สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้วการเลี้ยงดูลูกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต และยิ่งถ้าหากลูกโตขึ้นเขายิ่งมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้นการจะหวังให้ลูกนั้นเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก และจะต้องใช้ความอดทนอย่างมาก เพื่อให้เขาเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังจะสื่อสาร พร้อมยอมทำตาม และไม่เกิดการต่อต้านเรานั่นเอง โดยเฉพาะในช่วงวัย 2-3 ขวบ เป็นวัยที่เขาต่อต้าน และดื้อรั้นมากที่สุด ลูกจะมีความคิดเป็นของตัวเองสูง เอาแต่ใจตัวเองสูง ไม่ยอมทำตามในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ หรือใช้วิธีการที่เงียบ ไม่ตอบสนองต่อคำพูดของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เรานั้นโมโหและเผลอหงุดหงิดใส่ลูกได้ วันนี้เราจะมีเคล็ดลับในการอบรมสั่งสอนลูกให้ง่ายยิ่งขึ้น โดยที่เขาพร้อมยอมทำตาม และเชื่อฟังในสิ่งที่เราสอน จะมีวิธีใดบ้างนั้นไปติดตามกันเลย
1. ต้องมีแบบอย่างให้ลูกเห็น
เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการจะสอนอะไรให้เขาจดจำนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรมีแบบอย่างให้ลูกเห็น ลูกจะพร้อมยอมทำตามได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเด็กในวัย 3-6 ขวบ ที่จะเป็นช่วงวัยชอบลอกเลียนพฤติกรรมของคนใกล้ชิด โดยที่ลูกๆนั้นไม่สามารถที่จะแยกแยะออกได้ว่าพฤติกรรมใดควรทำหรือไม่ควรทำ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะพยายามเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกในช่วงวัยนี้ จะทำให้เขาซึมซับพฤติกรรมดีๆเหล่านั้นจากคุณพ่อคุณแม่มาได้ การเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็นนั้น เป็นวิธีที่ดีกว่าการออกคำสั่งให้ลูกทำ ลูกจะไม่เกิดการต่อต้าน และค่อยๆซึมซับพฤติกรรมดีๆเหล่านั้นมา
2. สอนลูกด้วยน้ำเสียง และสายตาแห่งความรัก
เมื่อไหร่ที่คุณพ่อคุณแม่จะสอนลูก ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า ควรใช้คำพูด และท่าทางที่อ่อนโยน ไม่กระโชกโฮกฮาก ไม่ตะคอกใส่ลูก ค่อยๆพูดอย่างนิ่มนวล รับฟังสิ่งที่ลูกจะอธิบาย ก่อนจะให้ลูกทำอะไร ให้เรียกชื่อลูก แล้วใช้คำพูดง่ายๆสอนลูก เขาจะรับรู้ และปฏิบัติตามได้ง่ายกว่าเราออกคำสั่ง
3. มีข้อตกลงร่วมกัน
เด็กในวัยกำลังโต ส่วนใหญ่แล้วเขาจะมีความเป็นตันตนของเขาอยู่ภายใน มีทั้งสิ่งที่ชอบและไม่ชอบอย่างชัดเจน ซึ่งบางคำสอน ของคุณพ่อคุณแม่อาจเป็นเป็นการบังคับให้เขาทำในสิ่งที่ไม่ชอบ จนกลายเป็นการต่อต้าน วิธีการแก้ไขคือ คให้คุณพ่อคุณแม่มีข้อตกลงร่วมกันกับลูก ซึ่งผลรางวัลควรเป็นสิ่งที่ลูกชื่นชอบและถูกใจ จะทำให้เขาชื่นชอบ ยอมปฏิบัติตาม และไม่ต่อต้านในคำสอนของเรา หรือคุณแม่อาจเปลี่ยนการลงโทษ เป็นการให้ทางเลือกแทน เด็กจะรู้สึกดีมากยิ่งขึ้น
4. สอนให้ใช้ความคิดแก้ไขปัญหา
ควรลดประโยคคำสั่งลง เพราะจะทำให้เขารู้สึกทางลบ จะทำอะไรมักจะโดนห้ามอยู่ตลอด จนเขากลายเป็นเด็กที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำคือ ฝึกให้ลูกใช้ความคิดเพื่อแก้ไขปัญหา แทนการออกคำสั่ง วิธีนี้จะช่วยให้เขาสนุกในการเรียนรู้ และได้ประโยชน์ให้ลูกได้ฝึกใช้สมองอีกด้วย
5. หาสาเหตุว่าลูกทำไมไม่เชื่อฟัง
บางครั้งเด็กที่ไม่เชื่อฟังนั้น เขาอาจจะอยู่ในสภาวะทางรมณ์ไม่พร้อม เช่น ง่วงนอน หงุดหงิด โกรธ เศร้าเสียใจ เป็นต้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรรับฟัง และยอมรับกับอารมณ์ตรงนั้นของลูกก่อน แล้วค่อยมาสอนเขาตอนที่เขาพร้อมรับฟัง หรือถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ทราบสาเหตุแล้ว ให้บอกรักลูก ให้ลูกเชื่อมั่น ว่าเราเข้าใจเขา แล้วค่อยพูดคุยกับเขา จะทำให้ลูกยอมรับฟังมากยิ่งขึ้น
โดย เทคนิคการสอนลูกให้เชื่อฟังได้ง่าย ที่เรานำมาฝากในวันนี้ มีหลากหลายวิธีมากที่ เราจะสามารถอบรมสั่งสอนให้ลูกยอมรับฟังและเชื่อมั่นในตัวเรา จนพร้อมยอมเข้าใจและปฏิบัติตามคำสอนอย่างง่ายดาย โดยไม่รู้สึกว่าตนเองนั้นถูกบังคับ หรือสูญเสียตัวตน หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหน กำลังประสบกับปัญหากานอบรมสั่งสอนลูกอยู่นั้น ลองนำวิธีที่เรามาฝากในวันนี้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม รับรองว่าลูกจะเชื่อฟังคุณมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน สล็อตแตกง่าย