บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง ลูกถนัดมือซ้าย มีผลต่อพัฒนาการของลูกหรือไม่ ควรปล่อยหรือควรเปลี่ยน ในโลกเราก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีเฉพาะคนถนัดขวาเท่านั้น ยังมีประชากรที่ถนัดซ้ายอยู่ด้วย ทำให้คุณพ่อคุณเเม่ที่มีลูกถนัดซ้ายหลายคนเริ่มกังวลว่า “เอ๊ะ ลูกเราผิดปกติหรือเปล่า” เราลองมาดูกันดีกว่าว่าทำไมถึงมีเด็กที่ถนัดมือซ้าย เเล้วมันอันตรายจริง ๆ แบบที่ว่ากันหรือเปล่านะ
รู้ได้อย่างไร ว่าลูกถนัดข้างไหน
การสังเกตว่าลูกถนัดข้างไหนสามารถสังเกตได้จากการใช้ชีวิตประจำวันของลูก เช่น สังเกตวิธีการหยิบจับของของลูกว่าชอบหยิบจับข้างไหน หรือเป็นการเล่น เช่น การโยนบอลว่าชอบใช้ข้างไหน หรือการใช้กรรไกรตัดกระดาษว่าชอบใช้มือข้างไหน โดยช่วงวัยที่สามารถสังเกตได้ชัดเจนจะเป็นช่วงประมาณ 3 ขวบขึ้นไป เพราะเด็กช่วงวัยที่เล็กว่านั้นส่วนใหญ่จะหยิบจับสิ่งของด้วยสองมือมากกว่าทำให้พ่อแม่สังเกตได้ยาก
ทำอย่างไรดี เมื่อลูกถนัดซ้าย
ความถนัดซ้ายไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้ถึงความสำเร็จในชีวิตของเด็กเสมอไป เพราะความถนัดของเด็กไม่ควรบังคับเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมของเขา บางครั้งสามารถปรับเปลี่ยนได้ แต่บางครั้งก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ทั้งยังเป็นการลดศักยภาพของเขาอีกด้วย ดังนั้น พ่อแม่ควรปล่อยให้เขาใช้ศักยภาพของเขาให้เต็มที่มากกว่า เพราะปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการของเด็กก็เกี่ยวข้องกับการ
กระตุ้นภายนอกเช่นกัน เช่น สภาพแวดล้อม สังคม และการกระตุ้นพัฒนาการด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ความถนัดด้านไหนก็ไม่ได้มีผลต่อความเร็วในพัฒนาการของเด็กเสมอไป
เด็กถนัดซ้าย ไม่ใช่ความผิดปกติแต่อย่างใด
จากสถิติพบว่าทั่วโลกมีคนถนัดขวาประมาณ 90% ขณะที่มีคนถนัดซ้ายประมาณ 10% ในการศึกษาที่ผ่านมาได้อธิบายถึงความถนัดของมนุษย์ว่าถูกกำหนดตามพันธุกรรม กระบวนการทำงานสมองควบคุมกล้ามเนื้อและระบบประสาทสัมผัส คนที่ถนัดมือขวา จะมีการทำงานควบคุมทักษะกล้ามเนื้อโดยสมองซีกซ้าย ส่วนคนที่ถนัดซ้ายจะมีการทำงานควบคุมกล้ามเนื้อของสมองซีกขวา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่ผิดธรรมชาติ
บังคับให้เด็กใช้มือข้างที่ไม่ถนัดส่งผลอย่างไร
เด็กถนัดซ้ายเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เมืองไทย พ่อแม่จะรู้สึกว่าไม่ถูกต้องจึงพยายามเปลี่ยนให้ลูกถนัดขวา ทำให้สมองจำเป็นต้องสลับการทำงานกันด้วย เพราะสมองซีกซ้ายควบคุมการทำงานของมือขวา สมองซีกขวาควบคุมการทำงานของมือซ้าย และเป็นตำแหน่งที่ตรงกับจุดของสมองที่ควบคุมการสื่อสาร การสลับข้างอาจทำให้เด็กพูดสับสน หยุดพูดไประยะหนึ่งได้ แต่ถ้าอยากเปลี่ยนลูกถนัดซ้ายให้กลายเป็นถนัดขวา ก็สามารถทำได้ แต่ต้องฝึกสมองเสียใหม่เพราะเด็กมีสมองที่เจริญเติบโตตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือฝึกแล้วลูกถนัดการใช้มือข้างไหนมากกว่ากัน
เมื่อลูกถนัดซ้าย พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร
