บทความนี้ขอแนะนำ “เด็กควรดูทีวีนานแค่ไหน เด็กติดการดูทีวี อาจจะอันตรายกว่าที่คิด” แม้การดูทีวีหรือดูวิดีโอผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลต่าง ๆ จะช่วยเปิดโลกกว้างให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มากมาย รวมทั้งอาจสร้างแรงบันดาลใจและมีอิทธิพลต่อเด็กจากการได้เห็นตัวอย่างที่ดี แต่หากลูกติดการดูทีวีมากจนเกินไปอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้ด้วย ซึ่งการดูทีวีจะส่งผลอันตรายต่อลูกแค่ไหน บทความนี้มีคำตอบมาฝากกัน
เด็กควรดูทีวีนานแค่ไหน
ลูก ๆ ของคุณพ่อคุณแม่นั้นปกติแล้วใช้เวลาเท่าไหร่ในการดูทีวีหรือภาพยนตร์ เล่นกับ สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ หรือเพลิดเพลินกับวิดีโอเกมกัน แม้ว่าการดูหน้าจอบางครั้ง ก็เพื่อการศึกษา แต่ส่วนมากการใช้โทรศัพท์ในการดูอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการศึกษานั้นจะมีมากกว่า และเป็นเรื่องที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ แต่ไม่ควรสนับสนุนให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ดูหน้าจอมือถือหรือทีวี และแนะนำให้จำกัดเวลาหน้าจอของเด็กโตให้ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงต่อวัน
ผลเสียต่อเด็กหากติดทีวีมากเกินไป
1.มีปัญหาในการนอน
มีผลการศึกษาเรื่องการนอนของเด็ก ๆ ค้นพบว่า หากใช้เวลาในการดูทีวี 1 ชม.ครึ่ง ก่อนเข้านอน นอกจากทำให้ลูกใช้เวลาในการเข้านอนนานขึ้นแล้ว แสงและกิจกรรมต่าง ๆ ในทีวีอาจไปกระตุ้นสมองของลูกมากเกินไปซึ่งจะส่งผลให้เด็ก ๆ หลับยากขึ้นด้วย
2.มีการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
การมีอาการไม่เป็นมิตรในบางครั้งนั้นถือเป็นเรื่องปกติโดยทั่วไปของเด็ก ๆ แต่ถ้าหากเจ้าตัวเล็กของคุณอยู่ ๆ ก็แสดงอาการก้าวร้าวอย่างรุนแรงในสนามเด็กเล่น นั้นอาจเป็นผลมาจากการดูทีวี เพราะจากผลการศึกษาข้อมูลพบว่า เด็กเล็กที่มีอายุระหว่าง 21 – 33 เดือน ที่ได้สัมผัสกับสื่อมากเกินไปนั้น แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและต่อต้าน ดังนั้นพ่อแม่ควรลองหาวิธีลดการดูทีวีของลูกลงเพื่อจะช่วยให้เจ้าตัวเล็กนั้นได้ผ่อนคลาย
3.มีพัฒนาการทางภาษาล่าช้า
เด็ก 2 ขวบที่ดูทีวีมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวันนั้น มีโอกาสอย่างมากที่จะมีพัฒนาการทางภาษาที่ช้า เห็นได้ชัดว่าการดูทีวีนั้นไม่ได้มีซับไตเติ้ลหรือการพูดจริง ๆ สำหรับการใช้ชีวิตจริง ๆ ของเจ้าตัวเล็ก
4.หยาบคายกับพ่อแม่
อยู่ ๆ เจ้าตัวเล็กที่น่ารักของคุณกลายเป็นเด็กที่พูดจากหยาบคายหรือเปล่า เด็ก ๆ ในช่วงนี้ยังอยู่ในกระบวนการเรียนรู้ และยังไม่สามารถแยะแยะได้ว่าพฤติกรรมแบบไหนที่เป็นที่ยอมรับ การตอบสนองอย่างก้าวร้าวนั้นเป็นเรื่องไม่เป็นไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวละครที่เขาชื่นชอบได้แสดงถึงลักษณะเหล่านี้ ซึ่งพ่อแม่ควรสังเกตจากรายการที่ลูกดูและชวนให้ดูรายการอื่นที่อ่อนโยนกว่านี้ หรือหากิจกรรมอื่นให้ลูกได้ทำนอกจากการดูทีวีดีกว่า
5.ไม่ได้ใช้พัฒนาการตามวัยอย่างเหมาะสม
