บทความนี้ขอแนะนำ “ลูกเป็นผดร้อน เรื่องจุกจิกในช่วงหน้าร้อนของเบบี๋ ที่คุณแม่ต้องรับมือและใส่ใจเป็นพิเศษ” ในช่วงฤดูร้อน หรือช่วงที่มีอากาศอบอ้าว คุณแม่อาจเคยสังเกตเห็นว่า อยู่ ๆ ลูกก็มีผื่นแดงเม็ดเล็ก ๆ หรือตุ่มน้ำใส ๆ ขึ้นตามไรผม หน้าผาก คอ หลัง รวมถึงบริเวณข้อพับ แขน และขาหนีบ แล้วผดร้อนนั้นเกิดจากอะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบมาฝากกัน
ผดร้อนทารก คืออะไร
ผดร้อน (Miliaria bubra) คือ หนึ่งในอาการของโรคผิวหนังที่เกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อ มักเกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อน หรือช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น พบได้ทั่วร่างกาย เช่น บริเวณใบหน้า คอ ข้อพับ หลัง อก แขน ขาหนีบ หรือบริเวณใต้ร่มผ้าที่มีความอับชื้น ผดร้อนพบมากในเด็กทารก ที่ต่อมเหงื่อและผิวหนังยังพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ดี
ผดร้อนทารก อาการเป็นอย่างไร
อาการของผดร้อน แบ่งออกได้เป็น 4 ลักษณะ ขึ้นอยู่กับความลึกของการอุดตันของท่อเหงื่อ ได้แก่
– ผดร้อนทารก Miliaria Crystallina เป็นการอุดตันของผิวหนังชั้นบนสุด ตัวผดจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส ๆ ขนาดเล็กประมาณ 1–2 มิลลิเมตร ไม่มีอาการเจ็บหรือคัน แต่ตุ่มน้ำจะแตกง่ายมาก
– ผดร้อนทารก Miliaria Rubra เป็นการอุดตันของต่อมเหงื่อบริเวณผิวหนังชั้นนอก แต่ลึกลงไปมากกว่าชั้น Miliaria Crystallina มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดง หรือตุ่มน้ำใส ๆ มีอาการแสบคันร่วมด้วย
– ผดร้อนทารก Miliaria Pustulosa เป็นการอุดตันที่ผิวหนังชั้นที่ลึกลงมา มีลักษณะเป็นตุ่มหนอง
– ผดร้อนทารก Miliaria Profunda เป็นการอุดตันที่เกิดในชั้นหนังแท้ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง ไม่เจ็บหรือคัน
ผดร้อนทารกเกิดจากอะไร
ผดร้อน ผดผื่นทารก เกิดขึ้นจากสาเหตุหลัก คือ ต่อมเหงื่ออุดตัน เมื่อต่อมเหงื่อเกิดการอุดตัน จะทำให้เหงื่อไม่สามารถไหลออกมาภายนอกได้ และเหงื่อก็ไม่สามารถจะระเหยบนผิวหนังได้ด้วย เมื่อเหงื่อระบายออกมาไม่ได้ หยดเหงื่อเหล่านั้นก็จะติดอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการอักเสบและกลายเป็นผื่นขึ้นมา ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต่อมเหงื่ออุดตันนั้นก็เกิดมาได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น
– สภาพอากาศที่ร้อนชื้นหรือร้อนมาก
– ทารกมีไข้สูง
– ทารกที่อยู่ในตู้อบหลังคลอด มีโอกาสเสี่ยงที่ต่อมเหงื่อจะอุดตัน
– สวมใส่เสื้อผ้าหลายชั้น หรือเสื้อผ้าหนามากเกินไป ทำให้เหงื่อไม่สามารถระเหยออกมาได้
– การเสียดสีระหว่างผิวหนังและเสื้อผ้า
ผดร้อนทารกกี่วันหาย
โดยปกติแล้วผดร้อนจะหายเองได้เมื่ออุณหภูมิในร่างกายและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยเย็นลง โดยอาจใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 วันเท่านั้น อย่างไรก็ตามร่างกายของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กบางคนอาจมีอาการดีขึ้นเพียง 1-2 วัน เด็กบางคนอาจใช้เวลานานกว่านั้น แต่ถ้าผ่านไป 3 วัน หรือนานกว่านั้น แล้วผดร้อนไม่มีท่าทีว่าจะทุเลาลง หรือมีผดร้อนเพิ่มมากขึ้น ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที
ผดร้อนทารกแบบไหนที่ควรพาลูกไปหาหมอ
หากเด็กเป็นผดร้อน และมีอาการดังต่อไปนี้ ควรพาเด็กไปพบแพทย์ทันที
– เป็นผดไม่หายสักที และมีอาการแสบร้อนร่วมด้วย
– ผดร้อนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เป็นริ้ว ดูเหมือนแผล
– ต่อมน้ำเหลืองแถวรักแร้ ขาหนีบ และคอบวม
– รู้สึกคันและปวดบริเวณที่ผดขึ้น
– มีอาการไข้
ผดร้อนทารก วิธีรักษาทำอย่างไร
1.หลีกเลี่ยงอากาศร้อน ไม่ควรให้ลูกตากแดด และให้อยู่ในสถานที่ถ่ายเทอากาศได้ดี
2.เลือกให้ลูกสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อโปร่ง บางเบา ระบายอากาศและเหงื่อได้ง่าย เพื่อป้องกันความอับชื้นและการสะสมของเชื้อราหรือแบคทีเรียใต้ร่มผ้า
3.ถ้าอากาศร้อนมาก ให้พาลูกอาบน้ำเย็น โดยปล่อยน้ำไหลผ่านผิวเบา ๆ ไม่ต้องถูตัวแรงเพื่อลดการเสียดสี เมื่อล้างเหงื่อออกก็จะทำให้ผดผื่นลดลงได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงน้ำอุ่น และสบู่ที่อาจก่อให้เกิดความระคายเคือง
4.ช่วงที่ลูกเป็นผดร้อนเยอะมาก ควรเลี่ยงการใช้แป้งฝุ่นไปก่อน เพราะแป้งจะไปอุดตันรูขุมขน ทำให้ผิวหนังเกิดความร้อนและอักเสบขึ้นได้
5.หากจะใช้ครีมทาผิวเด็ก ควรเลือกครีมหรือโลชั่นสำหรับเด็กสูตรอ่อนโยน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น และไม่ทำให้ผิวอุดตัน
6.ในกรณีที่ลูกมีอาการคัน สามารถใช้ยาขี้ผึ้งหรือผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นผิวเพื่อบรรเทาอาการ อย่าง คาลาไมน์ หรือลาโนลิน
วิธีป้องกันผดร้อนในเด็ก
1.หลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นที่ทำให้ผิวของลูกน้อยระคายเคือง เช่น สบู่ ขนสัตว์ อาหารที่ลูกแพ้ อากาศร้อน เสื้อผ้าหนา ๆ ซึ่งทำให้ลูกเหงื่อออกง่าย เป็นต้น
2.ดูแลผิวลูกน้อยให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ด้วยการอาบน้ำวันละ 1 ครั้ง พร้อมใช้สบู่ที่อ่อนโยนต่อผิวและให้ความชุ่มชื้นได้ จากนั้นทาขี้ผึ้ง หรือใช้เป็น วาสลีน โลชั่น ครีมทาผิว ชนิดสำหรับเด็กก็ได้เช่นเดียวกัน
2.หมั่นสังเกตอุณหภูมิร่างกายของเด็กอยู่เสมอ โดยดูจากผิวที่เริ่มมีสีแดงเลือดฝาดหรือเสื้อผ้าที่เปียกชื้น รวมถึงสังเกตผิวของลูกน้อย โดยเฉพาะลำคอ หว่างขา และบริเวณข้อพับอื่น ๆ หากผิวหนังของลูกมีความร้อน ชื้น หรือมีเหงื่อออกมาก ควรล้างบริเวณดังกล่าวด้วยน้ำเย็นและซับเบา ๆ ให้แห้ง
บทส่งท้าย
ด้วยช่วงนี้ที่อากาศร้อน แบบร้อนมาก ซึ่งผู้ใหญ่บางคนยังอยู่แบบลำบากเลย ซึ่งในเด็กทารกนั้นก็ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และปัญหาผดร้อนในทารกก็สามารถเกิดขึ้นได้ในเด็ก ๆ ทุกคน พ่อแม่จึงควรรู้วิธีจัดการและดูแลผิวของลูกน้อยให้ดีที่สุด เพื่อความสบายตัวและสบายใจทั้งครอบครัว
เครดิตรูปภาพ www.whattoexpect.com parenting.firstcry.com www.healthgrades.com zeenews.india.com