บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง เทคนิคชวนลูกน้อยไปตัดผม ให้เขาไม่กลัวและสบายใจ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณพ่อ คุณแม่ หลายๆ คนกำลังกลุ้มใจ จะทำอย่างไรดีเมื่อต้องพาลูกน้อยไปตัดผม พอเข้าร้านตัดผมทีไร เจ้าตัวน้อยก็จะร้องไห้โวยวายทุกที นั่นอาจจะมาจากลูกกลัวเสียง
บัตตาเลี่ยนที่ดังอยู่ข้าง ๆ หูก็เป็นได้ และก็ยังมีกรรไกรคม ๆ ตัดฉับ ๆ อยู่บนหัวอีกด้วย ยิ่งทำให้เกิดความกลัวเข้าไปใหญ่ แล้วคุณพ่อคุณแม่จะรับมือและแก้ไขปัญหานี้อย่างไรดีนะ
พาลูกไปที่ร้านเพื่อตัดผมครั้งแรก
สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ได้รู้ขั้นตอนเกี่ยวกับการตัดผมให้ลูกน้อยแล้ว แต่เราก็ยังรู้สึกกลัวและกังวลที่จะตัดผมให้ลูกเองอยู่ดี เราก็อาจจะตัดสินใจพาลูกไปตัดผมที่ร้านได้เลยนะ โดยเราอาจจะพาลูกไปหาช่างทำผมที่มืออาชีพที่เชี่ยวชาญด้านการตัดผมเด็กและทารก เพราะพวกเขาเหล่านี้ค่อนข้างจะคุ้นเคยและชำนาญเกี่ยวกับการตัดผมกันอยู่แล้ว
หากลูกน้อยของคุณไม่เคยอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ เขาก็อาจจะมีงอแงและรู้สึกกลัวกับการนั่งบนเก้าอี้ตัดผมได้ ยิ่งเป็นคนที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน สิ่งนี้อาจจะทำให้เด็กบางคนร้องไห้ขึ้นมาได้เลย เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะคอยอยู่ข้าง ๆ ลูกให้มากที่สุดนะ
เทคนิค พาลูกเข้าร้านตัดผม ให้ราบรื่น
1. แทนคำว่า “ตัด” ด้วยคำอื่น เพราะ “ตัด” ฟังดูน่ากลัวหรือเสียวไส้ว่าจะเจ็บเอา ลองเปลี่ยนเป็นว่าเราจะไป “เล็มผม” กัน หรือเรียกกรรไกรว่า “ที่เล็มผม” ก็ช่วยลดความกลัวได้
2. จินตนาการกับตุ๊กตา โดยเริ่มจากการชวนพี่น้องตุ๊กตาไปตัดผม หรือสมมติ ให้ตุ๊กตาแทนตัวลูกก็ได้ตามแต่สถานการณ์จะพาไป แล้วค่อย ๆ ตัดผมตุ๊กตานิดหน่อยให้เขาเห็น เมื่อลูกเริ่มคุ้นชินค่อยชวนเขามานั่งหน้ากระจก เริ่มตัดผมจากปอยเล็ก ๆ ให้เขารับรู้ว่าเขาไม่เจ็บตัวแน่
3. พาไปสำรวจร้านตัดผมก่อน ลองให้เขาได้เห็นกับตาตัวเองว่า ไม่ว่าพ่อ แม่ หรือพี่คนไหน ๆ ก็ยังยิ้มได้ เมื่อนั่งให้ช่างผมคลุมผ้าผืนโตรอบตัว และถือกรรไกรมาตัดผม เพราะฉะนั้นเมื่อถึงคราวของเขาบ้าง ก็ไม่มีอะไรให้เป็นห่วงแล้ว เพราะช่างที่หน้าตาไม่คุ้น แถมถือกรรไกรมาตัดผมไม่ได้ทำให้เขาเจ็บ และเป็นมิตรกับเขาได้เหมือนกัน
4. ไปร้านตัดผมสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพราะช่างตัดผมลูกค้าผู้ใหญ่อาจไม่คุ้นเคยกับลูกค้าตัวน้อย จะยิ่งทำให้เรื่องนี้ยุ่งยากเข้าไปอีก ส่วนร้านสำหรับเด็ก ช่างตัดผมทำงานมาจนรู้ทางเด็กๆ และมักมีของเล่นหรือของล่อจนเสร็จงานอย่างราบรื่น เรียกว่า “เอาอยู่” นั่นเอง
5. ปล่อยเขาลงสนาม “ตัวต่อตัว” กับช่างบ้างก็ได้ พ่อแม่มักวาดภาพว่า เจ้าลูกวัยนี้มี หรือจะยอมนั่งนิ่ง ๆ ให้ตัดผมแต่โดยดี จึงมักคอยจับตัวลูก หรือยืนอยู่ใกล้ ๆ คอยกำกับ โดยหารู้ไม่ว่าที่ลูกร้องไห้ไม่หยุดก็เพราะแม่ยืนอยู่ด้วย จริง ๆ แล้ว บางครั้งลูกก็รู้ว่าเขากำลังทำอะไร สถานการณ์นี้ก็เหมือนกันคุณอาจลองยืดหยุ่นปล่อยเขานั่งคนเดียวดูบ้าง
