บทความนี้ขอแนะนำ “ภัยน้ำท่วม ควรดูแลลูก ๆ อย่างไร ให้ปลอดภัย” น้ำท่วมถือว่าเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเกือบจะทุกปี และสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือความปลอดภัย เพราะน้ำท่วมถือว่ามีภัยอยู่รอบด้านทีเดียว บางครั้งอันตรายถึงชีวิตก็มี และยังมีโรคภัยที่มาพร้อมกับภัยน้ำท่วมด้วย ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรหาวิธีป้องกันภัยที่มาพร้อมกับน้ำท่วมให้กับลูก ๆ อย่างไรบ้างไปดูกัน
โรคที่มาพร้อมกับน้ำท่วม
1.โรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารหรือ ที่เรียกกันทั่ว ๆ ไปว่า โรคอุจจาระร่วง
เกิดจากอาหารหรือน้ำที่รับประทานเข้าไปมีเชื้อโรคปะปนอยู่ อาจจะส่งผลให้มีอาการมีไข้ ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำวันละหลายครั้ง หรือถ่ายอุจจาระมีมูกหรือเลือดปน คลื่นไส้ อาเจียน เสี่ยงต่อภาวะการขาดน้ำ ฉะนั้นก่อนจะทานอาหารทุกครั้งควรล้างมือให้สะอาด หากมีอาการท้องเสียติดต่อกันหลายครั้งควรให้ดื่มน้ำเกลือแร่ หากอาการไม่ดีขึ้นต้องรีบพาไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป
2.โรคน้ำกัดเท้า
สาเหตุเกิดมาจากการย่ำน้ำ หรือแช่เท้าในน้ำที่มีเชื้อโรคอยู่ หรือเกิดจากที่เท้าอับชื้นอยู่เป็นเวลานาน อาการเริ่มต้นจะเริ่มมีตุ่มใส ๆ ตามง่ามเท้า ซอกนิ้วเท้า ผิวหนังลอกเป็นขุย และอาการจะคันมากจนแตกเป็นแผล วิธีป้องกัน คือ ล้างเท้าให้สะอาดทุกครั้งหลังเดินลุยน้ำ เช็ดให้แห้ง หากเริ่มมีอาการก็หายามาทาตามอาการ หากอาการยังไม่ดีขึ้นก็พบแพทย์เพื่อทำการรักษา
3.โรคตาแดง
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดมาจากเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรีย ติดต่อได้ด้วยการสัมผัสจากมือ อาการของโรคจะมีอาการคันที่ตา น้ำตาไหลมากเกินกว่าปกติ มีขี้ตา เคืองตา ปวดตา เยื่อบุตาอักเสบแดง วิธีการป้องกัน หากมีน้ำสกปรกเข้าตาให้รีบล้างตาทันที ล้างมือให้สะอาดบ่อย ๆ เมื่อจับสิ่งของ แต่ถ้าดวงตาเริ่มมองแสงไม่ชัด ปวดตากกว่าเดิมก็รีบไปพบแพทย์ทันที
4.โรคไข้เลือดออก
เกิดจากเชื้อโรคไวรัสเดงกี โดยมีพาหะเป็นยุงลาย ซึ่งในช่วงที่น้ำท่วมก็อาจจะมีน้ำเสีย ทำให้เป็นที่อยู่ของยุงลายได้อีกด้วย อาการของโรคไข้เลือดออก ก็จะมีไข้สูง 3-5 วัน เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นแดงขึ้นตามตัว ปวดเมื่อตามร่างกาย หากลูกมีอาการที่กล่าวมาลองให้ทานยาลดไข้ดูก่อน หากอาการไม่ดีขึ้นก็ไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอาการต่อไป
5.โรคฉี่หนู
