เมื่อลูกน้อยต้องเข้าสู่วัยเรียนชั้นอนุบาล คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมความพร้อมด้านไหนบ้าง

บททความนี้ขอแนะนำ “เมื่อลูกน้อยต้องเข้าสู่วัยเรียนชั้นอนุบาล คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมความพร้อมด้านไหนบ้าง” คุณพ่อคุณแม่ทุกคน ล้วนแต่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างการเข้าโรงเรียนของลูก ๆ แน่นอน ซึ่งคุณพ่อแม่ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจในระดับหนึ่งมาแล้ว เพราะจะต้องมีปัญหาหลากหลายตามมามาอีกแน่นอน แต่คุณก็ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์นั้นให้ได้ด้วย การที่ลูกน้อยไปโรงเรียน เข้าจะได้ไปเจอผู้คนที่แปลกหน้า ได้เจอสังคมใหม่ ความรู้ บรรยากาศรอบตัวใหม่ ๆ และต้องห่างจากอกพ่อแม่เป็นครั้งแรกด้วย ซึ่งในวันแรกนั้นลูกน้อยต้องงอแงไม่ยอมเข้าโรงเรียนง่าย ๆ แน่นอน แต่บทความนี้ก็มีวิธีที่ให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมรับมือกับสถานการณ์ตึงเครียดที่บีบหัวใจนี้ได้อย่างไรบ้างนั้น ลองไปดูกันเลยดีกว่า

Universal Pre-K Is Coming to Public Schools. Are Principals Ready?

1.สร้างความคุ้นเคย โดยการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโรงเรียน หรือพาไปสถานที่จริง

คุณพ่อคุณแม่จะต้องบอกเล่าถึงเหตุผลความเป็นจริงว่าทำไมต้องโรงเรียน แล้วที่โรงเรียนแห่งนั้นจะมีอะไรบ้างที่ลูกต้องพบเจอและทำความคุ้นเคย โดยบอกเล่าเหตุผลและความจริงว่า ที่โรงเรียนจะช่วยสอนให้ลูกมีความรู้มากเพิ่มขึ้น ได้เจอเพื่อน ๆ ใหม่มากขึ้น ได้ทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำที่บ้าน จะได้เรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่สนุกอีกมากมาย หรือว่าจะพาลูกน้องไปยังโรงเรียนสถานที่จริง เพื่อให้เขาได้ทำความคุ้นเคยกับสถานที่แปลกใหม่ให้คุ้นชิน เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องเข้ามาเรียนจริง ๆ 

2.ฝึกให้ลูกหัดช่วยเหลือดูแลตัวเอง

ลูกน้อยของเราถูกเลี้ยงมาอย่างดี เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องดูแลเขาอย่างดี ช่วยเหลือเขาในแทบจะทุกเรื่องเลยก็ว่าได้ แต่เมื่อเขานั้นต้องเขาโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามฝึก พยายามสอนให้เขานั้นหัดช่วยเหลือและดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทานอาหาร การเข้าห้องน้ำ ต้องให้เขาหัดทำและเรียนรู้ฝึกฝนจนพอที่จะสามารถเอาตัวรอดได้ เพราะเมื่อไปโรงเรียนแล้วนั้น คุณครูเองก็ไม่สามารถที่จะมาประกบติดดูแลลูกของเราแบบตัวต่อตัวได้ตลอดเวลา ในช่วงแรก ๆ ที่ฝึก เขาอาจจะมีการทำเลอะเทอะไปบ้าง แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องคอยบอกให้เขาระวัง หรือพอหกเลอะเทอะก็ให้เขานั้นหัดเช็ดทำความสะอาดด้วยตัวเอง การฝึกนี้ต้องใช้ความใจเย็นด้วยนะ

3.ฝึกให้ลูกรู้จักการอดทนรอคอย

ลูกน้อยเมื่ออยู่ที่บ้าน ในยามที่เขาอยากได้อะไร อยากเล่นอะไร ผู้เป็นพ่อแม่ต้องหามาให้อยู่แล้ว แทบจะไม่เคยขัดใจ หรือถูกปล่อยให้รอนาน แต่เมื่อเขานั้นเข้าไปในโรงเรียน การที่เขาต้องการเล่นของเล่น หรือใช้สิ่งของที่โรงเรียน เขานั้นต้องรอและอดทน เพราะสถานที่แห่งใหม่นี้ ไม่ได้มีเพียงเขาเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจในเรื่องการรอคอย การเสียสละในยางครั้ง และการอดทน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่นตามภายหลัง

4.เตรียมร่างกายของลูกให้พร้อม

ก่อนถึงเวลาที่จะให้ลูกน้อยเข้าโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมร่างกายของลูกน้อยให้แข็งแรง ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เต็มที่ และฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน เพราะเด็กน้อยเมื่อเข้าโรงเรียน จะต้องไปอยู่ในสถานที่แห่งเดียวกับเด็กหลาย ๆ คน ซึ่งถ้าคนหนึ่งป่วย ลูกน้อยของเราก็อาจจะป่วยตามไปด้วย มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ไได้ ฉะนั้นแนวทางการป้องกันคือ ต้องทำให้รางกายของลูกน้อยแข็งแรงที่สุด และให้เขารักษาความสะอาดขณะอยู่ที่ดรงเรียนด้วย