เด็กเล็กนั้นเมื่อได้ทำกิจกรรมหรือมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ๆ หรือได้มีส่วนร่วมในการเล่นที่ใช้จินตนาการ จะทำให้สมองของพวกเขาได้รับการพัฒนาและเรียนรู้เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในสังคมได้ แต่การที่ปล่อยให้ลูกใช้เวลาไปในการดูทีวีมากเกินไป สมองของเด็กจะไม่ได้รับโอกาสในการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกรอบตัว และเริ่มกลายเป็นคนคิดเองเออเอง ซึ่งผลลัพธ์ของมันอาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่ไม่มีแรงกระตุ้น ไม่ได้ใช้พัฒนาการตามวัยได้มากกว่าที่ควรจะเป็น
6.ร้องขอสิ่งต่าง ๆ
โฆษณาในทีวีบางตัวกลายเป็นสิ่งดึงดูดที่ลูกชอบ และสำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ขวบนั้น ไม่สามารถที่จะแยกความแตกต่างระหว่างรายการทีวีและโฆษณาได้อย่างสิ้นเชิง เมื่อเขาต้องการของเล่นเหมือนในทีวีเขาก็จะร้องขอ งอแง และคอยก่อกวนพวกคุณทุกครั้งที่เห็นโฆษณาหรือจนกว่าที่เขาจะได้มันมานั้นแหละ
ข้อควรปฏิบัติหากไม่อยากลูกติดทีวี
– เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบไม่ควรดูโทรทัศน์
– เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ดูโทรทัศน์ ได้ไม่เกินวันละ 1-2 ชั่วโมง
– การดูโทรทัศน์จะมีผลเสียต่อพัฒนาการ การเรียนรู้และการรับรู้ของเด็ก
– ไม่ควรตั้งโทรทัศน์ในห้องนอนของเด็ก จะทำให้ไม่สามารถควบคุมความเหมาะสมในการดูโทรทัศน์ได้
– อย่าใช้โทรทัศน์เป็นเครื่องมือในการให้รางวัลหรือลงโทษ จะเป็นการเน้นให้เด็กเห็นความสำคัญในการดูโทรทัศน์มากเกินไป
– ครอบครัวควรสร้างนิสัยการดูโทรทัศน์ โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือการพูดคุยแลกเปลี่ยนในครอบครัวโดยสามารถหยิบยกประเด็นเรื่องราวในโทรทัศน์ มาเป็นประเด็นในการสอดแทรก แนะนำ ได้อย่างนุ่มนวลและแนบเนียน
– การที่เด็กได้ดูโทรทัศน์มากเกินไป ทำให้เด็กขาดโอกาสในการเล่น หรือเล่นน้อยลง ซึ่งเป็นอันตรายมาก เพราะการเล่นของเด็กสำคัญต่อพัฒนาการเด็กและยังช่วยลดความวิตกกังวลของเด็กได้
การอยู่กับจอให้เกิดประโยชน์
– ทำความคุ้นเคยเพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับวัย
– พูดคุยกับลูกของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่พวกลูกเห็น ชี้ให้เห็นพฤติกรรมที่ดี เช่น ความร่วมมือ มิตรภาพ และความห่วงใยผู้อื่น เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่มีความหมายหรือสถานที่ที่น่าสนใจ
– ระวังโฆษณาและอิทธิพลของโฆษณาที่มีอิทธิพลต่อการเลือก
– ส่งเสริมให้ลูกของคุณเรียนรู้กิจกรรมอื่น ๆ เช่น กีฬา ดนตรี ศิลปะ และงานอดิเรกที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าจอ
– สร้างตัวอย่างที่ดีด้วยนิสัยการติดหน้าจอที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพของคุณเอง
– สอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยออนไลน์
– ส่งเสริมการใช้หน้าจอในลักษณะที่สร้างความคิดสร้างสรรค์
– พิจารณาวุฒิภาวะและนิสัยของลูก เพราะเด็กแต่ละคนมีวุฒิภาวะไม่เท่ากัน
บทส่งท้าย
คุณพ่อคุณแม่ควรกำหนดเวลาในการดูทีวีของเด็ก ๆ เพราะไม่อย่างนั้นจะส่งผลเสียตามมาอย่างเช่น โรคอ้วน การนอนผิดเวลา มีปัญหาพฤติกรรม ส่งผลให้ผลการเรียนต่ำลง รวมถึงปัญหาความรุนแรง และทำให้มีเวลาทำกิจกรรมอย่างอื่นลดลง หากเมื่อเด็กอยู่กับจอพ่อแม่ควรอยู่ข้าง ๆ เพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสม
เครดิตรูปภาพ www.parentcircle.com www.express.co.uk www.istockphoto.com