ส่วนมากจะพบในผู้ใหญ่ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นกับเด็กได้เหมือกัน ซึ่งพาหะนำโรคชนิดคือสัตว์ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากน้ำท่วม พวกสัตว์เลี้ยง หรือสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ จะต้องได้รับผลกระทบแน่นอน ซึ่งเชื้อโรคชนิดนี้อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ เช่น หนู โค กระบือ ตลอดไปจนถึงสัตว์เลี้ยงในบ้านอย่างสุนัขหรือแมว ซึ่งเชื้อโรคจะเข้าได้ทางแผล หรือเกิดจากการที่เราแช่เท้าในน้ำเป็นเวลานาน อาการของโรคคือ จะมีไข้สูง ปวดกล้ามเนื้อ และศีรษะมาก เด็กๆ บางคนจะมีอาการตาแดง เจ็บคอ เบื่ออาหาร และท้องเดินร่วมด้วย หากมีอาการข้างต้นให้รีบพบแพทย์ทันที เพราะเชื้อโรคชนิดนี้อันตรายมาก
ระวังเรื่องความปลอดภัย
1.ไฟดูด ไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อน้ำท่วมสิ่งแรกที่ต้องทำคือ การตัดไฟ หากปลั๊กไฟนั้นอยู่ใกล้กับน้ำ เพราะมันอันตรายถึงชีวิตทีเดียว สอนให้ลูกระวังเรื่องไฟ หรือควรจัดตำแหน่งของปลั๊กไฟให้พ้นจากมือของเด็ก สอนให้เขารู้ว่าหากมือเปียก หรือตัวเปียก ไม่ควรเสียบปลั๊กไฟ
2.ระวังตกน้ำ
น้ำกับเด็กเป็นของคู่กัน ซึ่งเด็ก ๆ นั้น ต้องแอบไปเล่นน้ำแน่ ๆ ฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรระวังให้ดี เพราะอันตรายเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะพื้นที่อาจจะลื่นทำให้ล้มตกน้ำได้ ระดับน้ำจะลึกหรือตื่นเราก็ไม่รู้อีกควรต้องระวัง หากมีเสื้อชูชีพก็ควรให้เขา หากจำเป็นต้องโดยสารทางเรือเพื่อความปลอดภัย
3.ระวังสัตว์อันตราย
น้ำท่วมก็ต้องทำให้สัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติเดือดร้อนแน่ ซึ่งสัตว์จำพวกนั้นอาจจะเป็น งู ตะขาบ แมงป่อง ซึ่งเป็นสัตว์มีพิษที่อันตรายมาก และอาจจะเข้ามาในอาศัยในพื้นที่บริเวณบ้านของเราก็ได้ จระเข้ ที่อาจจะมาพร้อมกับน้ำท่วม ปละหากถูกสัตว์มีพิษกัด ควรล้างแผลให้สะอาดทันที หากมีอาการข้างเคียงก็ควรรีบพบแพทย์ทันที
ดูแลเรื่องจิตใจ
ในสถานการณ์แบบนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วเพราะเป็นภัยธรรมชาติ ซึ่งมันก็ส่งผลต่อคุณพ่อคุณแม่ที่อาจจะเกิดความเครียดกังวลการตามมา แต่ลูก ๆ ที่ยังเป็นเด็กเขานั้นก็เครียดเหมือนกัน ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรชวนลูก ๆ มาทำกิจกรรมเล็ก ๆ น้อยดูบ้าง เพื่อให้เขานั้นผ่อนคลายลดความตึงเครียดเช่น การร้องเพลง เล่นเกมส์บ้าง และคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรจะแสดงความเครียดให้ลูกเห็นมากเกินไป เพราะเด็กจะเกิดความวิตกกังวลได้
บทส่งท้าย
ภัยน้ำท่วมเป็นภัยธรรมชาติ ที่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้เลย หรือแม้ว่าเรานั้นอาจจะเตรียมรับมือไว้แล้วบ้าง แต่ก็อาจจะเกินกว่าที่เราคาดไว้ ซึ่งภัยน้ำท่วมเองก็มีภัยอันตรายรอบด้านเหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมรับมือให้ดี มีสติ เพื่อลูกจะได้ปลอดภัยจากโรคที่มากับน้ำท่วม หรืออันตรายด้านอื่นได้อีกด้วย
เครดิตรูปภาพ news.climate.columbia.edu www.frsteamdks.com www.pinterest.com