5.ฝึกความเป็นระเบียบวินัย

เมื่อเข้าโรงเรียนเรียนลูกน้อยจะต้องตื่นแต่เช้า เพราะต้องเดินทางไปโรงเรียน จะใกล้ไกลก็แล้วแต่คุณพ่อคุณแม่เป็นคนจัดสรร แต่เมื่อเขามีหน้าที่ที่จะต้องไปโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องฝึกฝนให้เป็นระเบียบ เช่น เข้านอนต้องไม่ดึกมาก ไม่ควรควรเกินเวลา 2 ทุ่ม เวลาตื่นนอนก็ไม่ควรจะตื่นสายมากเกินไป เพราะเด็กต้องตื่นมาทำธุระส่วนตัวของเขาอีก ให้เขาได้มีเวลาจะได้ไม่ต้องเร่งรีบเขาจนมากเกินไป ฝึกให้เขาอาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัวด้วยตัวเอง แล้วเขาจะสามารถรู้จักการจัดการเวลาได้ด้วยตัวเอง และจะเริ่มรู้หน้าที่ของตัวเองมากขึ้นไปด้วย

When Should My Child Start School? New Study Discovers Best Age

6. จัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็น

คุณพ่อคุณแม่ควรตะเตรียมสิ่งของที่จำเป็นสำหรับลูกน้อย เช่น นมที่เขาเคยทาน เสื้อผ้า เผื่อมีการทำเลอะ เพราะเด็กยังอยู่ในช่วงกำลังปรับตัว อาจจะมีร้องไห้งอแง ทำเสื้อผ้าเลอะ หรือฉี่เลอะกางเกงบ้าง หรือแจ้งให้คุณครูประจำชั้นทราบว่า ลูกน้อยของคุณนั้นแพ้อาหารหรือแพ้อะไรบ้าง เพื่อป้องกันการเกิดอันตราย 

7.สร้างความมั่นใจว่าคุณจะไม่ทิ้งลูก

เมื่อลูกน้อยไปโรงเรียนวันแรก สถานการณ์ที่ต้องเจอคือร้องไห้งอแง เกาะแขน เกาะขา คุณพ่อคุณแม่ เพื่อไม่อยากอยู่ที่โรงเรียนอย่างแน่นอน เพราะตัวเด็กนั้นเขาจะคิดว่าเขานั้นถูกทิ้ง คุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่มารับเขากลับบ้าน และเขาจะต้องอยู่กับคนแปลกหน้าอีกหลายคน ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความมั่นใจกับเขาว่าไม่ได้จะทิ้งเขาไว้ที่นี้ เดี๋ยวถึงเวลาเลิกเรียนก็ก็จะรีบมารับ และถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ยังแอบกังวล และแอบยืนดูเขาก้ต้องระวังไม่ให้เขาเห็นเป็นอันขาด เรียกได้ว่าต้องปรับตัวทั้งคุณพ่อคุณแม่ และลูกน้อยด้วยเลย

บทส่งท้าย

คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมใจให้พร้อมเลยว่า สถานการณ์เช่นนี้มันต้องบีบหัวใจคุณพ่อคุณแม่อย่างแน่นอน เพราะลูกน้อยก็ไม่เคยห่างจากตัวไปไหนเลย แต่เมื่อถึงวัยที่เขาต้องเขารับการศึกษา จึงต้องเตรียมหาวิธีรับมือ วิธีสอนและบอกเขาถึงความเป็นจริง เป็นการปรับตัวที่ยิ่งใหญ่ทั้งคุณพ่อคุณแม่ และลูกน้อย แต่พอเวลาผ่านไปสักพักลูกน้อยก็จะเริ่มชิน และเริ่มเข้าใจได้แล้วว่าเขามีหน้าที่อะไร ต้องทำอะไร จะไม่งอแงโวยวายแบบวันแรก ๆ อย่างแน่นอน

เครดิตรูปภาพ mcrc.on.ca www.fatherly.com www.indystar.com

บทความ แม่และเด็ก

อาหารเด็ก/นม/ของเล่นเด็ก/คู่มือคุณแม่

บทความล่าสุด
Tag
ขวดนม Pigeon (1) ของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก (31) คอกกั้นเด็ก (1) คาร์ซีท (1) คู่มือสำหรับคุณแม่ (131) จุกนม (1) ชุดคลุมท้อง (1) ชุดว่ายน้ำเด็ก (1) ตู้แช่นม (1) ทิชชู่เปียก (1) ที่ดูดน้ำมูก (1) นมกล่อง UHT (1) นมผง (1) น้ำยาซักผ้าเด็ก (1) น้ำยาล้างขวดนม (1) น้ำเกลือล้างจมูก (2) ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก (19) ฝากครรภ์ (1) รถเข็นเด็ก (1) รถไฟฟ้าเด็ก (1) รวมเรื่อง นม สำหรับเด็ก (1) สารพันปัญหาแม่และเด็ก (142) สารพันปัญหา แม่และเด็ก (36) อาหารสำหรับเด็ก (21) อาหารเสริมสำหรับเด็ก (3) อุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับเด็ก (10) อุปกรณ์เสริมสำหรับเด็ก (72) เครื่องนึ่งขวดนม (1) เครื่องปั๊มนม (1) เครื่องอุ่นนม (1) เคล็ดลับเลี้ยงลูก (2) เปล (1) เปลไกวไฟฟ้า (1) เสื้อผ้าเด็ก (5) แพมเพิส (1) โลชั่นเด็ก (1)