ที่กั้นเตียงเด็กจำเป็นไหม ควรเลือกอย่างไรให้ปลอดภัย ประโยชน์และข้อควรระวังที่ต้องรู้

บทความนี้ขอแนะนำ “ที่กั้นเตียงเด็กจำเป็นไหม ควรเลือกอย่างไรให้ปลอดภัย ประโยชน์และข้อควรระวังที่ต้องรู้” ครอบครัวที่มีลูกเล็กนั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานอนที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อาจมีความกังวลว่าลูกจะตื่นแล้วคลานลงจากเตียงไปเอง หรือนอนดิ้นตกเตียงได้ ที่กั้นเตียงสำหรับเด็กที่จึงเป็นตัวช่วยที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับทารกในยามนอนหลับหรือแม้แต่การนั่งเล่นอยู่บนเตียงได้ ถือเป็นของใช้สำหรับเด็กที่ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้อย่างดี

ที่กั้นเตียงเด็ก คืออะไร

ที่กั้นเตียง คือ อุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้บริเวณขอบเตียงเด็ก ทั้งบริเวณข้างเตียง หัวเตียง และปลายเตียง เพื่อเสริมความปลอดภัยในห้องนอนให้กับเด็ก อาจมีลักษณะเป็นราวซี่ ๆ ทำจากไม้หรือพลาสติก หรือเป็นแผ่นผ้าตาข่าย ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กพลัดตกจากเตียงนอนขณะนอนหลับหรือเล่นอยู่บนเตียงจนได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังอาจช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัยขณะนอนหลับได้ด้วย

โดยทั่วไปที่กั้นเตียงจะใช้กับเด็กที่เปลี่ยนจากนอนเปลเด็กไปนอนเตียงสำหรับเด็กวัยเตาะแตะ และมักติดตั้งที่กั้นเตียงไว้จนกว่าเด็กจะปรับตัวเข้ากับที่นอนใหม่ได้แล้วหรืออยู่ในวัยที่เสี่ยงตกเตียงน้อยลงแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกซื้อที่กั้นเตียงที่ติดตั้งแล้วไม่มีช่องว่างระหว่างฟูกและที่กั้นเตียง และเลือกที่กั้นเตียงที่สามารถพับหรือเลื่อนเก็บขึ้นและลงได้ง่าย เพื่อให้ใช้งานสะดวก

ที่กั้นเตียงเหมาะกับเด็กวัยไหน

การใช้ที่กั้นเตียงเหมาะสำหรับเด็กอายุ 2-5 ขวบ ที่สามารถลุกจากเตียงได้โดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่คอยช่วย โดยคุณพ่อคุณแม่อาจเปลี่ยนให้เด็กนอนเตียงแทนนอนเปลเมื่อเด็กสูงประมาณ 90 เซนติเมตร (วัดจากปลายเท้าถึงปลายนิ้วมือขณะเด็กชูแขนเหยียดตรง) เพราะเด็กอาจสูงเกินไปจนเสี่ยงตกจากเปลได้ง่าย สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่านี้หรือเป็นเด็กตัวเล็กอาจต้องให้นอนบนเปลไปก่อน เพราะหากนอนเตียงที่ติดตั้งที่กั้นเตียงอาจเสี่ยงเข้าไปติดระหว่างซอกตะแกรงที่กั้นเตียงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจถอดที่กั้นเตียงออกเมื่อเด็กอายุเกิน 5 ปีเพราะเป็นวัยที่โตพอ และเสี่ยงน้อยลงที่จะกลิ้งพลัดตกจากเตียงจนบาดเจ็บ

วิธีการเลือกที่กั้นเตียงสำหรับเด็ก

1.เลือกจากคุณภาพและความปลอดภัย  หากทำมาจากวัสดุที่แข็งแรงไม่ว่าจะเป็น เหล็กคุณภาพดี, ไม้หรือพลาสติกที่ปลอดสารอันตรายเป็นต้น มีตัวล็อกเชื่อมระหว่างแต่ละแผ่นกั้น ก็จะยิ่งเสริมความปลอดภัยได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าที่กั้นเตียงจะสามารถยึดติดกับเตียงได้อย่างมั่นคง รองรับน้ำหนักของลูกน้อยเมื่อเข้ามาเกาะที่กั้นได้นั่นเอง

2.เลือกจากขนาด  โดยให้เหมาะสมกับเตียง ตั้งแต่ความกว้าง ไปจนถึงความสูง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยปีนที่กั้นเตียงได้นั่นเอง

