บทความนี้ขอแนะนำ “เด็กจะเริ่มกินนมกล่องได้เมื่อไหร่ แล้วควรเลือกนมกล่องแบบไหนให้ลูกดี” นมที่ดีที่สุดสำหรับเด็กคือ นมแม่ เนื่องจากในน้ำนมแม่มีสารอาหารครบถ้วนที่จำเป็นในการนำไปใช้ในการเจริญเติบโต ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกัน และพัฒนาสมองของเด็ก แต่เมื่อเด็กโตขึ้น หลังจาก 1 ปี เด็กจะเริ่มรับประทานอาหารที่เหมือนผู้ใหญ่ได้ แต่ร่างกายก็ยังต้องการความแข็งแรงแคลเซียมจากนมอยู่ด้วย ดังนั้นควรให้ลูกได้ทานนมกล่องเพื่อเป็นอาหารเสริมอีกหนึ่งทางเลือก แต่ควรจะเลือกนมกล่องแบบไหนให้ลูกทานดี มาดูวิธีเลือกกันดีกว่า
นมกล่อง เด็กจะเริ่มกินได้เมื่อไหร่
คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มให้เด็กกินนมกล่องได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป นมกล่องมีแคลเซียมซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันของเด็ก เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ควรให้กินนมกล่องที่มีไขมันปกติ และหลีกเลี่ยงนมพร่องมันเนยหรือนมไขมัน 1% เนื่องจากเด็กยังต้องการไขมันในนมไปช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางสมอง อย่างไรก็ตาม นมกล่องเป็นเพียงเครื่องดื่มเพื่อเสริมสุขภาพเท่านั้น อาหารมื้อหลักของเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไปควรเป็นอาหาร 3 มื้อที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย เช่น ข้าว เนื้อสัตว์ ไข่ ผักและผลไม้ 3 มื้อ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการและความแข็งแรงของร่างกาย
ประเภทของนมที่คุณแม่ควรรู้
นมกล่องสำหรับเด็กแต่ละชนิดที่คุณแม่รู้จัก รู้ไหมว่ามีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน หลัก ๆ แล้ว นมพร้อมดื่มมี 3 ประเภท ดังนี้
1.นมพาสเจอไรซ์ (Pasteurized Milk) นมสดที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อด้วยความร้อนไม่ต่ำกว่า 63 องศาเซลเซียสไม่น้อยกว่า 30 นาที นมชนิดนี้อร่อย มีคุณค่าทางอาหารสูง แต่ต้องเก็บไว้ในตู้เย็น และเก็บได้นานเพียงไม่เกิน สองสัปดาห์
2.นมสเตอรีไลซ์ (Sterilization Milk) นมสดที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อด้วยความร้อน ไม่ต่ำกว่า 100 องศาเซลเซียส นมชนิดนี้เก็บได้นานมากกว่า 1 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น เพราะเชื้อจุลินทรีย์ถูกทำลายหมด ด้วยความร้อนของระบบสเตอริไลซ์ โดยที่ไม่ทำให้คุณภาพของน้ำนมเปลี่ยนแปลงมากนัก
3.นมยูเอชที (Ultra Heat Treatment) เป็นนมสดที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อด้วยความร้อน ไม่ต่ำกว่า 133 องศาเซลเซียส ทำให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นบรรจุลงภาชนะ ในสภาวะที่ปราศจากเชื้อ แต่ยังคงรักษากลิ่น สี และรสไว้ได้ดี คุณค่าของสารอาหารสูญเสียน้อย สามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องได้นานกว่า 6 – 8 เดือน
ให้ลูกน้อยดื่มนมกล่องเพราะอะไร
– ลูกดูดนมน้อยลง เมื่อลูกน้อยอายุเริ่มครบ 1 ปี แม้ว่าเด็กจะดูดนมแม่น้อยลง ทำให้ขาด การกระตุ้นน้ำนม จากเต้าของคุณแม่ แต่ถ้าหากคุณแม่ หยุดที่จะปั๊มนมออก ก็จะทำให้เกิดการอุดตันของท่อน้ำนม และส่งผลให้เกิดการเลิกการผลิตน้ำนม ดังนั้น คุณแม่ควรปั๊มน้ำนมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าลูกน้อยจะดื่มนมลดลง เพราะเด็กเริ่มทานอาหารอื่นได้มากยิ่งขึ้น
– น้ำนมเริ่มเจือจาง น้ำนมแม่ต่อให้เจือจางแค่ไหน คุณค่า หรือประโยชน์ ก็มีมากกว่าน้ำนมอื่น ๆ แน่นอนค่ะ ต่อให้ปริมาณน้ำนมมีเพียงนิด ขอให้หยอดเข้าปากเด็กได้ ก็เสมือนเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกัน หรือการให้วิตามินเสริมกับลูกน้อย
