กินน้ำมันปลาตอนตั้งครรภ์ ลูกฉลาดจริงหรือเปล่า

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง กินน้ำมันปลาตอนตั้งครรภ์ ลูกฉลาดจริงหรือเปล่า คุณแม่ตั้งครรภ์ที่กำลังมองหาอาหารเสริมคงเคยได้ยินสรรพคุณของน้ำมันปลาว่า DHA ในน้ำมันปลานั้นสามารถบำรุงสมองให้ลูกในท้องได้ จึงมีความสนใจอยากหามาบำรุงครรภ์เพิ่มเติม แต่ก็มีความสงสัยว่าคนท้องหากกินน้ำมันปลาจะมีผลต่อสุขภาพครรภ์อย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบมาฝากกัน

Fish oil supplements may cause harm, study finds. 'Is it time to dump  them?' expert asks | CNN

น้ำมันปลา คืออะไร

น้ำมันปลา คือ น้ำมันที่อยู่ในตัวของปลาทะเลน้ำลึก มีกรดไขมันที่สำคัญหลายชนิด 

หลัก ๆ ก็คือ โอเมก้า 3 ที่ประกอบไปด้วย EPA และ DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นส่วนประกอบสำคัญของเนื้อเยื่อไขมันในมนุษย์ มีประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือดหัวใจ บำรุงสมองและสายตา แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น และเนื่องจาก DHA มีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองและดวงตาของทารก ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จึงแนะนำว่าสตรีมีครรภ์และให้นมบุตรควรได้รับ DHA อย่างน้อย 200 มิลลิกรัมต่อวัน

น้ำมันปลา กับ น้ำมันตับปลา ต่างกันอย่างไร

น้ำมันปลา (Fish Oil) เป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัดเนื้อ หัว หาง และหนังของปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล และปลาทูน่า ซึ่งเป็นแหล่งของกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว อย่างโอเมก้า 3 (Omega 3 ) โดยจะประกอบไปด้วย อีพีเอ (EPA) และ ดีเอชเอ (DHA) ซึ่งกรดไขมันเหล่านี้ จะช่วยให้ระบบหลอดเลือด หัวใจ สมอง และสายตาทำงานได้ดียิ่งขึ้น

ส่วนน้ำมันตับปลา (Cod Liver Oil) ที่เราเคยได้ยินกันบ่อย ๆ ทางทีวีนั้น เป็นน้ำมันที่ได้จากตับของปลาทะเล ให้วิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ  และมีวิตามินดี ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูก แต่หากรับประทานมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายเกิดพิษได้

น้ำมันปลา คนท้องกินได้ไหม

อันที่จริงแล้วคุณแม่สามารถรับโอเมก้า 3 EPA และ DHA ได้จากอาหารที่กินเข้าไป เช่น ปลาทะเล และผลิตภัณฑ์จากถั่ว แต่หากรู้สึกว่าไม่เพียงพอก็สามารถกินน้ำมันปลาเสริมได้ เพราะมีผลวิจัยออกมาแล้วว่าไม่เป็นอันตราย ทั้งนี้ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงจึงมีคำแนะนำเพิ่มเติมว่า คนท้องไม่ควรกินน้ำมันปลาในช่วง 3 เดือนแรก เพราะอาจมีผลต่อการฝังของตัวอ่อน และควรหยุดกินก่อนคลอดอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด แต่ระหว่างตั้งครรภ์สามารถกินได้ แต่อย่าสับสนกับน้ำมันตับปลา เนื่องจากน้ำมันตับปลามีวิตามิน A สูง ซึ่งอาจส่งผลต่อทารกได้

น้ำมันปลาทำให้ลูกฉลาดขึ้นจริงหรือ 

หลายงานวิจัยชิ้นก่อน ๆ ระบุว่า น้ำมันปลาหรืออาหารเสริมที่มี DHA อาจช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของทารกได้ แต่ก็มีงานวิจัยอีกชิ้นที่ได้รับการตีพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ในวารสารของสมาคมแพทย์สหรัฐว่า น้ำมันปลา หรือ DHA ไม่ได้มีคุณสมบัติดังกล่าว กล่าวคือ “น้ำมันปลาไม่ได้ทำให้เด็กในครรภ์ฉลาดขึ้น แต่มันก็ไม่ได้เป็นอันตรายหรือส่งผลเสียถ้าคุณแม่จะเสริม DHA ด้วยการรับประทานน้ำมันปลาในรูปแบบของอาหารเสริม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณแม่รับประทานอาหารได้ไม่ครบหมู่ ขาดการบริโภคปลาเป็นประจำ หรือมีสุขภาพไม่แข็งแรง หรือคุณแม่ที่รับประทานปลาได้น้อยเพราะเบื่อปลา แพ้ เหม็น หรือมีอาการคลื่นไส้ ซึ่งการรับประทานน้ำมันปลาก็ยังมีประโยชน์มากกว่าการไม่รับประทานอยู่ดี”

