การดูแลความสะอาดในช่องปากของลูกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมาก และถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญของคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเด็กๆที่มีฟันน้ำนมขึ้นแล้วมักจะมีปัญหาในเรื่องของ ฟันผุ เพราะมีพฤติกรรมการแปรงฟันที่ไม่เหมาะสม หรือคุณพ่อคุณแม่นั้นละเลยไม่ใส่ใจเท่าที่ควร ผสมผสานกับการดูแลช่องปากอย่างผิดวิธี ซึ่งปัญหาฟันผุนั้นจะส่งผลต่อพัฒนาการในด้านอื่นตามมาอีกมากมาย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรปลูกฝังให้ลูกนั้นรักความสะอาดในการแปรงฟันให้ถูกวิธีตั้งแต่แรก ซึ่งการ พาลูกแปลงฟันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดคุณพ่อคุณแม่จะต้องมีความอดทนเป็นอย่างมาก และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อความสะอาดในช่องปากของลูก พฤติกรรมเสี่ยงเหล่านั้นจะมีอะไรบ้างไปติดตามกันเลย
1. ไม่กล้าให้ลูกแปรงฟันด้วยตัวเอง
ซึ่งเข้าใจได้ว่าคุณพ่อคุณแม่นั้นยังคงเป็นห่วงและไม่กล้าปล่อยให้ลูกนั้นต้องแปรงฟันด้วยตัวเอง แต่หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ได้สอนให้เขาได้แปรงฟันตามช่วงวัยไปแล้ว จึงควรปล่อยให้เขาได้เรียนรู้และทำความสะอาดช่องปากของตัวเองจนเป็นนิสัย โดยคุณพ่อคุณแม่ควรปลูกฝังตั้งแต่แรกเกิด โดยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆเช็ดที่เหงือกและลิ้นในช่วงเช้าและก่อนนอน ในช่วง 6-10 เดือนให้คุณแม่พาลูกนอนบนตัก และแปรงถูฟันไปมา 10 ครั้ง ต่อซี่ จนลูกเริ่มเกิดความเคยชิน จนกระทั่งในช่วงหนึ่งถึง 1.5 – 3 ขวบ จึงควรเริ่มฝึกให้ลูกคุ้นชินกับการแปรงฟันด้วยตัวเอง เพราะจะทำให้เขานั้นมีความมั่นใจที่จะดูแลความสะอาดในช่องปากของตัวเองให้ดีที่สุดนั่นเอง หากคุณพ่อคุณแม่ยังมีความเป็นห่วงก็คอยดูแลความปลอดภัยของลูกอยู่ใกล้ๆก็ได้
2. เลือกแปรงสีฟันให้เหมาะกับลูก
คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะมีความเชื่อว่าแปรงสีฟันสำหรับเด็กนั้นก็เหมือนกันทุกยี่ห้อ แต่นั่นไม่ใช่ความคิดที่ถูก แปรงสีฟันของเด็กในแต่ละยี่ห้อนั้นมีคุณสมบัติที่ดีแตกต่างกันไป โดยคุณพ่อคุณแม่จะต้องเลือกขนแปรงที่นุ่มไม่บาดเหงือก และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองในช่องปาก รวมถึงสามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก และขนาดของแปรงจะต้องเหมาะสมกับช่องปากของลูกในแต่ละช่วงวัย ซึ่งการเลือกแปรงสีฟันให้กับลูกนั้นถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ แล้วคุณพ่อคุณแม่จึงควรเปลี่ยนแปลงให้ลูกทุกๆ 3 เดือน เพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับลูกได้นั่นเอง
3. สอนให้ลูกทำความสะอาดเฉพาะขนแปรง
ซึ่งถือเป็นความคิดที่ผิด ความจริงแล้วแหล่งที่สะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียที่เรามองไม่เห็นมีอยู่ทุกที่ในห้องน้ำ โดยเฉพาะบริเวณด้ามจับของแปรงสีฟัน ที่บางครั้งถูกวางไว้ในแก้วที่ไม่มีการระบายอากาศที่ดี จึงอาจเกิดเชื้อราสะสมขึ้นได้ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรปลูกฝังให้กับลูกน้อยทำความสะอาดแปรงอย่างถูกวิธี ล้างแปรงสีฟันให้ทั่วทั้งด้าม เพื่อความสะอาดและกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียที่อาจสะสมอยู่นั้นเอง
4. เรื่องฟันผุไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเด็ก
คุณพ่อคุณแม่บางท่าน อาจคิดว่า ฟันที่ผุนั้นเป็นเพียงฟันน้ำนมซึ่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร สุดท้ายแล้วฟันน้ำนมนั้นก็จะต้องหลุดอยู่ดี ซึ่งถือเป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก เพราะการปล่อยให้ฟันน้ำนมของลูกที่ผุก่อนเวลา อาจทำให้ฟันซี่ข้างๆที่กำลังงอกใหม่นั้นกลายเป็นฟันที่เบียดขึ้นมาผิดตำแหน่งได้ ซึ่งอาจทำให้การทำความสะอาดซอกฟันนั้นยากยิ่งขึ้นและมีโอกาสฟันผุได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้การมีปัญหาในช่องปากนั้นอาจทำให้ลูกมีพัฒนาการในด้านการเรียนรู้ที่ลดลงได้ เกิดความไม่มั่นใจและที่สำคัญลูกอาจจะต้องทนเจ็บปวดในช่องปากเพราะโรคฟันผุ
5. เด็กเล็กไม่จำเป็นต้องแปรงฟันทุกวันก็ได้
เป็นอีกหนึ่งปัญหาโลกแตกที่คุณแม่ปวดหัวและกลุ้มใจเป็นอย่างมาก เพราะชวนแปรงฟันทีไรลูกก็จะบ่ายเบี่ยงทุกที แต่การไม่ยอมแปรงฟันทุกวันนั้นอาจจะเกิดการสะสมของเชื้อโรคและเกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ส่วนเจ้าตัวเล็ก ที่ฟันยังไม่ขึ้นนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดเหงือกและลิ้นในทุกเช้าและก่อนนอน เพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียนั้นเอง
จะเห็นได้ว่าการแปรงฟันนั้นมีความสำคัญในทุกช่วงวัย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ลูกนั้นติดจนเป็นนิสัย แต่ในทางกลับกัน คุณพ่อคุณแม่จึงควรปลูกฝังให้ลูกนั้นรักความสะอาดในช่องปากให้ได้มากที่สุด เพื่อลดโอกาสของการเจอโรคฟันผุ และเพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียจนอาจเกิดกลิ่นปากทำให้ลูกเสียบุคลิกก็เป็นได้ เว็บสล็อต