บทความนี้ขอแนะนำ “พาลูกไปแคมป์ปิ้งเรียนรู้ธรรมชาติ มีประโยชน์แค่ไหน ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง” อีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวแบบครอบครัวที่นิยมก็คือ การแคมป์ปิ้งกางเต็นท์ สำหรับครอบครัวไหนที่วางแผนจะพาเด็กไปกางเต็นท์ด้วย แต่ก็ยังห่วงว่าจะดีไหม ต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง จะเลือกสถานที่แบบไหนดี บทความนี้มีข้อมูลมาฝากกัน
ทำความรู้จักกับ แคมป์ปิ้ง
การตั้งแคมป์เป็นหนึ่งในกิจกรรมกลางแจ้งช่วงฤดูร้อนที่ครอบครัวหลาย ๆ ครอบครัวชื่นชอบ การตั้งแคมป์สามารถทำให้ผ่อนคลาย ช่วยให้เด็กใจเย็นลงได้ในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผจญภัยขึ้นไปบนภูเขา ซึ่งอุณหภูมิมักจะเย็นกว่าอย่างน้อยสองสามองศา ถ้านึกถึงเด็ก ๆ ก็ต้องนึกถึงการท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมสักอย่างสำหรับเด็ก หรือเปิดโลกกว้างสำหรับสิ่งใหม่ ๆ เพื่อใช้เป็นเวลาว่างภายในครอบครัว รวมถึงช่วงปิดเทอม จะเป็นช่วงที่พ่อแม่มีเวลาเพื่อลูก ๆ มากที่สุด อาจจะไปเที่ยวแคมป์ปิ้งสักที่ เพื่อสร้างประสบการณ์ ฝึกการพักแรมนอกสถานที่ และภูมิคุ้มกันในการดำเนินชีวิตในอนาคต
ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับเมื่อไป “แคมป์ปิ้ง”
1.ฝึกให้เด็กรู้จักวางแผน
การเช็กลิสต์จัดเตรียมของใช้ เสื้อผ้า ของเล่น อุปกรณ์ส่วนตัวของเขาที่จะเอาไป เป็นการฝึกให้เด็กรู้จักวางแผนแบบง่าย ๆ โดยมีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำ เขาจะมองออกว่าสิ่งไหนที่เขาต้องใช้ จำเป็นหรือไม่ และทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ลืม ต้องจด ต้องตรวจเช็กก่อนเดินทาง เป็นการฝึกความละเอียดรอบคอบ
2.เพิ่มทักษะการเอาตัวรอดในเด็ก
การฝึกการดำรงชีวิตในป่า หรือการดำรงชีวิตโดยปราศจากสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งเป็นการสร้างทักษะการเอาตัวรอด ในยามฉุกเฉิน หรือยามที่จำเป็นต้องอยู่โดยปราศจากสิ่งของสำคัญ เช่น ไม่มีไฟฟ้าใช้ สัญญาณโทรศัพท์ไม่ถึง หรือทำให้เด็กกล้าที่จะผจญภัย หรืออยู่ในที่ที่แปลกตาไปจากเดิม ซึ่งการพาเด็กไปแคมป์ปิ้ง ช่วยให้เด็กรู้จักเอาตัวรอดให้เป็น ระมัดระวังภัยอันตราย และพร้อมที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต
3.ฝึกให้เด็กรู้จักจัดระเบียบ
เด็กได้เรียนรู้ง่ายๆ จากการแพ็คของในกระเป๋า การพับเก็บเสื้อผ้า ของชิ้นนี้ต้องไว้ตรงไหนถึงจะหยิบจับได้ง่าย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งทักษะพื้นฐานสำหรับการใช้ชีวิตและทำงานให้มีประสิทธิภาพเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ก็คือ การรู้จักจัดระเบียบและลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เมื่อชีวิตเป็นระเบียบ ไม่ยุ่งเหยิง ทำอะไรก็ราบรื่น เรื่องนี้เราก็ค่อย ๆ สอนเขาจากเริ่มทำสิ่งง่าย ๆ ใกล้ตัวจนเคยชินเป็นนิสัยได้ไม่ยากเลย
4.ฝึกให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกาย
เวลาที่เขาได้ช่วยยกของ จัดของ กางเต็นท์ ในมุมของเด็กคือสิ่งที่สนุกมากๆ ตามธรรมชาติของเด็ก ต้องการเล่น กระโดดโลดเต้น ไม่อยู่กับที่ ทำโน่นทำนี่ จะทำให้เด็กมีอารมณ์ที่แจ่มใสและมีสุขภาพที่ดีทั้งใจและกาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เมื่อติดตัวเขาไปตอนโตทำให้เขามีทัศนคติที่ดี มองโลกในแง่บวก อดทนและรู้จักแก้ปัญหา
5.ฝึกให้เด็กรู้จักช่วยเหลือตัวเอง
เริ่มจากการขนเป้ด้วยตัวเอง จัดที่นอน อาบน้ำ ใส่เสื้อผ้า ใส่เสื้อกันหนาวเอง จากที่เคยมีผู้ใหญ่ทำให้เตรียมให้ตลอด เขาจะได้ฝึกทำและเรียงลำดับความสำคัญของสิ่งนั้น ๆ ได้อย่างถูกต้องด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้น มาเริ่มฝึกให้เด็กดูแลตัวเองได้ในวันนี้ วันข้างหน้าเขาเก่งก็จะสามารถดูแลผู้อื่นได้ด้วย
6.ฝึกให้เด็กรู้จักอยู่ร่วมกับผู้อื่น
การอยู่ร่วมกับคนหมู่มากคือทักษะอย่างหนึ่งที่เด็กต้องเรียนรู้ นอกจากเก่งรู้ ก็ต้องเก่งที่จะเข้าใจผู้อื่น เด็กต้องเรียนรู้จากการใช้ชีวิตกับผู้อื่นจริง ๆ เพราะในชีวิตจริงการทำงานกับคนหมู่มากย่อมมีปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย แต่ละคนก็นิสัยใจคอต่างกันไป หากเด็กได้ฝึกทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่นแต่น้อย ๆ เขาจะรู้ว่าบางอย่างก็ไม่ได้ดั่งใจเขาเสมอไป แล้วเขาควรจะวางตัวอย่างไร พูดจาสื่อสารแบบไหน เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและรักษาน้ำใจของอีกฝ่าย
7.ให้ความสนุกสนานต่อเด็ก
เด็กไทยมีอุปสรรคในเรื่องการมุ่งเน้นเรียนพิเศษมากเกินไป จึงมีโอกาสสร้างความตึงเครียดได้ ความสนุกสนานที่ได้รับคือการได้ท่องโลกกว้าง พบเจอสิ่งใหม่ๆ ได้ลองเหมือนได้เล่น และได้เห็นสภาพแวดล้อมนอกห้องเรียนได้โดยไม่รู้สึกเบื่อ ซึ่งจะช่วยลดความตึงเครียดในจิตใจเด็กได้
พาเด็กไปแคมป์ปิ้งต้องเตรียมอะไรบ้าง
1.เลือกสถานที่และตรวจสอบสภาพอากาศก่อนไป
การเลือกสถานที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่สถานที่ที่ดี ก็ต้องไปในช่วงเวลาและสภาพอากาศที่เหมาะสม ดังนั้น หลังจากคุณพ่อคุณแม่เลือกสถานที่และช่วงเวลาที่จะเดินทางแล้ว อย่าลืมตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง เพื่อวางแผนการเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เช่น ถ้าอากาศร้อน คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องเตรียมพัดลมพกพาหรือผ้าเย็น ถ้ามีโอกาสที่ฝนจะตกก็อย่าลืมเตรียมร่ม ชุดกันฝน และรองเท้าบู๊ต ติดกระเป๋าไปด้วย
2.เลือกพื้นที่และทำเลกางเต็นท์
– ต้องเป็นพื้นที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ที่สะอาด ปลอดภัย ไม่เปลี่ยว
– หลีกเลี่ยงพื้นที่จุดอันตราย เลือกพื้นที่กางเต็นท์ที่ปลอดภัย เลี่ยงใกล้บริเวณลำน้ำ บึง หรือที่ลาดสูงชัน รวมถึงพื้นที่เป็นพุ่มหญ้ารก เพื่อป้องกันสัตว์อันตราย
– มีพื้นที่กว้างพอให้ลูกวิ่งเล่นและทำกิจกรรมกับธรรมชาติได้
– เลือกจุดกางเต็นท์ที่ห่างจากเต็นท์อื่นเล็กน้อย แต่ไม่ลับตาคน เพื่อลดการที่ลูกอาจสร้างเสียงรบกวนคนอื่นได้
3.เตรียมอุปกรณ์แคมป์ปิ้งให้พร้อม
– เต็นท์นอน ควรจะเลือกเผื่อขนาดจำนวนคนไปด้วย เพราะเด็กเขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวสำหรับนอน นั่งเล่น วัสดุผ้าระบายความร้อน มีประตู หน้าต่าง ให้อากาศถ่ายเทสะดวก มีพื้นที่ให้เด็กได้นอนเล่นในเต็นท์สบาย ๆ ไม่รู้สึกอึดอัดและแปลกที่เกินไป
– อย่าลืมผ้าใบสำหรับกางบังเต็นท์ (Fly Sheet) ไปด้วย สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ใช้กางทำเป็นที่บังกันแดดให้เด็กนั่งเล่น หรือไว้สำหรับคุณแม่กางบังแดดเวลาทำอาหาร
– ไฟฉาย หรือ อุปกรณ์ให้แสงสว่าง พกเตรียมไว้เผื่อพาเด็ก ๆ ไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ให้แสงสว่างป้องกันอุบัติเหตุเด็กเดินล้ม
– การเตรียมเสื้อผ้าให้หนู ๆ ให้เด็กสวมเสื้อผ้าแยกเป็นชั้น ๆ สวมด้านในหนึ่งชั้นเพื่อความอบอุ่น เนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ส่วนด้านนอกให้สวมเป็นเสื้อกันแดดหรือเสื้อกันหนาว กางเกงขายาว ไม่รัดเกินไป สะดวกต่อการเคลื่อนไหว และยัดขากางเกงเข้าไปในถุงเท้าให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันพวกแมลงเล็ก ๆ
– ยาประจำตัว โดยเฉพาะยาสามัญสำหรับเด็ก เช่น ยาลดไข้ ยาแก้แพ้อุปกรณ์ทำแผล ยาทาแก้แมลงสัตว์กัดต่อย และยาที่สำคัญสำหรับการแคมป์ปิ้งก็คือยากันยุงและแมลงที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเป็นมิตรกับธรรมชาติ
4.ตรียมอาหารของลูกน้อย
คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมอาหารของลูกไว้ในหีบห่อที่สะอาดและหยิบกินได้ง่าย เพื่อลดการปนเปื้อนสิ่งสกปรก เตรียมช้อน ส้อม และน้ำดื่มสะอาดใส่ขวดหรือกระติกน้ำให้พร้อม เพราะลูกอาจจะเล่นจนเหนื่อยและหิวมากกว่าปกติ คุณพ่อคุณแม่จึงควรมีอาหารที่เตรียมพร้อมไว้ให้ลูกกินรองท้อง รวมทั้งเมนูอาหารที่ทำง่าย ไม่ซับซ้อน และรวดเร็ว เช่น ไข่ต้ม ไข่ดาว และไส้กรอกที่ลูกชอบ
5. ความพร้อมของร่างกายและจิตใจของสมาชิกในครอบครัว
คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องเตรียมตัวไปเหนื่อยกว่าปกติ เตรียมรับความงอแงของลูกมากกว่าปกติ อย่าคาดหวังความสะดวกสบายและราบรื่นจากการแคมป์ปิ้งมากเกินไป
บทส่งท้าย
กิจกรรมแคมปปิ้งไม่เพียงแต่เพื่อความเพลิดเพลินสำหรับผู้ใหญ่อย่างเราเท่านั้น ยังเป็นกิจกรรมที่แฝงไปด้วยประโยชน์หลากหลายที่ช่วยเสริมทักษะให้เด็กทั้งความรู้และการใช้ชีวิตประจำวัน แถมหนู ๆ ก็ยังได้เพื่อน ได้ความสนุกเพลิดเพลินกันอีกด้วย
เครดิตรูปภาพ kidsactivitiesblog.com stock.adobe.com www.123rf.com