บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง เมื่อลูกติดเพื่อนมากเกินไป ปัญหาหนักใจที่พ่อแม่อาจต้องเจอ ควรรับมืออย่างไรดี หลายบ้านพบปัญหาลูกติดเพื่อน ลูกเชื่อเพื่อน ลูกแคร์ความรู้สึกเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ แน่นอนว่า การปล่อยวางกับปัญหานี้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม พ่อกับแม่ต้องเข้าใจก่อนว่าการที่ลูกวัยรุ่นเลือกพึ่งพาเพื่อน มีท่าทีตีตัวออกห่างพ่อแม่ นั้นถือเป็นผลดีต่อการพัฒนาการของช่วงวัย ตลอดจนความรู้สึกได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมของตัวเด็กเอง สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้และไม่รู้ว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงบ้าง ตามมาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลย
พฤติกรรมติดเพื่อน ตามแต่ละช่วงวัย
1. ในวัยเด็กเล็กถึงเด็กโต เด็กอาจยังไม่ค่อยมีปัญหาติดเพื่อน เพราะเป็นช่วงวัยที่เด็กกำลังมุ่งมั่นให้ความสำคัญเรื่องการเรียน แต่หากเด็กติดเพื่อนตลอด ไม่ค่อยอยู่บ้าน อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น
– การไม่ประสบความสำเร็จในการเรียน ทำให้เด็กหมดกำลังใจในการมุ่งมั่นเรื่องการเรียน และมาจับกลุ่มเล่นกับเพื่อนแทน
– ความเป็นอยู่หรือการเลี้ยงดูของผู้ปกครองที่ปล่อยให้เด็กจะออกไปไหนก็ได้ โดยไม่ได้กำหนดขอบเขตหรือเวลา เช่น ให้รู้ว่าเวลานี้ควรเล่นอยู่ที่บ้าน และไม่ควรออกไปข้างนอกบ้านเพราะอะไร เด็กจะไม่ได้เรียนรู้เรื่องการทำหน้าที่ของตนเอง การรู้จักจัดแบ่งเวลาให้เหมาะสม
2. ในวัยรุ่น การติดเพื่อนนั้นมองว่าเป็นพัฒนาการปกติเพราะเด็กรู้สึกว่าโตแล้วอยากจะมีอิสระ พึ่งพาตนเองได้ มีความคิดเห็นเป็นของตนเอง คิดว่าไม่ต้องพึ่งพาคนในครอบครัวมากนัก และอยากได้การยอมรับจากบุคคลภายนอก เด็กก็จะเริ่มอยากทำกิจกรรมนอกบ้านมากยิ่งขึ้น บางครั้งมีการโต้เถียงกับคนในบ้านเพื่อแสดงความคิดเห็นของตน เริ่มไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับครอบครัว ทำให้พ่อแม่บางท่านมีความกังวลเนื่องจาก เมื่อพูดคุยหรือสอนลูกนั้น เด็กก็จะมักโต้เถียง และไม่เข้าใจกัน ซึ่งพ่อแม่ก็กลัวว่าลูกจะเติบโตขึ้นมาเป็นคนไม่ดี เป็นต้น
พฤติกรรมที่บ่งบอกว่า “ลูกติดเพื่อน”
1. ลูกอยากอยู่กับเพื่อนตลอดเวลา
มากันที่ข้อแรกที่เป็นสาเหตุบอกว่าลูกเราติดเพื่อนมากเกินไปแล้ว นั่นคือไม่ว่าลูกเราจะทำอะไร หรือไปที่ไหนจะต้องมีเพื่อนไปด้วยทุกที่ทุกเวลา มันอาจเป็นเรื่องที่ดีถ้าเราจะบอกว่าลูกของเราจะได้ปลอดภัยและมีเพื่อนไปด้วย แต่หารู้ไม่ว่าไม่ว่าลูกเราจะทำอะไรก็ตามแล้วให้เพื่อนไปด้วยทุกครั้ง สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลทำให้เราลูกของเราขาดความมั่นใจในตัวเอง และไม่กล้าลงมือทำอะไรเลย นอกจากเพื่อนคนนั้นทำแล้วลูกของเราค่อยจะทำตาม
2.เพื่อนสำคัญกว่า
ส่วนมากจะเกิดขึ้นกับเด็กที่อยู่ในวัยโตขึ้นมาหน่อย แน่นอนว่าในช่วงที่เขาเป็นเด็ก เขาก็จะชอบเล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกันมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่อยู่โรงเรียนเขาก็จะได้เจอกับเพื่อนคนอื่น ๆ และได้พูดคุยกับมากขึ้น ยิ่งถ้าคนไหนที่มีความชอบอะไรคล้าย ๆ กัน ก็จะยิ่งสนิทกันมากเป็นพิเศษ และเหตุผลนี้เองที่จะทำให้เขาติดเพื่อนมากเกินไป