6. จัดเวลาให้เหมาะ เลือกเวลาที่เด็ก ๆ จะอารมณ์ดีแน่ ๆ เช่น หลังตื่นนอนกลางวันหรือหลังมื้ออาหาร ควรให้ลูกนอนหลับอย่างเต็มที่ รับประทานนม หรือข้าวให้อิ่ม เพราะไม่เช่นนั้น เด็กจะงัวเงีย หงุดหงิด และร้องงอแงได้
7. เตรียมเสื้อไปเปลี่ยนให้ลูก เด็กบางคนเวลาพาเข้าร้านตัดผม มักจะไม่ค่อยชอบใส่ผ้าคลุม คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมเสื้อไปเปลี่ยนให้ลูกด้วย โดยเสื้อที่ว่านี้ ควรเป็นเสื้อบอล หรือเสื้อผ้ามัน เพราะเวลาตัดผม เศษผมจะไม่ติดเสื้อ จะได้ไม่คัน
8. ไม่ควรดุหรือบังคับลูก เช่น ต้องคลุมผ้า หรือกดให้ลูกต้องนั่งตัวตรง แต่ควรปล่อยให้ลูกมีอิสระ และรู้สึกผ่อนคลายขณะตัดผม ลูกก็จะให้ความร่วมมือในการตัดผมเป็นอย่างดี
9. ทำให้เป็นเรื่องสนุก เพราะการตัดผมก็เป็นกิจกรรมหนึ่งในชีวิต ที่พูดถึงได้เหมือนเรื่องอื่น ๆ ที่คุณคุยกับลูก การพูดอย่างนี้จึงทำได้สบายมาก “ตัดผมเสร็จแล้วเราไปไหนกันดี กินไอศกรีมกันไหม หรือไปตัดผมก่อนแล้วค่อยไปเล่นกันต่อที่สนามในหมู่บ้านกับเพื่อนๆ นะ” เมื่อเรื่องตัดผมเป็นเรื่องปกติแถมได้ทำเรื่องสนุก ๆ ต่อด้วย ครั้งต่อไปที่ชวนเขาไปตัดผม เป็นใครก็รู้ว่าตัดผมออกจะสนุก ลองหาผ้าคลุมและกรรไกรเตรียมไว้ซ้อมสถานการณ์ดูนะ
10.ให้ช่างตัดผมใช้กรรไกรแทนบัตตาเลี่ยน ครั้งแรกที่พาไปตัดผมให้คุณพ่อเป็นคนอุ้มส่วนคุณแม่จะเป็นคนคุยกับลูกและควรให้ช่างใช้กรรไกรตัดผมแทนบัตตาเลี่ยนก่อน เพราะเสียงของบัตตาเลี่ยนนั้นอาจทำให้ลูกตกใจกลัวได้
11.หาสิ่งล่อตาล่อใจ ควรเลือกร้านที่มีของเล่นหรือมีรูปการ์ตูนให้ลูกดู จะได้เพลินไปกับการดูการ์ตูน ทำให้ลืมเรื่องความกลัวไปได้เหมือนกัน และยิ่งถ้าใช้กรรไกรด้วยแล้วละก็ไม่ต้องเป็นห่วงเลย ตัดผมเสร็จแน่นอน
12.การให้รางวัล ก่อนตัดผมควรให้ลูกทำความคุ้นเคยกับช่างตัดผมก่อนก็ดีนะ มีการแบ่งปัน หรือการให้ของรางวัลก่อนการตัดผม เช่น ขนม ลูกอม หรือของที่เด็กๆ ชอบ แล้วบอกด้วยว่า จะให้เฉพาะเด็กที่เก่ง เด็กดี ที่ตัดผมเท่านั้น การที่เด็กได้ลูกอมก็ทำให้เริ่มเอนเอียงยอมทำตามทั้งนั้น เพราะปกติแล้วคุณแม่นั้นจะไม่ค่อยให้ทานขนมหวานหรือลูกอมกันสักเท่าไร ทำให้การได้กินขนมหวานหรือลูกอมถือเป็นความพิเศษสำหรับลูกแล้วละ
บทส่งท้าย
สิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำเป็นอย่างแรกคือ การสร้างทัศนคติที่ดีต่อการตัดผมให้กับเด็กตั้งแต่ยังเล็ก รวมถึงให้เขามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนการเตรียมตัว เพื่อให้ลูกเข้าใจและเรียนรู้ว่าการตัดผมไม่ใช่สิ่งน่ากลัวเลย เพราะคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องตัดผมแบบนี้เหมือนกัน
เครดิตรูปภาพ
www.pinterest.com loveiissk.shop perrymackin.com parenting.firstcry.com