คนท้องกินอาหารทะเลได้ไหม ทานมากไปส่งผลอันตรายต่อครรภ์หรือเปล่า

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง คนท้องกินอาหารทะเลได้ไหม ทานมากไปส่งผลอันตรายต่อครรภ์หรือเปล่า คนท้องกินอาหารทะเลได้ไหม อาหารที่ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ กินไป มีผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์อย่างแน่นอน การกินอาหารที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญในช่วงตั้งครรภ์ แต่ควรทานแบบไหน ทานมากได้หรือต้องทานน้อย ๆ ไปหาคำตอบกัน

คนท้องกินอาหารทะเลได้ไหม

คนท้องทานอาหารทะเลได้ ในอาหารทะเลไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา สาหร่ายทะเล ล้วนมีประโยชน์กับร่างกายคนท้อง เนื่องจากในอาหารทะเลจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และสารอาหารต่าง ๆ เช่น ธาตุเหล็ก ไอโอดีน โอเมก้า ดีเอชเอ วิตามินเอ วิตามินบี 1, 2, 3 กรดอะมิโน แคลเซียม โปรตีน ฯลฯ ซึ่งสารอาหารต่าง ๆ เหล่านี้จำเป็นอย่างมากต่อร่างกายของแม่ และต่อพัฒนาการร่างกายและสมองของทารกในครรภ์

รับประทานในปริมาณจำนวน ที่พอดี อาหารทะเลมีประโยชน์ต่อคนท้องก็จริง แต่คุณแม่ต้องทานในปริมาณที่เพียงพอและพอดีไม่มากเกินไป ในหนึ่งวันควรทานอาหารทะเลหนึ่งมื้อ และในหนึ่งสัปดาห์ควรทานอย่างน้อยจำนวน สัปดาห์ละ 2 ครั้งพอประมาณ โดยอาหารทะเลที่ต้องจำกัดปริมาณมากที่สุดคือ ปลาหมึก กุ้ง หอย ปู เพราะเป็นอาหารทะเลที่มีคอเลสเตอรอลสูงมาก และการปรุงให้สุกก่อนรับประทาน เป็นการระมัดระวังผลกระทบที่ตามมาและเป็นการฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับอาหารทะเล

ประโยชน์ของอาหารทะเลกับคนท้อง

อาหารทะเลนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งธาตุเหล็ก โปรตีน มีกรดไขมัน ฯลฯ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแม่ท้องแข็งแรงแล้ว สารอาหารที่ได้ยังไปช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไปให้กลับมาสมบูรณ์มากขึ้นอีกครั้ง และสารอาหารที่ได้จากอาหารทะเลที่แม่ท้องทานเข้าไป มีส่วนสำคัญในการช่วยเสริมสร้างสมองของทารกน้อยในครรภ์ รวมถึงช่วยสร้างพัฒนาการด้านร่างกายของลูกให้เติบโตอย่างสมบูรณ์ไปตามช่วงอายุครรภ์ทั้ง 9 เดือนอย่างสมบูรณ์

ข้อแนะนำสำหรับคุณแม่ที่จะทานอาหารทะเล

1.เลือกปลาให้ถูกต้อง  หากดูตารางด้านบนประกอบ เชื่อว่าคุณแม่จะสามารถเลือกปลามาทานได้ไม่ยาก ซึ่งไม่ควรเลี่ยงทานปลาที่ห้ามทาน และไม่ควรทานเกินกว่าที่ตารางแนะนำอย่างเด็ดขาด

2.ความสะอาดมาก่อน  หลังจากเลือกปลาทานได้แล้ว ควรทำความสะอาดให้ดีก่อน หรือเลือกร้านที่สะอาด ถูกหลักอนามัย มีวิธีการปรุงที่ถูกต้อง คนทำอาหารใส่ถุงมือ เก็บผมอย่างดี เพราะถึงแม้ว่าปลาจะสะอาด แต่อาจได้รับสิ่งสกปรก หรือเชื้อโรคมาจากสิ่งแวดล้อมอื่นได้

3.ทานปลาที่ปรุงสุกเท่านั้น  สิ่งที่ต้องเน้นย้ำ คือ การทานอาหารทะเลแบบสด ๆ อาจเป็นสิ่งที่คุณแม่ชอบทานช่วงก่อนตั้งครรภ์ แต่ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ควรทานอาหารเหล่านี้แบบดิบ ต้องปรุงสุกเท่านั้น เพื่อให้เชื้อโรคต่าง ๆ ถูกกำจัดในกระบวนการปรุงอาหารด้วยความร้อน

อันตรายที่ซ่อนอยู่ในอาหารทะเล ที่คุณแม่ท้องต้องระวัง

1.เหล่าปรสิตและพยาธิตัวตืดมีอยู่มากมายในอาหารทะเล การแช่ช่องแข็ง หรือการทำให้สุกจะสามารถฆ่าปรสิตได้ จึงไม่แปลกเลยที่เมนูซูชิของญี่ปุ่นนิยมใช้ปลาแช่แข็งมากกว่าปลาสด ๆ เพื่อความปลอดภัย แต่แม่ท้องก็ไม่ควรเสี่ยงกินอยู่ดี

2. แม่ท้องควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทหอย กุ้ง ปู ที่ไม่สุก เพราะจะเต็มไปด้วยไวรัสและแบคทีเรีย เช่น Salmonella Vibrio parahemolyticus ฯลฯ ถ้าไม่สบายตอนตั้งท้องจะยุ่งเอา