3.เอาแต่ใจตัวเอง
แน่นอนว่าเมื่อลูกของเราโตขึ้น เขาก็ต้องได้ออกไปพบเจอกับสิ่งต่าง ๆ ภายนอกมากขึ้น และสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็อาจจะส่งผลทำให้เขามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนใจ อาทิเช่น ลูกมีนิสัยที่เอาแต่ใจมากขึ้น อยากได้อะไรก็ต้องได้ สิ่งที่ต่าง ๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะว่าเขามีการเลียนแบบจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องและอาจส่งผลไม่ดีต่อลูกเราได้ และถ้าครอบครัวไหนที่มีลูกหลายคนก็อาจส่งผลทำให้พี่น้องทะเลาะกันได้เลย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรต้องใส่ใจลูกและคุยกับเขาด้วยเหตุผลมากขึ้น
4.มีความหวงเพื่อน
อีกหนึ่งข้อสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม นั่นคือลูกมีความหวงเพื่อนมากเกินไป ดังนั้นถ้าใครที่กำลังพบเจอกับปัญหานี้อยู่เราก็อาจจะต้องอธิบายให้เขาฟังด้วยเหตุผล พร้อมกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลูกให้เขาทำในสิ่งที่ดีและถูกต้องมากขึ้น
คุณพ่อคุณแม่ควรมีวิธีรับมือยังไง
1.ผู้ปกครองควรยอมรับและเข้าใจว่าเป็นพัฒนาการปกติของเด็ก ควรรับฟังความคิดเห็นให้มากขึ้น โดยไม่พยายามเข้าไปควบคุมเด็กมากเกินไป ใช้การเสนอแนะ แนะนำให้เด็กได้คิดทบทวนอย่างรอบคอบในหลายๆด้าน และเลือกวิธีการเองตามที่เด็กพิจารณาจากการคิดในหลาย ๆ ด้าน ช่วยให้เด็กได้จัดการผลของการกระทำของตนเองได้
2.ส่งเสริมให้เด็กและกลุ่มเพื่อนทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์เหมาะสมกับวัย ได้ใช้ความรู้ความสามารถของเด็กได้อย่างเต็มที่ และทำตนเป็นประโยชน์กับชุมชน โดยมีผู้ปกครองคอยช่วยเหลือให้เด็กได้แสดงความสามารถ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงเมื่อเด็กอยู่กับกลุ่มเพื่อนได้
3.การที่เราจะทำให้ครอบครัวสมบูรณ์แบบและมีความสุขนั้น เราจะต้องให้ความสำคัญกับครอบครัวตัวเองมากขึ้น เพราะเมื่อไหร่ที่เราให้ความสำคัญกับครอบครัว พาลูกทำกิจกรรมต่าง ๆ ในเวลาว่าง ลูกก็จะมีความสุขและรู้สึกดีและสบายใจทุกครั้งเมื่อได้อยู่บ้าน สิ่งนี้ก็จะช่วยทำให้เขาไม่อยากออกไหน อยากที่จะอยู่บ้านมากกว่านั้นเอง
4.เมื่อรู้ว่าลูกของเรากำลังทำในสิ่งที่ไม่ดีและไม่ถูกต้อง จนทำให้คุณพ่อคุณแม่ผิดหวังและเสียใจเป็นอย่างมาก มันอาจเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่ต้องพยายามเข้าใจลูกและไม่ต้องเสียใจในสิ่งที่ลูกทำลงไป เมื่อเรารู้ว่าเขากำลังทำในสิ่งที่ผิดพลาด เราก็ควรที่จะต้องดูแลและใส่ใจเขาให้มากเป็นพิเศษ พร้อมคอยให้กำลังใจเขา ให้เขากลับมาทำในสิ่งที่ถูกต้องและเริ่มต้นได้ใหม่อีกครั้ง
บทส่งท้าย
สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังเจอกับปัญหาเหล่านี้ก็อาจจะต้องดูแลและให้เวลากับเขามากขึ้น เพราะการที่เด็กติดเพื่อนมันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายเสมอไป ถ้าเราอธิบายและสอนเขาให้เข้าใจด้วยเหตุผล ทุกอย่างก็จะดีเอง
เครดิตรูปภาพ www.scarymommy.com www.crosswalk.com gcpawards.com