคตาแดง” เเล้วเมื่อเป็นเเล้วคุณแม่ก็จะเป็นกังวลกันว่าจะส่งผลไปถึงลูกน้อยมั้ย เป็นอันตรายหรือเปล่าแล้วใช้ยาหยอดตาได้มั้ย คนท้องตาแดง ทำอย่างไรดี รักษาและป้องกันอย่างไรมาไว้ให้ที่นี่ ไปดูกันเลย  

โรคตาแดง

โรคตาแดง ในความหมายโดยทั่วไปคือ อาการที่เยื่อบุตาขาวเปลี่ยนเป็นสีแดง ซึ่งเกิดจากการขยายตัวของเส้นเลือดใต้เยื่อบุตา (conjunctiva) เนื่องจากการอักเสบ โรคตาแดงอาจจะเป็น แบบเฉียบพลัน หรือแบบเรื้อรัง โรค ตาแดงนี้ สามารถพบได้ตลอดปี และจะระบาดได้เป็นช่วงๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ด้วยเหตุที่ ฝนตกก่อให้เกิดความชื้นแฉะทั่ว ๆ ไป ทำให้เชื้อไวรัสบางตัว 

เจริญงอกงามก่อโรคแก่พวกเราขึ้น โดยมักมีสาเหตุมาจาก 

– การติดเชื้อไวรัส เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด มักเกิดจากเชื้อไวรัส Adenovirus ซึ่งอาจเกิดพร้อมกับโรคหวัดหรือการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ อาการของตาแดงจากไวรัสจะรวมถึงตาแดง คัน 

ตาเยิ้ม น้ำตาไหล อาจมีอาการเจ็บคอหรือไอร่วมด้วย

– การติดเชื้อแบคทีเรีย มักทำให้เกิดตาแดงที่มีขี้ตาสีเหลืองหรือสีเขียว อาจมีอาการตาบวม เปลือกตาแดง และรู้สึกเจ็บแสบตา

– การติดเชื้อรา พบน้อยกว่าการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย อาการของตาแดงจากเชื้อราจะคล้ายกับตาแดงจากแบคทีเรีย แต่จะมีขี้ตาสีดำหรือสีน้ำตาล

– ภูมิแพ้ ภูมิแพ้อากาศตามฤดูกาล รวมถึงภูมิแพ้ต่อฝุ่น ละอองสัตว์เลี้ยง และเชื้อรา สามารถทำให้เยื่อบุตาอักเสบชั่วคราว โดยอาการมักไม่รุนแรง มีน้ำตาไหล ตาแดง ระคายเคือง และคัน แต่ไม่มีลักษณะเป็นคราบหรือเยื่อ

– สารระคายเคือง เช่น ควัน ฝุ่น ควันบุหรี่ สารเคมี สระว่ายน้ำ ลมพัดทรายเข้าตา หรือเศษเล็ก ๆ เข้าตา อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา ซึ่งนำไปสู่เยื่อบุตาอักเสบ หรือตาแดงได้

– ตาแห้ง มักเกิดจากการใช้งานสายตามาก พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมน้ำตา

– การใส่คอนแทคเลนส์ การใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่สะอาดหรือใส่เป็นเวลานาน

– โรคประจำตัว  เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคสะเก็ดเงิน โรคไทรอยด์

– รอยถลอกและแผล การเกาตาแรง ๆ จนกระจกตาเป็นรอย หรือโดนกระแทกบริเวณใบหน้า อาจทำให้เกิดการอักเสบ แดง และน้ำตาไหล นอกจากนี้แผลดังกล่าวอาจเป็นช่องทางให้สิ่งสกปรกหรือแบคทีเรียเข้ามาทำให้ระคายเคืองหรือติดเชื้อที่ดวงตาได้

โรคตาแดงไม่ส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์

โรคตาแดงที่เป็นในระหว่างตั้งครรภ์นั้นจะไม่ส่งผลถึงลูกน้อยไม่ว่าจะเป็นจากเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย เพียงแต่เมื่อเป็นแล้วก็ควรที่จะดูแลในเรื่องของความสะอาดมากขึ้น และไม่ควรซื้อยาหยอดตามาหยอดเอง ถึงแม้ยาหยดตาจะมีผลดูดซึมเข้าร่างกายน้อยมาก แต่ทางที่ดีควรไปปรึกษาแพทย์ และใช้ยาตามที่แพทย์สั่งจะปลอดภัยกับคุณแม่ และลูกน้อยที่สุด เพราะวิธีการรักษาของโรคตาแดงทั้งสองอย่างแตกต่างกัน

เมื่อเป็นโรคตาแดง  

และนอกจากจะไปพบแพทย์เพื่อความปลอดภัยแล้ว วิธีการปฏิบัติตัว ดูแลความสะอาดก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้คุณแม่โรคตาแดงหายเร็วยิ่งขึ้น

1.พยายามทำความสะอาดตาบ่อย ๆ ด้วยน้ำยาล้างตา หรือน้ำเปล่าสะอาด

2.ในกรณีที่มีหนองตรงหัวตา สามารถใช้คอตตอลบัดปาดหนองตรงหัวตาทิ้งได้ เพื่อไม่ให้เชื้อหมักหมมจนทำให้เกิดอักเสบเพิ่มขึ้น

3.รักษาความสะอาดให้มาก ๆ ล้างมือบ่อย ๆ และพกทิชชู่เปียกติดไว้ได้ยิ่งดี

4.ถ้าตื่นกลางดึก ตาอาจปิดติดกัน ให้ทำความสะอาดโดยการค่อย ๆ เช็ดเบาๆ ด้วยสำลีชุบน้ำสะอาด หรืออาจจะมียาล้างตาสำหรับล้างตาด้วยก็ได้