ประโยชน์ของน้ำมันปลาต่อคนท้อง 

1.สำหรับทารกแรกเกิด DHA ในน้ำมันปลาอาจช่วยพัฒนาสมองในระบบประสาทส่วนกลางและพัฒนาเซลล์เนื้อเยื่อดวงตาซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการมองเห็นของเด็ก โดยเฉพาะพัฒนาการทางสมองของเด็กในช่วงที่อยู่ในครรภ์ไตรมาสสุดท้ายและในช่วงเดือนแรก ๆ หลังการคลอด เนื่องจาก DHA เป็นองค์ประกอบของเซลล์สมอง จอประสาทตา หากทารกได้รับอย่างเพียงพอก็จะส่งผลให้มีพัฒนาการทางสมองและสายตาที่สมบูรณ์ขึ้น

2.การรับประทานน้ำมันปลาในระหว่างการตั้งครรภ์สามารถช่วยเสริมภูมิต้านทานของร่างกายให้คุณแม่ได้ และยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ทารกด้วยเช่นกัน โดยอาจมีผลช่วยทำให้ทารกไม่ค่อยเป็นหวัดในช่วงเดือนแรก ๆ หลังการคลอด

3.การรับประทานน้ำมันปลาจะช่วยลดอาการอักเสบของข้อกระดูกที่คุณแม่ตั้งครรภ์มักพบเจอได้

4.สำหรับคุณแม่หลังคลอด การรับประทานน้ำมันปลาในรูปแบบอาหารเสริมอาจช่วยลดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้อย่างมีนัยสำคัญ

ผลข้างเคียงของน้ำมันปลา

น้ำมันปลามีชื่อเสียงในด้านคุณสมบัติส่งเสริมสุขภาพมากมาย และยังอุดมไปด้วยกรด  

ไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีต่อสุขภาพหัว น้ำมันปลานั้นยังช่วยลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด บรรเทาอาการอักเสบ บรรเทาอาการต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม การรับประทานน้ำมันปลาไม่ได้ดีเสมอไป และการรับประทานน้ำมันปลาในปริมาณที่สูงเกินไปอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดีต่อสุขภาพ ก่อนรับประทานคุณแม่ควรทราบถึงผลข้างเคียงหรือโทษของน้ำมันปลา ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อคุณกินน้ำมันปลาหรือกรดไขมันโอเมก้า 3 มากเกินไป

– น้ำตาลในเลือดสูง

– เลือดออก

– ความดันโลหิตต่ำ

– โรคท้องร่วง

– กรดไหลย้อน

– โรคหลอดเลือดในสมอง

– นอนไม่หลับ

บทส่งท้าย

การรับประทานน้ำมันปลามากจนเกินกว่าที่กำหนด อาจจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าผลดีที่จะได้รับ แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะรับประทานน้ำมันปลาควรปรึกษาทางแพทย์ก่อนจะดีกว่าเพื่อความปลอดภัย และลดความเสี่ยงของตัวคุณแม่เอง

เครดิตรูปภาพ

pharmaceutical-journal.com www.sbs.com.au omegaquant.com americanpregnancy.org

บทความ แม่และเด็ก

อาหารเด็ก/นม/ของเล่นเด็ก/คู่มือคุณแม่

บทความล่าสุด
Tag
ขวดนม Pigeon (1) ของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก (32) คอกกั้นเด็ก (1) คาร์ซีท (1) คู่มือสำหรับคุณแม่ (173) จุกนม (1) ชุดคลุมท้อง (1) ชุดว่ายน้ำเด็ก (1) ตู้แช่นม (1) ทิชชู่เปียก (1) ที่ดูดน้ำมูก (1) นมกล่อง UHT (1) นมผง (1) น้ำยาซักผ้าเด็ก (1) น้ำยาล้างขวดนม (1) น้ำเกลือล้างจมูก (2) ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก (19) ฝากครรภ์ (1) รถเข็นเด็ก (1) รถไฟฟ้าเด็ก (1) รวมเรื่อง นม สำหรับเด็ก (1) สารพันปัญหา แม่และเด็ก (37) สารพันปัญหาแม่และเด็ก (171) อาหารสำหรับเด็ก (24) อาหารเสริมสำหรับเด็ก (3) อุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับเด็ก (10) อุปกรณ์เสริมสำหรับเด็ก (76) เครื่องนึ่งขวดนม (1) เครื่องปั๊มนม (1) เครื่องอุ่นนม (1) เคล็ดลับเลี้ยงลูก (2) เปล (1) เปลไกวไฟฟ้า (1) เสื้อผ้าเด็ก (5) แพมเพิส (1) โลชั่นเด็ก (1)