3.เลือกที่มีลักษณะเป็นตาข่ายโปร่ง  หากมีที่กั้นเตียงที่เลือกใช้ผ้าไนลอน หรือรูปแบบผ้าตาข่ายที่มีลักษณะโปร่ง สามารถมองลอดเข้าไปด้านในเตียงที่ลูกน้อยนอนอยู่ก็จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งอากาศยังถ่ายเทได้สะดวก

4.การติดตั้ง ถอดประกอบง่าย  ออกแบบมาแบบไร้ช่องว่างและทำความสะอาดได้ง่ายเพื่อป้องกันไรฝุ่น อีกทั้งควรมีการบุฟองน้ำ หรือหุ้มโฟมหนากันกระแทกตามปุ่ม ตามมุมต่าง ๆ เพื่อให้ลูกน้อยปลอดภัยมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

5.เลือกจากคุณสมบัติเสริม  เช่นสามารถพับเก็บได้เพื่อสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย, มีลวดลายน่ารักเสริมจินตนาการให้กับลูกน้อย, มีถุงเก็บของที่ด้านข้างสำหรับเก็บของให้กับลูกน้อย

ข้อควรระวังในการใช้ ที่กั้นเตียง

1.ตรวจสอบและวัดขนาดของที่กั้นเตียงที่จะซื้อให้ดี เลือกที่กั้นเตียงที่มีขนาดเหมาะสมและสามารถติดตั้งเข้ากับเตียงเด็กที่บ้านได้พอดี ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป

2.ควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้งานที่แนบมากับที่กั้นเตียงอย่างละเอียด ก่อนติดตั้งควรศึกษาวิธีติดตั้งให้เข้าใจ ตรวจสอบให้ดีว่ามีชิ้นส่วนใดเสียหายหรือสูญหายหรือไม่ และควรประกอบอุปกรณ์อย่างระมัดระวัง ตรวจดูให้ดีว่าไม่มีชิ้นส่วนใดหลุดหรือหลวม เพราะอาจหลุดออกจากฐานแล้วล้มทับเด็กหรือหลุดจากขอบเตียงขณะใช้งาน

3.เลือกที่กั้นเตียงที่สามารถติดตั้งได้ง่ายและแข็งแรง สามารถทนต่อการใช้งานที่ไม่ค่อยถนอมของใช้และพฤติกรรมซุกซนปีนป่ายของเด็กได้

4.ราวของที่กั้นเตียงต้องไม่มีขอบมุมแหลมคม ไม่มีเสี้ยนไม้ หรือชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่อาจเป็นอันตรายขณะใช้งาน

5.ระยะห่างระหว่างซี่ของที่กั้นเตียงไม่ควรห่างกันเกิน 6 เซนติเมตร เนื่องจากศีรษะ คอ แขน หรือขาของเด็กอาจเข้าไปติดได้

6.หากเป็นที่กั้นเตียงแบบตาข่าย ตัวผ้าตาข่ายควรหนา ไม่บางจนฉีกขาดง่าย หากฟองน้ำที่บุขอบที่กั้นเตียงเริ่มขาด ควรซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีที่สุด หรือเปลี่ยนที่กั้นเตียงใหม่

7.ควรติดตั้งที่กั้นเตียงให้ชิดขอบฟูก ไม่เว้นช่องว่างระหว่างฟูกกับที่กั้นเตียง เพราะอาจทำให้เด็กเสี่ยงเข้าไปติดในซอกได้ และติดตั้งที่กั้นเตียงให้ห่างจากหัวเตียงและปลายเตียงอย่างน้อย 9 นิ้ว   (ประมาณ 23 เซนติเมตร)

8.หลีกเลี่ยงการวางเตียงชิดผนังและใช้ผนังฝั่งนั้นเป็นที่กั้นเตียง เนื่องจากเด็กอาจเข้าไปติดระหว่างผนังกับฟูก ให้ใช้ที่กั้นเตียงที่สามารถยึดติดกับขอบเตียงแต่ละด้านได้อย่างแน่นหนาและแข็งแรงทนทาน

9.หมั่นตรวจสอบสภาพของที่กั้นเตียง หากชำรุด ควรแก้ไขให้อยู่ในสภาพดีที่สุด หรือเปลี่ยนใหม่ทันที

บทส่งท้าย

เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเลือก ที่กั้นเตียง ให้เด็ก ความปลอดภัยของลูกเป็นสิ่งแรกที่คุณพ่อและคุณแม่ต้องคำนึงถึง ซึ่งโดยหลักการแล้ว ยิ่งลูกมีอายุน้อยเท่าไหร่ ยิ่งต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อ และติดตั้งที่กั้นเตียงมากขึ้นเท่านั้น

เครดิตรูปภาพ www.amazon.de