คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่ว่าเสียงดนตรีนั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับลูกน้อยเป็นอย่างมาก ดนตรีเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาอย่างยาวนาน ซื้อตัวนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยชูใจที่ทำให้เราเพลิดเพลินแล้วแต่ยังมีประโยชน์ ต่อพัฒนาการทางด้านต่างๆของเด็กเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเด็กในวัยทารกจะช่วยส่งเสริมทักษะทางด้านดนตรีให้ลูก ได้เป็นอย่างดีซึ่งเด็กที่มีดนตรีในหัวใจจะช่วยให้เขามีปัญหากันทั้งด้านต่างๆดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแตกต่างจากเด็กทั่วไป ซึ่งประโยชน์ของดนตรีกับพัฒนาการของลูกนะจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการได้แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย ดนตรีจะมีประโยชน์กับช่วงวัยไหนบ้างนั้นไปติดตามกันเลย
1. เด็กในวัย 4-8 เดือน
ชื่นชอบเป็นอย่างมากกับ เสียงดนตรีกุ๊งกิ๊ง โดยของเล่นแนะนำได้แก่กองใบเล็ก กระดิ่ง ลูกแซก เป็นเครื่องเล่นที่มีเสียง เมื่อเขย่า จะช่วยเสริมสร้างเชาว์ปัญญา เด็กในวัยนี้กิจกรรม ทางด้านดนตรี จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้โดยการจัดของเล่นและเครื่องดนตรีที่มีเสียงกุ๊งกิ๊ง หรือเครื่องดนตรีที่เป็นประเภทตีกระทบ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะวางเครื่องดนตรีเหล่านี้ไว้ใกล้ๆตัวของลูก การเขย่าหรือการขอเครื่องดนตรีนี้จะช่วยดึงดูดความสนใจ โดยที่คุณพ่อคุณแม่ถามว่าพูดคำศัพท์ 2-3 คำประกอบกับการเขย่าอยู่เครื่องดนตรีเหล่านั้นจะช่วยให้ลูกนั้นเรียนรู้ผ่านเสียงดนตรีได้เป็นอย่างดี
2. เด็กในวัย 8 ถึง 12 เดือน
เครื่องดนตรีที่เหมาะสมสำหรับลูกคือ ไซโลโฟน คีย์บอร์ด หรือเครื่องดนตรีที่ กด เป่า ตี แล้วมีเสียง ถือเป็นกิจกรรมทางดนตรีที่สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็กในช่วงวัยนี้ ของเล่นประเภทนี้จะช่วยให้ลูกนั้นเรียนรู้เสียงของดนตรีได้ด้วยตัวเอง จะทำให้เขาตื่นตาตื่นใจและสนุกสนานกับเสียงดนตรีนี้ได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถทำกิจกรรมร่วมกับลูกโดยทำให้ดูเป็นตัวอย่างให้เด็กเรียนแบบทั้งในด้านของเสียง ดัง เบา และความเร็ว ช้าของจังหวะดนตรี จะทำให้ลูกนั้นเกิดความรู้สึกท้าทายมากยิ่งขึ้น
3. เด็กในวัย 1-2 ขวบ
การเล่นดนตรีตามจังหวะเพลงด้วยการเขย่า เคาะ หรือตีที่ทำให้เกิดเสียงตามเพลง เช่นเครื่องดนตรีประเภท แทมโบลีน ลูกแซก หรือกลอง คุณพ่อคุณแม่สามารถเสริมคำศัพท์พื้นๆไปกับเสียงเพลงได้ด้วย เช่นเพลงที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะ อย่าง Head Shoulder Knees and Toes เป็นต้น ซึ่งการใช้ทำนองเพลงซ้ำๆกันร้องวนไปวนมาเรื่อยๆจะทำให้เด็กเรียนรู้และจดจำคำศัพท์ได้เร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ลูกนะเพลินและอารมณ์ดีไปกับเสียงเพลงได้อีกด้วย
4. เด็กในวัย 2-4 ขวบ
กับการร้องเพลงที่มีการโต้ตอบกันประกอบกัน การใช้เสียงดนตรี จะช่วยทำให้กระบวนการรับรู้สิ่งต่างๆรอบตัวของลูกนั้นพัฒนาได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถร้องเพลงเข้าจังหวะกับลูกได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษจะช่วยให้เขาสนุกสนานและเรียนรู้คำศัพท์ได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
5. ส่วนเด็กในวัย 4 ถึง 7 ขวบ
ดนตรีนั้นมีประโยชน์ทำให้ลูกนั้นอารมณ์ดี เด็กในวัยนี้จะสามารถแยกแยะอารมณ์ความรู้สึกของดนตรีได้ เครื่องดนตรีที่เหมาะสมสำหรับเด็กในวัยนี้คือ เปียโน ไวโอลิน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมทางดนตรีที่เหมาะสมเป็นอย่างมากสำหรับเด็กในวัยนี้ นอกจากการเล่นดนตรีแล้วคุณพ่อคุณแม่สามารถสอนหรือฝึกให้ลูกนั้นเต้นหรือเคลื่อนไหวตามจังหวะของเสียงเพลงได้อีกด้วย ซึ่งเด็กในวัยนี้จะสามารถแยกแยะอารมณ์ความรู้สึกของดนตรีได้แล้วเช่น เด็กจะยืนนิ่งเมื่อได้ยินทำนองเพลงช้าหรือจะกระโดดโลดเต้นเมื่อได้ยินเสียงดนตรีที่สนุกสนานเป็นต้น
จะเห็นได้ว่าดนตรีนั้นมีส่วนสำคัญและจำเป็นอย่างมากต่อพัฒนาการเจริญเติบโตของลูกน้อยในแต่ละช่วงวัย ซึ่งลูกสามารถปรับตัวและพัฒนาการต่างๆในแต่ละช่วงวัยจากเสียงดนตรีได้ในรูปแบบที่แตกต่างกันคุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกหาของเล่นหรือเครื่องดนตรีที่เหมาะสมกับวัยของลูกเพื่อให้พัฒนาการนั้นเจริญเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดนั่นเอง นอกจากรูปนั้นจะได้ประโยชน์จากเสียงดนตรีแล้วการเล่นดนตรีหรือการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างครอบครัวยังเป็นช่วงเวลาทองที่จะช่วยกระชับความสัมพันธ์และช่วยให้ลูกนั้นลดการต่อต้านกับคุณพ่อคุณแม่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย