สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการตั้งครรภ์ หรือในช่วง 2-3 สัปดาห์สุดท้ายใกล้คลอด โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่จะต้องมีความกังวลและตื่นเต้นอย่างมากแน่นอน ซึ่งในช่วงนี้คุณแม่ต้องเฝ้าสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายได้อยู่ตลอดเวลา และระมัดระวังตัวเองเป็นพิเศษ เพราะในช่วงนี้ร่างกายและทารกเตรียมพร้อมที่จะคลอดอยู่ตลดเวลา ซึ่งก่อนการคลอดนั้นมักมีสัญญาณเตือนให้คุณแม่ได้เตรียมตัว เตรียมความพร้อมที่จะได้เห็นลูกน้อยในครรภ์ลืมตาดูโลกครั้งแรก ซึ่งอาการก่อนคลอดนั้น มักเกิดขึ้นเตือนก่อนกำหนดคลอดไม่กี่สัปดาห์ จะมีอาการเตือนที่คุณแม่ต้องเฝ้าระวังใดบ้างนั้นไปติดตามกันเลย
1. อาการเจ็บท้องเตือน
เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนว่าคุณแม่ใกล้คลอดแล้ว อาการเจ็บท้องเตือนนั้นเกิดจากมดลูกที่ขยายขนาดเต็มที่แล้วค่อยๆเคลื่อนต่ำลง สภาวะนี้คุณแม่จะรู้สึกว่ามีท้องแข็งเกิดขึ้นเป็นระยะๆ แต่ไม่บ่อยและถี่มากเท่ากับการเจ็บท้องจริง เมื่อนั่งพักแล้วจะรู้สึกดีขึ้น แตกต่างจากการเจ็บท้องจริงที่ปวดจนไม่สามารถทำอะไรได้เลย
2. อาการท้องลด
ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่าคุณแม่ต้องเตรียมพร้อมที่จะคลอดลูกน้อยอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากสภาวะนี้ทารกได้มีการกลับหัวเคลื่อนต่ำลง จะสังเกตได้จากความสูงของยอดมดลูกที่ลดลง ทำให้คุณแม่รู้สึกหายใจได้โล่งสบายมากยิ่งขึ้น หากมีอาการนี้ในท้องแรกจะคลอดภายใน 1 เดือน แต่ถ้าหากเกิดขึ้นในท้องหลังคุณแม่อาจคลอดทารกภายในไม่กี่วันที่จะถึงนี้
3. มีมูกไหลออกมาทางช่องคลอด
โดยปกติแล้วหญิงตั้งครรภ์บริเวณปากมดลูกจะมีเมื่อที่เรียกว่า mucus plug มูกนี้มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่มดลูกในระหว่างตั้งครรภ์ เมื่อร่างกายเข้าสู่กระบวนการคลอดปากมดลูกจะเริ่มเปิดและบางลงทำให้เมื่อกี้นี้หลุดออกมาซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่าร่างกายใกล้คลอดแล้วและบางครั้งนี้อาจมาพร้อมกับเลือดฝนออกมาด้วย นอกจากนี้เมื่อร่างกายใกล้คลอดแล้วปากมดลูกเริ่มขยายมากขึ้นทำให้เส้นเลือดบริเวณปากมดลูกมีการแตกและมีมูกเลือดไหลปนออกมา หากคุณแม่มีอาการเหล่านี้ควรเตรียมตัวให้พร้อม
4. อาการเจ็บท้องคลอด
สภาวะนี้คุณแม่จะรู้สึกเจ็บท้องคล้ายกับการเจ็บท้องหลอก แตกต่างกันตรงที่ อาการปวดนั้นรุนแรงกว่าหลายเท่า จะสังเกตได้ว่าถ้าคุณแม่มีอาการเจ็บท้องคลอดจะเจ็บถี่ต่อเนื่องกัน โดยอาการปวดนั้นจะปวดถี่ๆทุกๆ 10 นาที และมีอาการปวดที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนคลอด เมื่อนั่งพักก็ไม่คลายปวด อาจมาพร้อมกับอาการปวดยอดมดลูกและแผ่นหลัง หรือบางกรณีอาจมีมูกเลือดปนออกมาทางช่องคลอดด้วยเช่นกัน
5. ท้องเสีย
อาการท้องเสียนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน มีหลายปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดการท้องเสีย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ อาหารการกิน กระเพาะอาหารเกิดการระคายเคือง หรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เป็นต้น แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ในไตรมาสสุดท้ายแล้ว ถ้ามีอาการท้องเสียอย่าชล่าใจไป อาการท้องเสียที่เกิดขึ้นนั้นอาจเกิดจากร่างกายปล่อยสารโพรสตาแกลนดินออกมา ทำให้มดลูกหดตัว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่จะบ่งบอกได้ว่าคุณแม่ใกล้คลอดแล้ว
6. ถุงน้ำคร่ำแตก
หรือที่เรียกว่าน้ำเดิน อาการนี้แสดงถึงมดลูกเริ่มบิดตัวหดเล็กลงมากขึ้นเพื่อช่วยให้เสมหะของเด็กเคลื่อนลงสู่อุ้งเชิงการได้มากยิ่งขึ้น โดยน้ำที่ออกมาจะมีลักษณะใสคล้ายกับน้ำปัสสาวะ ไม่มีกลิ่น ซึ่งน้ำใสนี้อาจค่อยๆไหลออกมาทีละน้อยหรืออาจจะไหลพวกเดียวเลยก็ได้ คุณแม่ที่มีอาการน้ำเดินมีโอกาสสูงที่จะคลอดลูก 80% โดยมักจะคลอดภายใน 12 ชั่วโมง ดังนั้นเมื่อคุณแม่มีอาการเหล่านี้ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที
และนี่ก็ถือเป็นสัญญาณเตือนที่จะช่วยบ่งบอกให้คุณแม่นั้นเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในช่วง 2-3 สัปดาห์สุดท้าย ควรเฝ้าระวังและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากพบว่าร่างกาย มี 6 สัญญาณเตือนเกิดขึ้น ให้รีบไปโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดในทันที ทั้งนี้เพื่อช่วยให้การคลอดนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น และเพื่อความปลอดภัยทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์นั่นเอง
Credit สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