5.งดใส่คอนแทคเลนส์ในช่วงที่เป็น

6.ใส่แว่นตากันแดด เวลาที่ต้องออกไปเจอแสงมาก ๆ

การรักษาโรคตาแดงระหว่างตั้งครรภ์

1.ยาหยอดตาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

– โรคตาแดงจากแบคทีเรีย ต้องใช้ยาหยอดตาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเพื่อกำจัดการติดเชื้อ ยาเหล่านี้มักจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นค่อนข้างเร็ว ภายในไม่กี่วัน แต่กว่าจะกลับมาเป็นปกติอาจใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์

– ยาหยอดตาฆ่าเชื้อแบคทีเรียส่วนใหญ่ปลอดภัยสำหรับคุณและลูกน้อยของคุณ แต่ควรแจ้งให้แพทย์ที่สั่งยาของคุณทราบว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ และถ้าหากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ของคุณ

– ยาหยอดตาฆ่าเชื้อแบคทีเรียสำหรับโรคตาแดงที่พบบ่อย ได้แก่ tobramycin, erythromycin และ ofloxacin ยาหยอดตาฆ่าเชื้อเหล่านี้มักปลอดภัยสำหรับการใช้ระหว่างตั้งครรภ์ แต่ถึงอย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง

2.ยาหยอดตาแก้แพ้

– โรคตาแดงจากภูมิแพ้ คุณอาจใช้ยาหยอดตาแก้แพ้ เช่น ketotifen (Zaditor, Alaway) ได้ในปริมาณจำกัด แต่ยาประเภทนี้จัดเป็นยาประเภท C ตามระบบการจัดหมวดหมู่ยาขององค์การอาหารและยา (FDA) ซึ่งเป็นระบบเก่าที่หลายคนยังคงใช้อยู่ ดังนั้นคุณควรปรึกษาแพทย์ก่อน

3.ยาแก้ปวด

– หากคุณมีอาการปวดมากจากโรคตาแดง คุณสามารถทานยาพาราเซตามอลเพื่อบรรเทาอาการได้ ควรระวังว่ายา ibuprofen โดยทั่วไปไม่แนะนำสำหรับสตรีตั้งครรภ์

– ยาแก้แพ้ชนิดรับประทานอาจช่วยบรรเทาอาการตาแดงที่เกิดจากภูมิแพ้ได้ โดยทั่วไปแล้ว ยา Claritin และ Zyrtec ถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ระหว่างตั้งครรภ์

4.น้ำตาเทียม

– น้ำตาเทียมเป็นวิธีที่ดีในการช่วยบรรเทาอาการตาอักเสบหรือระคายเคือง และไม่มีส่วนผสมของยา รวมถึงสามารถใช้กับคอนแทคเลนส์ได้ และสามารถใช้ได้บ่อยเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรเทาอาการตาแห้ง คัน หรือระคายเคือง

– หากคุณเป็นโรคตาแดงที่ไม่ใช่แบคทีเรียและต้องการบรรเทาอาการระหว่างการพักฟื้น ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้น้ำตาเทียมเพื่อบรรเทาอาการบางอย่างของคุณ เนื่องจากเป็นเพียงยาหยอดตาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น จึงปลอดภัยสำหรับการใช้ระหว่างตั้งครรภ์

บทส่งท้าย

เห็นไหมว่าโรคตาแดงไม่ได้น่ากลัวกับคุณแม่อย่างที่คิด แต่ทางที่ดีก็ไม่ควรปล่อยปละละเลย ควรหมั่นดูแลความสะอาด นอนพักผ่อน และกินอาหารที่มีประโยชน์เพื่อจะได้ส่งผลดีถึงลูกน้อยอย่างดีที่สุด

เครดิตรูปภาพ

https://www.careoptics.co.uk https://www.centreforsight.net https://www.eehealth.org

บทความ แม่และเด็ก

อาหารเด็ก/นม/ของเล่นเด็ก/คู่มือคุณแม่

บทความล่าสุด
Tag
ขวดนม Pigeon (1) ของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก (32) คอกกั้นเด็ก (1) คาร์ซีท (1) คู่มือสำหรับคุณแม่ (173) จุกนม (1) ชุดคลุมท้อง (1) ชุดว่ายน้ำเด็ก (1) ตู้แช่นม (1) ทิชชู่เปียก (1) ที่ดูดน้ำมูก (1) นมกล่อง UHT (1) นมผง (1) น้ำยาซักผ้าเด็ก (1) น้ำยาล้างขวดนม (1) น้ำเกลือล้างจมูก (2) ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก (19) ฝากครรภ์ (1) รถเข็นเด็ก (1) รถไฟฟ้าเด็ก (1) รวมเรื่อง นม สำหรับเด็ก (1) สารพันปัญหา แม่และเด็ก (37) สารพันปัญหาแม่และเด็ก (171) อาหารสำหรับเด็ก (24) อาหารเสริมสำหรับเด็ก (3) อุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับเด็ก (10) อุปกรณ์เสริมสำหรับเด็ก (76) เครื่องนึ่งขวดนม (1) เครื่องปั๊มนม (1) เครื่องอุ่นนม (1) เคล็ดลับเลี้ยงลูก (2) เปล (1) เปลไกวไฟฟ้า (1) เสื้อผ้าเด็ก (5) แพมเพิส (1) โลชั่นเด็ก (1)