ยาสีฟันสำหรับเด็ก ควรเลือกแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับลูกน้อย

บทความนี้ขอแนะนำ “ยาสีฟันสำหรับเด็ก ควรเลือกแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับลูกน้อย” เรื่องสุขภาพช่องปากของลูกน้อยถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเด็ก ๆ ก็มักจะทานขนม น้ำหวาน ลูกอม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฟันผุได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องให้ลูกน้อยหมั่นแปรงฟันเพื่อให้ฟันสะอาดและแข็งแรง แต่ยาสีฟันแบบไหนถึงจะเหมาะกับลูกน้อยนั้น บทความนี้มีข้อมูลมาฝากกัน 

How on earth do I brush my infant's or toddler's teeth??? | Pure Smiles  South Bay, Redondo Beach

ยาสีฟันเด็ก คืออะไร

ยาสีฟันเด็ก คือผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นในการดูแลสุขภาพช่องปาก เนื่องจาก ยาสีฟัน จะช่วยในการกำจัดคราบจุลินทรีย์ที่เกาะอยู่บนตัวฟัน รวมถึงทางผู้ผลิต อาจมีการผสมสารที่มีประโยชน์หลายๆอย่างเข้าไปด้วย เพื่อช่วยให้ยาสีฟันมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่ดี และป้องกันฟันผุอย่างได้ผล

What should I use to clean my baby's teeth?

ปริมาณยาสีฟันเด็ก ที่เหมาะสม

การใช้ยาสีฟันในเด็ก จำเป็นที่จะต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากการใช้ยาสีฟันมากเกินไป จะเพิ่มโอกาสที่เด็กจะกินหรือกลืนยาสีฟันลงไปในคอ ซึ่งจะส่งผลเสียระยะยาว ซึ่งปริมาณยาสีฟันเด็กที่เหมาะสม สำหรับช่วงอายุต่าง ๆ มีดังนี้

1.เด็กอายุ 6 เดือน – 3 ปี หรือ ยังมีฟันน้ำนมขึ้นไม่ครบ 20 ซี่

– ปริมาณ ยาสีฟันเด็ก ที่เหมาะสม คือเป็นจุด ๆ แค่พอเลอะขนแปรงเท่านั้น โดยผู้ปกครองควรเป็นผู้แปรงฟันให้ โดยใช้ท่านอน หลังจากแปรงฟันเสร็จ ให้ใช้ผ้าสะอาดเช็ดเอายาสีฟันออกทันที

2.เด็กอายุ 3 – 6 ปี หรือ เป็นวัยที่มีฟันน้ำนมครบ 20ซี่แล้ว และยังไม่มีฟันแท้ในช่องปากเลย

– แนะนำให้ใช้ยาสีฟันเด็กในปริมาณ เท่าแนวขวางของแปรงสีฟันเด็ก โดยไม่ต้องบีบให้ยาสีฟันปูดขึ้นมามากจนเกินไป เด็กในวัยนี้ ผู้ปกครองยังควรที่จะแปรงฟันให้อยู่ หรืออาจจะให้เด็กแปรงเองก่อน และผู้ปกครองเป็นคนดูแลความสะอาดซ้ำอีกรอบหนึ่ง จากนั้นให้บ้วนยาสีฟันออก และบ้วนน้ำตามในปริมาณน้อย หากเด็กยังบ้วนปากไม่เป็น อาจใช้ผ้าสะอาดเช็ดยาสีฟันออกภายหลังแปรงฟันเสร็จ

3.เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป หรือ เริ่มมีฟันแท้ขึ้นมาในช่องปาก

– ให้ใช้ยาสีฟันเด็กในปริมาณเท่าความยาวของแปรงสีฟัน โดยในช่วงวัยนี้ เด็กสามารถแปรงฟันเองได้ แต่ควรมีผู้ปกครองคอยตรวจความสะอาดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังแปรงฟันเสร็จ ควรให้เด็กบ้วนน้ำตามในปริมาณน้อย ๆ
Choosing the Best Toothpaste for Kids - Hurst Pediatric Dentistry

ประเภทของยาสีฟันสำหรับเด็ก

1. ยาสีฟันเด็กแบบแผ่น

– เหมาะสำหรับเด็กที่อยู่ในวัยแรกเกิด – 1 ปี

– ใช้ยาสีฟันแบบแผ่นหรือผ้าก๊อซ

– เช็ดทั้งเหงือกบนและล่าง ลิ้น และกระพุ้งแก้ม หลังจากดื่มนมหรือทานอาหารเสร็จ

2.ยาสีฟันเด็กแบบเนื้อครีม

– เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป

– ใช้ยาสีฟันเด็กแบบเนื้อครีมที่มีส่วนประกอบของฟลูออไรด์ ส่วนใหญ่มีกลิ่นหอมเพื่อดึงดูดให้ลูกชื่นชอบในการแปรงฟันมากขึ้น

3.ยาสีฟันเด็กแบบเนื้อเจล

– เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 1 – 3 ปี

– ใช้ยาสีฟันแบบเจลที่มีเนื้อสัมผัสนิ่ม มีสีใส โดยแบบเจลจะมีผงขัดละเอียดกว่าแบบครีม

– สามารถแปรงได้โดยไม่ต้องให้เด็กบ้วนปาก อีกทั้งมีฟองน้อยด้วย
Pick the Best Toothpaste for Your Baby: 5 Non-Toxic Options

