บทความนี้ขอแนะนำ “เตรียมตัวและรับมืออย่างไรดี เมื่อต้องพาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรก” เมื่อจำเป็นต้องเดินทางหรือไปต้องเที่ยว อาจจะโดยสารเครื่องบิน ซึ่งเครื่องบินถือว่าเป็นบริการขนส่งสาธารณะ จะต้องใช้บริการโดยสารร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเด็กเล็ก ๆ อาจจะไม่คุ้นชิน งอแง โวยวาย และส่งผลกระทบไปถึงผู้โดยสารท่านอื่น ๆ ฉะนั้นก่อนจะเดินทางคุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาหาวิธีรับมือกับลูกน้อยให้มากที่สุด ว่าการโดยสารด้วยเครื่องบินควรปฏิบัติกับลูกอย่างไรดี บทความนี้ขอแชร์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องให้ได้อ่านกัน
ข้อควรปฏิบัติ และเตรียมความพร้อมก่อนเดิน
1.ตรวจสอบกับสายการบิน เรื่องอายุของเด็กว่าสามารถเดินทางได้แล้วหรือยัง
แต่ละสายการบินมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป เรื่องอายุของเด็กที่จะสามารถโดยสารด้วยเครื่องบินได้ เพราะบางสายการบินเขาจะกำหนดไว้เลยว่า เด็กที่จะสามารถขึ้นเครื่องบินได้นั้น จะต้องมีอายุ ระหว่าง 3 -4 เดือนขึ้นไป หรือในเหตุที่มีกรณีฉุกเฉินจำเป็นต้องบิน เด็กทารกต้องอายุมากกว่า 7 วันขึ้น หรือ บางสายการบินกำหนดไว้ว่าต้องอายุไม่ต่ำกว่า 14 วัน เพราะด้วยเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด หรือกรณีที่จำเป็นต้องเดินทางกะทันหัน ก็ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์อีกครั้ง
2.การจองตั๋วของเด็ก
การจองตั๋วให้เด็กน้อยคุณพ่อคุณแม่สามารถกดจองตั๋วของตัวเอง แล้วค่อยเลือกผู้โดยสานเพิ่มได้และระบุให้ชัดเจนว่าเป็นทารก เพื่อที่ทางสายการบินได้เตรียมตัวเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ในวันเดินทาง แต่ถ้าลูกอายุตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไป ต้องจองตั๋วแบบที่นั่งแยกให้เขาได้แล้ว เพื่อความสะดวกของทั้งคุณพ่อคุณแม่ ลูก และเพื่อความปลอดภัย
3.ค่าโดยสารของเด็กทารก
หากลูกยังเป็นทารกน้อย ทางสายการบินจะมีการอนุโลมให้ได้เพราะทารกนั้นจะต้องนั่งกับคุณพ่อคุณแม่ แต่ทางสายการบินอาจจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมบ้างเล็กน้อย แต่ทางที่ดีนั้นควรเลือกจองที่นั่งเพิ่มอีก 1 ที่ เพราะถ้าหากทารกน้อยนอนหลับ เขาก็จะได้มีพื้นที่นอน และคุณพ่อคุณแม่ก็จะสบายไปด้วย แต่ถ้าอีกอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้น ต้องจองที่นั่งแยกที่นั่งและจ่ายค่าตั๋วตามราคาปกติ
4.เอกสารที่ใช้ในการเช็กอินขึ้นเครื่องบิน
ของเด็กนั้นจะต้องมีการเตรียมเอกสารดังนี้
– เด็กทารกอายุตั้งตั้ง 7 วัน หรือ 14 วันขึ้นไป แต่ยังไม่ถึง 7 ปีบริบูรณ์ ในวันเดินทาง ต้องใช้สูติบัตรตัวจริงหรือพาสปอร์ตในการเช็คอิน
– เด็กอายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่ถึง 15 ปีบริบูรณ์ ในวันเดินทาง ใช้ใบสูติบัตรฉบับจริง หรือบัตรประชาชนเด็ก หรือพาสปอร์ตในการเช็คอิน
แต่ถ้าเป็นการเดินทางไปต่างประเทศก็ต้องมีทั้งสูติบัตรตัวจริงและพาสปอร์ต รวมทั้งวีซ่าของประเทศปลายทางเหมือนผู้ใหญ่ทั่วไป คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนการวันเดินทาง
5.ให้ลูกพักผ่อนให้เพียงพอ