3.ปลาที่มาจากทะเลอย่างปลาทู ปลาทูน่า สะอาดกว่าปลาที่มาจากแม่น้ำหรือทะเลสาบ และหากสะดวกแบบกระป๋องควรกินชนิดที่อยู่ในน้ำเกลือจะดีกว่า

4.ให้กินปลาตัวเล็ก อย่ากินปลาตัวใหญ่ๆ อย่าง ปลาคิง แมคคอเรียล ปลาฉนาก ปลาฉลาม เพราะมักมีสารปรอทปนเปื้อนสูง และอาจส่งผลกระทบกับระบบประสาทของเจ้าหนูที่อยู่ในครรภ์ด้วย ปริมาณที่กินได้ไม่ควรเกินอาทิตย์ละ 2 ครั้ง

5.สัตว์ทะเลที่จับมาจากธรรมชาติจะมีสารพิษตกค้างน้อยกว่าสัตว์ทะเลเพาะเลี้ยง

6.อย่ากินปลาชนิดเดียวกันซ้ำเกิน 2 ครั้งต่ออาทิตย์ เพราะอาจทำให้เกิดสารพิษสะสมตกค้างได้

5 ความเสี่ยงจากการกินอาหารที่ไม่สะอาด

1.โรคอาหารเป็นพิษ มีไข้ อาเจียน

โรคอาหารเป็นพิษ ส่วนมากมักเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วในช่วง ระยะเวลาอันสั้นภายหลังจากรับประทานอาหารเข้าไป อาการของโรคอาจจะเกิดขึ้น ภายใน 1 ชั่วโมง จนถึง  8 วัน หลังการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไป สังเกตอาการเบื้องต้น จะรู้สึกพะอืดพะอมทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ รู้สึกเบื่ออาหาร อุจจาระร่วง หรือหนักมากคือท้องร่วงอย่างรุนแรง

2.โรคติดเชื้อทางเดินอาหารหรือระบบลำไส้

อาการติดเชื้อโรคในทางเดินอาหาร ทำให้ท้องเสียหนัก ปวดท้องรุนแรง และถ้าเป็นในอาการที่เยอะ ทำให้บางคนถึงกับไอเป็นเลือดได้เลย หรือว่าเสียชีวิตก็ได้เช่นกัน ถ้าเชื้อเหล่านั้นมันเข้าสู่กระแสเลือดของเรานะ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ๆ ลองนึกว่าในขณะที่ไม่ตั้งครรภ์การติดเชื้อทางเดินอาหารยังเป็นโรคที่เสี่ยงและอันตรายมาก แล้วถ้าเกิดกับคนตั้งครรภ์แล้วนั้น ย่อมสร้างความลำบากมากขึ้นหลายเท่า

3.โรคแอนแทรกซ์

เชื้อนี้จะแฝงอยู่ในเนื้อดิบ หากกินเนื้อที่มีเชื้อนี้เข้าไป  จะเกิดการติดแอนแทรกซ์ในทางเดินอาหาร ร่างกายจะมีปฏิกิริยาเร็วมาก เพราะได้เชื้อที่เป็นพิษ เกิดอาการอ้วกเป็นเลือด 

ถ่ายท้องรุนแรง ในรายที่เป็นมากก็ติดเชื้อในกระแสเลือดถึงแก่ความตายได้

4.พยาธิใบไม้ในปอด

กุ้งดิบมักมีพยาธิใบไม้ และเมื่อลุกลามเข้าปอดยิ่งเป็นอันตรายมาก การกินกุ้งดิบ ทำให้เกิดโรคพยาธิใบไม้ในปอด หากไม่รักษาอาจ ทำให้พยาธิขึ้นสมอง มีอาการชัก สายตาผิดปรกติ 

มีอาการบวมเหมือนคนเป็นโรคพยาธิตัวจี๊ด อย่างไรก็ตามเลี่ยงได้เป็นทางที่ดีที่สุด

5.โรคอุจจาระร่วง

อาจเสี่ยงเป็น โรคอุจจาระร่วง โดยจะมีอาการ แรกเริ่มคือ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลวบ่อยครั้ง อาจมีไข้สูงร่วมด้วย ส่วนการดูแลเบื้องต้น ระวังอาการขาดน้ำ ให้ดื่มน้ำละลายผงน้ำตาลเกลือแร่ เพื่อป้องกันการขาดน้ำหากอาการไม่ดีขึ้น

บทส่งท้าย

ถึงแม้ว่าอาหารทะเลจะมีประโยชน์กับแม่ท้อง และ ลูกน้อยในครรภ์​ แต่ก็ยังมีอาหารทะเลบางอย่างที่ต้องเลี่ยง อาหารทะเลที่คนท้องจะรับประทานนั้น แนะนำให้ไปซื้อจากร้านที่สด ใหม่ สะอาด ปราศจากสารปรอทตกค้าง อีกทั้งคนท้องควรจะรับประทาน หอย กุ้ง ปูม้า ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะอาหารเหล่านี้มีคอเลสเตอรอลสูง หากแม่ท้องทานมาก ก็อาจเสียสุขภาพได้เหมือนกัน

เครดิตรูปภาพ flo.health/pregnancy www.healthline.com