บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง ลูกเริ่มโตขึ้นทุกวันแต่ยังไม่ยอมแยกห้องนอนกับพ่อแม่เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่หลาย ๆ ครอบครัวตั้งคำถามว่า ควรฝึกให้ลูกนอนคนเดียวและแยกห้องนอนได้เมื่อลูกอายุเท่าไรดีนะ ควรบอกลูกอย่างไรเมื่อถึงเวลาต้องแยกกันนอนได้ มาลองอ่านบทความของแสนสนุกแล้วนำไปปรับใช้กันดูนะ
ควรแยกห้องนอนกับลูกเมื่อไหร่
จริงๆ แล้วการแยกห้องนอนลูกก็ไม่ได้ต้องมีกฎเกณฑ์อะไรที่ตายตัว หรือตัวเลขอายุของลูกที่เป๊ะ ๆ ขนาดนั้นหรอกนะ แต่ในครอบครัวต่างชาติเขามักจะแยกห้องนอนลูกตั้งแต่ยังเป็นเบบี๋กันเลย หรืออายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไปนั้นเอง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะคิดว่าเด็กไป เดี๋ยวลูกเกิดอันตราย แต่ไม่ต้องห่วงเลย เพราะสมัยนี้เราสามารถติด baby monitor (เหมือนกล้องวงจรปิด) ไว้ดูเด็ก ๆ ได้ตลอดเวลา
แต่ถ้าเป็นเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย คุณพ่อคุณแม่อาจจะถามความสมัครใจของเขาดูก่อนก็ได้ ว่าลูกพร้อมไหมในการแยกห้องนอน ซึ่งอย่างช้าสุดการแยกห้องนอนของลูกก็ไม่ควรให้เกินอายุ 3 ขวบ เพราะไม่อย่างงั้นการแยกห้องนอนจะยากขึ้นนั้นเอง
พ่อแม่ต้องทำอย่างไรหากอยากให้ลูกเริ่มแยกห้องนอน
ในช่วงคืนแรกเชื่อได้เลยว่า อาจจะเป็นสิ่งที่ยาก และวุ่นวาย หรือพ่อแม่บางคนอาจจะเป็นกังวลและยังห่วงลูกได้ ทำให้พ่อแม่บางคนอาจจะให้ลูกอยู่ห้องเดียวกับเราไปก่อน แต่มีการแยกเตียง เพื่อให้เขาได้ปรับตัวก่อนจะแยกห้องนอน ซึ่งสิ่งสำคัญสำหรับการแยกห้องนอนนั้นก็คือ บรรยากาศที่รู้สึกปลอดภัยกับเด็ก ๆ นั่นเอง ซึ่งเรามาดูกันเลยดีกว่าว่า จะทำอย่างไรบ้าง หากอยากให้ลูกได้เริ่มแยกห้องนอน
1.เลือกคืนที่เหมาะสม
พ่อแม่ควรเลือกคืนที่เหมาะสมที่จะพาเขาแยกห้องนอน อย่างวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ทั้งครอบครัวหยุดอยู่บ้านไม่ได้ไปไหน อาจจะมีการบอกลูกไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าพรุ่งนี้เราจะแยกห้องนอนกันนะลูก หรือช่วงก่อนอย่างตอนกลางวันของคืนนั้นก็ยังได้ ให้คุณพ่อคุณแม่อธิบายถึงการแยกห้องนอนว่าทำไมเขาถึงต้องแยกห้องนอน เช่น เพราะเพื่อน ๆ ที่อายุเท่าลูกเขานอนในห้องของตัวเองกันหมดแล้ว เป็นต้น หรือถามความสมัครใจลูกก่อนก็เป็นสิ่งที่ดี
2.ค่อยๆ ให้ลูกได้เตรียมใจ
ก่อนที่จะพาลูกเข้าห้องนอนของตัวเอง คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องพาเขาเข้าไปสำรวจรอบ ๆ ห้องเสียก่อน เพื่อให้เขารู้สึกปลอดภัย หรือหากเขาเกิดกลัวขึ้นมากลางดึก คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องพร้อมที่จะเข้าไปหาเขา เพื่อให้เขารู้สึกว่าเรายังอยู่ใกล้ ๆ และที่นั้นปลอดภัยเสมอ หรือใน
ระยะแรก ๆ อาจจะต้องมีคนคอยอยู่เป็นเพื่อนเขาจนกว่าเขาจะหลับ เพื่อให้เขารู้สึกอุ่นใจนั่นเอง
3.เตรียมห้องนอนในฝันให้ลูก