การเดินทางโดยการโดยสารเครื่องบินนั้น หากบินภายในประเทศ การเดินทางก็จะไม่นานเท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องขึ้นกับสภาพอากาศและสถานที่ปลายทางที่จะไป แต่หากเป็นการเดินทางไปต่างประเทศ หรือการเดินทางที่ใช้ระยะเวลานาน คุณพ่อคุณพ่อต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะลูกอาจจะงอแงและเบื่อเนื่องจากเขานั้นจะต้องอยู่บนเครื่องบินเป็นเวลานาน ก็ควรจะหากิจกรรมที่พอจะทำได้บนเครื่องบน และไม่รบกวนผู้โดยสารท่านอื่นเพื่อเป็นการให้เขาลืมความยาวนานในการบินก็อาจจะช่วยได้
6.เตรียมอาหาร ของใช้สำหรับลูกน้อยให้พร้อม
– ถ้าหากลูกดื่มนมของคุณแม่ก็อาจจะปั้มใส่ซองหรือขวดให้เพียงสำหรับช่วงระยะเวลาการเดินทาง หรือจำเป็นต้องให้นมลูกบนเครื่องบนก็ต้องสวมเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมและมิดชิด
– หากลูกดื่มนมผง ก็สามารถเตรียมขึ้นไปได้ หรือถ้าเป็นอาหารเหลวคุณแม่ก็ต้องเตรียมไปเองเพราะทางสายการบินไม่ได้มีการเตรียมอาหารสำหรับเด็กไว้ให้ โดยของเหลวที่จะพกขึ้นเครื่องนั้นจะต้องไม่เกิน 100 ml. ต่อชิ้น
– เตรียมเสื้อผ้าให้พอและเหมาะสม เพราะอากาศภายในเครื่องบินอาจจะเย็นเกินไป หากยังเป็นทารกก็ควรจะเตรียมผ้าอ้อมหรือแพมเพิสให้เพียงพอ
– เตรียมของเล่นที่ลูกชอบ เพื่อที่ลูกจะได้เล่น และไม่งอแงส่งเสียงรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น
– เลือกรถเข็นเด็กที่มีน้ำหนักเบา เหมาะที่จะสามารถนำไปใช้ระหว่างการเดินทาง และสามารโหลดไว้ใต้เครื่องได้
การเตรียมตัวในวันเดินทาง
1.บอร์ดดิ้งเป็นคนท้ายๆ จะดีกว่า
บอร์ดดิ้ง คือ การเดินขึ้นเครื่องบิน ซึ่งบางสายการบินจะอนุญาตให้ผู้โดยสารที่มีเด็กเล็กสามารถสามารถบอร์ดดิ้งก่อนใคร แต่ถ้าหากจำนวนผู้โดยสารมีมาก อาจจะต้องใช้ระยะเวลานาน และนั่นอาจจะทำให้ลูกน้อยเริ่มเบื่อ โวยวาย เริ่มไม่อยู่กับที่ ถ้าคุณพ่อคุณแม่กลัวจะเป็นการรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น ก็อาจจะเลือกบอร์ดดิ้งเป็นคนช่วงท้าย ๆ จะดีกว่า
2.เตรียมตัวเมื่อลูกต้องเจอความดันอากาศเปลี่ยน
เมื่อเครื่องบินเริ่มออกเดินทางขึ้นสู่น่านฟ้า ลูก ๆ อาจจะเจอกับอาการหูอื้อ เนื่องจากความกดอากาศ หรือความดันในชั้นบรรยากาศ ซึ่งอาจจะทำให้ลูกตกใจ ไม่ชินจนร้องไห้งอแง คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมน้ำเตรียมนำเอาไว้ให้เขาดื่ม เพราะมันจะช่วยบรรเทาอาการหูอื้อได้
3.นำของเล่นออกมาให้ลูกเล่น
คุณพ่อคุณแม่อาจจะเตรียมของเล่นมาให้ลูกได้เล่นแล้วขณะอยู่บนเครื่อง เมื่อขึ้นเครื่องแล้ว และเครื่องสามารถบินได้ตามปกติแล้วก็สามารถนำของเล่นออกมาให้เขาเล่นได้ เพื่อให้เขานั้นจะได้ไม่รู้สึกเครียด หรืออึดอัดจนเกินไป เพราะสถานที่ที่นั้นค่อนข้างจำกัดและแคบ
4.สอนให้เขานั้นรู้จักเคารพสิทธิส่วนบุคคล
เพราะเครื่องบินคือบริการขนส่งสาธารณะ ที่จะมีผู้โดยสารจำนวนมากมาย ซึ่งการที่คุณสอนให้รู้จักเคารพสิทธิส่วนบุคคล รู้จักมารยาทในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้นั้น เด็กก็อาจจะทำตัวและนั่งแบบเงียบ ๆ ไม่ซุกซน ในพื้นที่ของตัวเอง และไม่ส่งเสียงรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นด้วย
บทส่งท้าย
การเดินทางไปท่องเที่ยวโดยเครื่องบินนั้น เป็นการประหยุดเวลา และสะดวกสบายอย่างมาก และคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ก็นิยมเลือกใช้วิธีนี้ ซึ่งหากต้องพาลูกน้อยเดินทางไปด้วย ควรเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อความสะดวก สบายและประหยุดเวลาของท่านเองด้วย ศึกษาข้อมูลก่อนการเดินทาง แล้วทริปการเดินทางคุณอาจจะมีความสุข และสบายไม่ต้องมานั่งกังวลก็ได้
เครดิตรูปภาพ www.mappingmegan.com