– สะดวกสบาย บางบ้าน จะต้องพาลูกน้อยของตนไปฝากให้กับเนอสเซอรี่ เนื่องจากตัวคุณพ่อ และคุณแม่เอง ต่างก็มีภารกิจในหน้าที่การงานของตน การจะเตรียมนมแม่ไปให้ทางโรงเรียนอุ่นให้กับลูกน้อย ก็ดูออกจะวุ่นวาย เมื่อเด็กมีอายุได้ 1 ปี การเตรียมนมกล่อง จึงเป็นความสะดวกสบาย และตอบโจทย์คุณพ่อ คุณแม่ ได้มากที่สุดนั่นเอง
– คุณค่าทางสารอาหารเพียงพอ เมื่อเด็กมีอายุ 1 ปีเต็ม เด็กจะสามารถทานอาหารได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น การจัดอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเสริมด้วยนมกล่อง ก็จะทำให้เด็กได้รับคุณค่าทางสารอาหารที่เพียงพอ แต่อาหารอื่น ๆ ก็ไม่สามารถทดแทนกับคุณค่าทางสารอาหารจากนมแม่ได้ ดังนั้นเมื่อกลับถึงบ้าน การให้ลูกน้อยได้ทานนมแม่เสริม แม้เพียงนิด ก็จะดีไม่น้อย
– ฟังมากจากหลาย ๆ คน มักจะได้ยินคนนั้นพูดอย่าง คนนี้พูดอย่าง บอกว่านมกล่องมีประโยชน์ครบกว่านมแม่ หรือนมผงยี่ห้อนี้ดีกว่านมแม่ ซึ่งที่จริง นมต่าง ๆ ที่ถูกผลิตขึ้นมานั้น ต่างก็พยายามจะเลียนแบบคุณสมบัติของนมแม่ ให้ได้ใกล้เคียงที่สุด แต่ก็เป็นการยาก ที่จะเลียนแบบสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ไว้
สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อนมให้ลูกทาน
1. อายุของลูก เมื่อลูกน้อยอายุได้ 1 ขวบ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทราบคืออาหารหลักของเด็กวัยนี้ไม่ใช่นม หากแต่เป็นอาหาร 3 มื้อที่มีสารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ ในส่วนของการดื่มนม จึงเป็นส่วนเพิ่มเติมจากสารอาหารหลัก เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนที่ไม่ได้จากอาหาร
2. สารอาหาร คุณพ่อคุณแม่ควรดูสารอาหารต่างๆที่ระบุข้างกล่อง ของนมก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เช่น แคลเซียม โอเมก้า 3,6,9 วิตามินต่างๆ เป็นต้น โดยปริมาณสารอาหารต่างๆจะระบุชัดเจนอยู่ในตารางสารอาหารข้างกล่อง ตามกฎหมายที่ทางอย. ระบุ โดยสารอาหารส่วนใหญ่ๆจะระบุปริมาณเป็น % ซึ่งจะหมายถึง จำนวนที่แนะนำในแต่ละวัน เช่น วิตามิน B12 50% จะหมายถึงในนมกล่องนี้มี B12 ถึง 50% จากปริมาณที่แนะนำต่อวัน
3. ข้อความที่ระบุข้างกล่อง ว่าเป็นนมที่เหมาะสำหรับเด็ก โดยทั่วไปเด็กอายุประมาณ 1 ขวบ คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกดื่มนมกล่อง UHT ได้แล้ว แต่ส่วนมากเจ้าตัวน้อยมักไม่ยอมดื่ม เพราะติดดูดนมจากขวดนมมากกว่า คุณพ่อคุณแม่ต้องค่อยๆหัดให้ลูกดื่ม อย่าบังคับหรือดุโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นลูกน้อยต่อต้านและจะไม่ยอมดื่มนมจากกล่องอีกเลย
4.ความปลอดภัยและมาตรฐานของนมกล่อง ให้เลือกจากผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องหมายการค้ารับรอง ถูกหลักอนามัย สะอาดปลอดภัย มีการระบุวันที่ผลิตและวันหมดอายุกำกับ กล่องบรรจุภัณฑ์ต้องสมบูรณ์
5.ความปลอดภัยของลูก ที่สำคัญต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกน้อย ต้องดูให้ดีว่าลูกนั้นไม่สารอาหารที่ผสมอยู่ในนมเช่น นมวัว ถั่ว หากลูกมีอาการแพ้ ให้หลีกเลี่ยงนมชนิดนั้น และควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษา และจะได้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อลูกน้อย
6.เลือกชนิดที่ลูกอยากทาน การทานนมไม่ควรบังคับลูก แต่ควรให้เขามีส่วนร่วมในการช่วยเลือกด้วย ว่าอยากทานนมประเภทไหน ซึ่งหากมีส่วนผสมของน้ำตาลมากเกินไป ก็ต้องระวังด้วย
บทส่งท้าย
การให้ลูกได้ทานนมกล่องนั้นเพื่อเป็นอาหารเสริม ช่วยให้ร่างกายของลูกนั้นแข็งแรงและช่วยให้ร่างกายมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย แต่พ่อแม่ควรเลือกนมกล่องที่เหมาะสมและปลอดภัยกับลูกน้อยมาเป็นอันดับแรกด้วยนะ
เครดิตรูปภาพ www.freepik.com www.shutterstock.com www.istockphoto.com