ทำให้ลูกรู้สึกดีเวลาเข้านอนในเตียงนอนของตัวเอง ให้ลูกเลือกแบบเตียงนอนหรือลายของผ้าปูที่นอนเอง และต้องแน่ใจว่าห้องนอนของลูกอบอุ่น สะดวกสบาย และไม่กระตุ้นให้ตื่นตัวมากเกินไป นอกจากนี้ ให้ลูกได้ใช้ผ้าห่มโปรดหรือได้นอนกอดตุ๊กตาตัวโปรดของลูก
4.ให้ของแทนใจ
หากไม่อยากให้ลูกรู้สึกเหงา หรือไม่ปลอดภัย หรือไม่คุ้นชินกับการนอนคนเดียว คุณพ่อคุณแม่อาจจะนำของหรืออะไรบางอย่างที่เป็นของประจำตัวของแม่ เช่น หมอน หรือเสื้อตัวนุ่ม ๆ หรือตุ๊กตา ที่ทำให้ลูกรู้สึกอุ่นใจว่าเราอยู่ใกล้ ๆ ลูก ก็ทำให้เขานอนแยกห้องนอนได้ง่ายขึ้น
5.พ่อแม่ต้องใจแข็งพอ
หากลูกทำไม่ได้ ให้นอนคนเดียวทีไร ก็แอบเข้ามานอนให้ห้องของคุณพ่อคุณแม่กลางดึกทุกที ซึ่งเด็ก ๆ มักจะทำอย่างนั้นกัน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องใจแข็งนะ พยายามพาเขากลับไปนอนในห้องของตัวเองอย่างใจเย็น ห้ามดุหรือด่า หรือบังคับ ให้ค่อย ๆ พาเขาไปนอนอย่างค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป หรืออาจจะลองยืนอยู่หน้าประตูห้อง รอดูเขาสักครู่ แล้วค่อย ๆ เดินกลับห้อง ช่วงแรก ๆ ต้องเข้าใจลูกหน่อยนะ เพราะมันจะเป็นแบบนี้อยู่ช่วงแรก ๆ เท่านั้น อาจจะมีสถานการณ์แบบนี้อีกบ่อย ๆ แต่เดี๋ยวเขาก็ชินได้เอง
ข้อดีของการแยกห้องนอนกับลูก
• ทำให้ลูกรู้สึกอิสระ ฝึกให้ลูกพยายามหลับด้วยตัวเอง สร้างวินัยการนอนเอง และเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องมีธุระ จำเป็นต้องฝากเด็กไว้กับญาติคนอื่น เด็กจะได้เรียนรู้ในการนอนคนเดียวและไม่เป็นปัญหา
• เสริมสร้างความมั่นใจ การนอนคนเดียวและเข้านอนด้วยตัวเอง เป็นสิ่งใหม่ที่ท้าทายสำหรับเด็ก ถ้าหากเด็กทำได้ก็จะทำให้รู้สึกภูมิใจในตัวเองและมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการ การเข้าสังคม และเป็นประโยชน์ในการสร้างตัวตนของเด็ก ๆ อีกด้วย
• พ่อแม่มีเวลาให้ตัวเองและมีเวลาให้กันและกันมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่หลายคนพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ด้วยการเสียสละและทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการเลี้ยงดูลูก และการอยู่กับลูกตลอดเวลาอาจทำให้เกิดความเครียดสะสมได้ ดังนั้นการแยกห้องนอนกับลูก ไม่เพียงแต่จะมีประโยชน์กับตัวลูกเองเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่กับตัวเองหลังช่วงเวลาที่ลูกเข้านอน ช่วยคลายความเครียด และใช้เวลาทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการบ้าง
บทส่งท้าย
การฝึกให้ลูกนอนคนเดียวแต่เนิ่น ๆ จะเป็นผลดีต่อตัวลูกในอนาคต สำหรับช่วงอายุที่เหมาะแก่การแยกห้องนอนนั้น อาจเป็น 3 ขวบ หรือ 4 ขวบ แล้วแต่ความพร้อมของเด็ก แต่อย่าลืมว่า ยิ่งแยกห้องนอนกับลูกช้า ก็ยิ่งทำให้ลูกนอนคนเดียวได้ยากขึ้นนะ
เครดิตรูปภาพ
https://www.cbc.ca https://parenting.firstcry.com https://masandpas.com