1.พ่อแม่ต้องเข้าใจ
ไม่ควรบังคับให้เปลี่ยนมือนะ แม้ช่วงแรกของการเขียนลูกอาจจะไม่ถนัด เพราะคนที่เขียนข้างซ้ายเวลาเขียนไปทางด้านขวา จะทับตัวอักษรที่เขียนไว้แล้วอาจจะทำให้มองไม่เห็นหรือมือเลอะ คุณแม่ควรหาวิธีการทำให้ลูกไม่เป็นปัญหาด้วยการวางสมุดให้เอียงประมาณ 45 องศาเพื่อให้เห็นตัวหนังสือที่เขียนมาแล้ว
2.แจ้งให้ครูทราบว่าลูกถนัดซ้าย
ปัจจุบันคุณครูเข้าใจเด็กถนัดซ้ายมากขึ้น ไม่มีการบังคับให้เปลี่ยนมือ แต่ต้องแจ้งคุณครูก่อนนะ เพราะต้องจัดที่นั่งในห้อง เด็กมักจะนั่งเป็นคู่ ควรให้เด็กที่ถนัดซ้ายนั่งด้านซ้ายมือเพื่อที่เวลาทำกิจกรรมมือจะได้ไม่ชนกับเด็กอีกคน หรือให้นั่งกับเด็กที่ถนัดซ้ายด้วยกัน
3.หาอุปกรณ์ที่เหมาะกับลูกถนัดซ้าย
ของบางชิ้นทำมาเพื่อคนส่วนใหญ่คือถนัดขวา คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องสังเกตในการซื้อของเล่นหรือของใช้สำหรับลูกนะ ว่าถนัดซ้ายแล้วจะสามารถใช้ได้ไหม แต่อย่าบ่นจนลูกรู้สึกว่าเป็นปัญหาและเป็นภาระให้แม่นะ เพราะเด็กจะรู้สึกเครียดและไม่มั่นใจกับการถนัดซ้ายของตัวเอง
4.สอนวิธีการเขียนที่ถูกต้อง
การเขียนอาจจะเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดใจที่สุดของคนที่ถนัดซ้าย เพราะลักษณะการเขียนภาษาไทยและอังกฤษที่ลูกต้องใช้ในชีวิตประจำวันจะต้องเขียนจากซ้ายไปขวา ดังนั้นเมื่อลูกเริ่มเขียนทางซ้าย ก็จะทำให้ต้องวางมือทับลงไปบนตัวหนังสือที่เพิ่งเขียน นั่นทำให้ลงมือเขียนทีไรมือก็เลอะ กระดาษก็เลอะทุกที แต่ความจริงแล้วหากคุณพ่อคุณแม่ช่วยสอนให้ลูกวางมืออย่างถูกวิธี ก็จะสามารถเขียนโดยอย่างไม่เลอะมือได้
วิธีการเขียนสำหรับคนถนัดซ้าย มีดังนี้
– จับดินสอสูงขึ้นมาจากปลายดินสอประมาณ 2.5 ซม.- 3.8 ซม.
– เอียงกระดาษเพื่อให้แขนตรงกับมุมขวาล่างของกระดาษ และมุมขวาด้านบนของกระดาษทำมุมตรงกับตัวผู้เขียน
– เขียนให้มืออยู่ต่ำกว่าเส้นบรรทัด และข้อมือตั้งตรง
5.สร้างความมั่นใจให้กับลูก
คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างความมั่นใจและทำให้ลูกรู้ว่าการถนัดซ้ายไม่ใช่เรื่องผิดปกติ น่าอาย และการถนัดซ้ายจะไม่เป็นอุปสรรคในการเรียนรู้และใช้ชีวิตของลูก
6.สนับสนุนความถนัดของลูก
สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ควรสนับสนุนและส่งเสริมทุกความถนัดของลูก โดยเฉพาะลูกถนัดซ้าย คนถนัดซ้ายจะมีเทคนิคการเล่นกีฬาบางประเภท เช่น มวย เบสบอล เทนนิส หรือบาสเก็ตบอล ได้ดี ไม่ว่าลูกจะถนัดข้างไหน คุณพ่อคุณแม่ควรผลักดันและเสริมสร้างทักษะที่สำคัญให้กับลูก และไม่ทำให้ลูกรู้สึกด้อยหรือสูญเสียความมั่นใจในตัวเองนะ
บทส่งท้าย
คนถนัดซ้ายมีจำนวนไม่น้อย คนเก่งถนัดซ้ายก็เยอะ คนเก่งถนัดขวาก็แยะ คนไม่เก่งก็ถนัดได้ทั้งซ้ายหรือขวา อย่างที่กล่าวว่า เด็ก 3 ขวบจะเริ่มชัดเจนแล้วว่าเขาถนัดซ้ายหรือขวา แทนที่จะฝึกให้เด็กถนัดซ้ายเปลี่ยนเป็นถนัดขวา คุณพ่อคุณแม่ฝึกให้พัฒนาการตามวัยเป็นไปตามธรรมชาติและเหมาะสมจะดีกว่า
เครดิตรูปภาพ
www.whattoexpect.com www.istockphoto.com www.shutterstock.com learnandliveletter.com