สำหรับคุณแม่ที่ลางานเพื่อมาคลอดลูกนั้น เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสามารถลาได้สูงสุดภายใน 3 เดือน เมื่อถึงเวลาแล้วก็จำเป็นต้องบอกลาลูกน้อยเพื่อกลับไปเริ่มทำงานใหม่เช่นเดิม ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องใจหายและไม่อยากจากลูกน้อยไปอย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่เกิดจนถึง 3 เดือนเริ่มเกิดความผูกพัน อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่ด้วยหน้าที่การงานที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ ก็จำเป็นต้องเตรียมการก่อนกลับไปทำงานไว้ให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดความติดขัดหลังจากกลับไปทำงานแล้วนั่นเอง วันนี้เราจึงรวบรวมเคล็ดลับ สำหรับการคุณแม่ที่ต้องกลับไปทำงานมาไว้ เพื่อเตรียมการเลี้ยงลูกน้อยผ่านทางระยะใกล้ให้ได้สมบูรณ์แบบที่สุดนั่นเอง คุณแม่จะต้องเตรียมอะไรไว้บ้างนั้นไปติดตามกันเลย
1. เตรียมหาคนดูแลลูกน้อย
ก่อนที่จะกลับไปทำงานคุณแม่จะต้องเตรียมตัวหาคนที่จะมาดูแลลูกแทน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคุณย่า คุณยายที่จะเข้ามามีบทบาทแทนคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องกลับไปทำงาน เพราะท่านจะคอยดูแลหลานอย่างเต็มที่ด้วยความจริงใจ ซึ่งหากเป็นคุณย่า คุณยายแล้วล่ะก็ จะทำให้คุณรู่สึกอุ่นใจ และวางใจกลับไปทำงานได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องเป็นกังวลว่าลูกน้อยของเราจะได้รับอันตรายหรือไม่ แต่สำหรับคุณแม่ท่านไหนที่ไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่ไว้วางใจได้ก็คงต้องมองหาเนอสเซอรี่ที่มีคุณภาพ แวดล้อมไปด้วยสังคมที่ดี สภาพแวดล้อมดี เพื่อฝากลูกเราไว้ในเวลากลางวันที่ต้องไปทำงานนั่นเอง
2. สิ่งที่คุณแม่ต้องเตรียมหลังกลับไปทำงาน
หากคุณแม่ต้องฝากลูกไว้กับญาติผู้ใหญ่ที่ต่างจังหวัด สิ่งที่ต้องเตรียมให้ลูกน้อยคือของใช้จำเป็นทั้งหมดที่ลูกต้องใช้ อาทิ ผ้าอ้อม แพมเพิส น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม อุปกรณ์ล้างขวดนม เครื่องปั๊มนม ขวดนม เสื้อผ้า เป็นต้น ซึ่งของใช้เหล่านี้เราจะอำนวยความสะดวกให้กับคนที่คอยดูแลลูกให้เราอย่างเต็มที่ เมื่อถึงเวลาที่ต้องกลับไปทำงานจะลดความวุ่นวาย และลดปัญหาการขาดสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับลูกนั่นเอง
3. คุณแม่ต้องมีแผนสำรองเสมอ
ซึ่งเหตุฉุกเฉินมักเกิดขึ้นได้เสมอ หลังจากที่คุณแม่ต้องกลับไปทำงานแล้ว ในบางวันต้องมีประชุมจนถึงค่ำ จะให้ใครไปรับลูกแทน ในกรณีที่ฝากลูกไว้กับเนอสเซอรี่ เช่น คุณพ่อ พี่น้อง เพื่อนร่วมงานที่สนิท เป็นต้น แต่สำหรับใครที่ฝากลูกไว้กับคุณย่าคุณยาย ในกรณีที่คุณย่าคุณยายไม่สบาย หรือมีธุระไม่สามารถดูลูกให้ได้ คุณแม่จะต้องมีแผนสำรองว่าใครจะเข้ามาดูลูกแทน เช่น คุณลุง คุณป้า คุณอา คุณน้า เป็นต้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะมีทางออกเสมอ
4. แจ้งให้เจ้านายและเพื่อนร่วมงานทราบ
ถึงกิจวัตรประจำวันที่เราต้องทำเป็นช่วงเวลา นั่นก็คือการปั๊มนมนั่นเอง ที่คุณแม่บางท่านอาจปั๊มทุกๆ 3 ชั่วโมง เพื่อเตรียมสต็อคนมไว้ให้ลูกทานนั่นเอง หัวหน้างานจะได้จัดสรรเวลาในการทำงานให้กับคุณแม่ได้อย่างลงตัวมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากไม่สะดวกปั๊มในเวลาทำงาน ก็ให้คุณแม่ลดรอบปั๊มลงาจจะเป็นทุกครั้งที่พัก เช่นตอนเที่ยง ก่อนทำงาน หลังเลิกงาน เป็นต้น
5. ดูแลตัวเอง
เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าง เพราะตราบใดที่ร่างกายยังต้องมีการปั๊มนมออกนั่นหมายความว่า สารอาหาร แคลเซียม วิตามิน ต่างๆในร่างกายของคุณแม่นั้นลดลงตามไปด้วย ดังนั้นคุณแม่จะต้องมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ดื่มน้ำมากๆเพื่อให้ร่างกายได้ชาร์จพลังได้อย่างเต็มที่ รวมถึงเวลาในการพักผ่อน หรือคุณแม่ควรหาช่วงเวลาผ่อนคลายสมอง และร่างกายดูบ้าง เช่น ออกไปในสถานที่ใหม่ๆเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณแม่มีพลังกายและพลังใจที่ดีขึ้นได้
สำหรับคุณแม่ที่ต้องกลับไปทำงานก็ไม่ต้องเสียใจไป คุณยังสามารถทำหน้าที่แม่ได้เป็นอย่างดีด้วยการปั๊มนมให้ลูกทาน เพราะน้ำนมแม่นั้นดีต่อสมองของลูก ช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ แข็งแรง ฉลาดสมวัย หรือหากคุณแม่ท่านไหนที่ไม่สามารถปั๊มนมให้ลูกทานได้ ก็ควรหาซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีประโยชน์ให้ลูกได้ทาน โดยเฉพาะ อาหารที่มี สฟริงโกไมอีลินสูง อย่างเช่น ไข่ ผลิตภัณฑ์นม และชีส จะเป็นการเตรียมความพร้อมให้ลูกน้อยเติบโตมาได้อย่างมีคุณภาพนั่นเอง
Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