หลักการเลือก ยาสีฟันสำหรับเด็ก

1. เลือกซื้อยาสีฟันสำหรับเด็กที่กลืนได้ 

สำหรับเด็กที่ยังบังคับการกลืนไม่ได้ หรือยังไม่รู้จักวิธีการบ้วนปาก ควรใช้ยาสีฟันเด็กที่ระบุว่ากลืนได้ เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเด็กเองที่อาจเผลอกลืนยาสีฟันเข้าไป

2.เลือกยาสีฟันที่เป็นออร์แกนิค

คุณแม่ควรให้ลูกใช้ยาสีฟันสำหรับเด็กที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีอันตราย ไม่ใส่สารแต่งสีและกลิ่น หรือวัตถุกันเสีย เพื่อป้องกันอาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ควรเลือกยาสีฟันที่ไม่มีน้ำตาล เพราะความหวานอาจเป็นสาเหตุทำให้เด็กฟันผุได้

3.เลือกซื้อยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1000 ppm 

ฟลูออไรด์มีความสำคัญสำหรับฟัน เพราะช่วยทำให้โครงสร้างฟัน และผิวเคลือบฟันแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการเกิดคราบพลัคหรือขี้ฟัน จึงช่วยป้องกันการเกิดฟันผุได้ แต่ควรใช้ยาสีฟันในปริมาณที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย เช่นวัย 3 เดือนถึง 3 ปี ควรใช้ยาสีฟันในปริมาณไม่เกินขนาดเม็ดข้าว และในเด็กที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป ใช้ยาสีฟันในปริมาณขนาดเม็ดถั่วเขียว เป็นต้น

When Should I Start Brushing My Baby's Teeth? - everymum

4.เลือกยาสีฟันที่มีผงขัดละเอียด

ผงขัดฟันในยาสีฟัน มีไว้เพื่อช่วยกำจัดคราบและเศษอาหารออกจากผิวฟัน แต่โดยปกติแล้ว เด็กไม่ได้ทานอาหารเยอะเหมือนผู้ใหญ่ และผิวเคลือบฟันกว่าน้อยกว่าของผู้ใหญ่ด้วย ดังนั้นการใช้สารขัดฟันที่หยาบมาขัดฟัน อาจทำให้ฟันน้ำนมเกิดการสึกกร่อนได้ จึงควรเลือกยาสีฟันสำหรับเด็กประเภทเจล สำหรับเด็ก 1-3 ปี เพราะมีขนาดผงขัดที่ละเอียดกว่ายาสีฟันแบบเนื้อครีม ซึ่งเหมาะกับเด็กวัยตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปมากกว่า

5.เลือกยาสีฟันที่มีฟองน้อย 

สารที่ทำให้เกิดฟอง ได้แก่สารโซเดียมลอริลซัลเฟต แม้ว่าจะมีประโยชน์การขจัดคราบที่สะสมบนผิวฟัน แต่ก็มีโทษ เพราะจะไปจำกัดการดูดซึมฟลูออไรด์ และเด็กบางคนอาจเกิดอาการแพ้ขึ้นได้ ดังนั้นการเลือกยาสีฟันที่มีฟองน้อยจึงดีกว่า และยังลดโอกาสที่เด็กจะกลืนยาสีฟันลงไปด้วย

6. เลือกตามความชอบของเด็ก

เนื่องจากในท้องตลาด มียาสีฟันเด็กอยู่หลายยี่ห้อให้เลือก ถ้าเด็ก ๆ ได้เลือกรสชาติที่ชอบก็จะกระตุ้นให้เด็กอยากแปรงสีฟันมากขึ้น เพียงแค่คุณแม่ต้องระวังไม่ให้ลูกกลืนยาสีฟันเข้าไป เพราะอาจเกิดการสะสมระยะยาว ทำให้เกิดปัญหาฟันตกกระได้เมื่อฟันแท้ขึ้น

บทส่งท้าย

การเลือกใช้ยาสีฟันเด็กที่เหมาะสม การแปรงฟันอย่างถูกวิธี  การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และไม่ก่อให้เกิดฟันผุ รวมถึงการมาพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันทุก 6 เดือน คือเคล็ดลับในการช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพฟันที่ดี

เครดิตรูปภาพ www.puresmilessouthbay.com www.palatinepediatricdentist.com hurstpediatricdentistry.com

บทความ แม่และเด็ก

อาหารเด็ก/นม/ของเล่นเด็ก/คู่มือคุณแม่

บทความล่าสุด
Tag
ขวดนม Pigeon (1) ของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก (31) คอกกั้นเด็ก (1) คาร์ซีท (1) คู่มือสำหรับคุณแม่ (131) จุกนม (1) ชุดคลุมท้อง (1) ชุดว่ายน้ำเด็ก (1) ตู้แช่นม (1) ทิชชู่เปียก (1) ที่ดูดน้ำมูก (1) นมกล่อง UHT (1) นมผง (1) น้ำยาซักผ้าเด็ก (1) น้ำยาล้างขวดนม (1) น้ำเกลือล้างจมูก (2) ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก (19) ฝากครรภ์ (1) รถเข็นเด็ก (1) รถไฟฟ้าเด็ก (1) รวมเรื่อง นม สำหรับเด็ก (1) สารพันปัญหาแม่และเด็ก (142) สารพันปัญหา แม่และเด็ก (36) อาหารสำหรับเด็ก (21) อาหารเสริมสำหรับเด็ก (3) อุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับเด็ก (10) อุปกรณ์เสริมสำหรับเด็ก (72) เครื่องนึ่งขวดนม (1) เครื่องปั๊มนม (1) เครื่องอุ่นนม (1) เคล็ดลับเลี้ยงลูก (2) เปล (1) เปลไกวไฟฟ้า (1) เสื้อผ้าเด็ก (5) แพมเพิส (1) โลชั่นเด็ก (1)