บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง พาลูกออกไปเล่นนอกบ้านทุกวัน มีประโยชน์ต่อลูกแค่ไหน ในความเป็นจริงแล้วการเล่นนอกบ้านนั้นดีและมีประโยชน์อย่างที่เราคาดไม่ถึง เพียงแต่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอาจกลัว และสั่งห้ามเด็ก ๆ จนทำให้การเล่นที่เปรียบเสมือนหัวใจหลักในการส่งเสริมพัฒนาการชั้นยอด ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม แม้กระทั่งอิสรภาพการเล่นของเด็ก ๆ ถูกจำกัดลง ซึ่งข้อดีของการให้ลูกออกไปเล่นนอกบ้านดีอย่างไรนั้น ไปดูกัน
ลูกชอบเล่นนอกบ้านทั้งวันดีหรือไม่
การเสริมพัฒนาการ และการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มีหลายวิธี การได้ออกไปเล่นนอกบ้านถือเป็นทางเลือกหนึ่ง ยังมีกิจกรรมอีกมากที่ยังเหมาะกับเด็กเล็ก ทุกกิจกรรมจึงควรทำแต่พอดี ไม่ควรทำสิ่งใดเพียงอย่างเดียว เพราะจะทำให้เด็กขาดพัฒนาการบางอย่างไป เช่น ถึงแม้การออกไปเล่นของนอกจะช่วยในหลายเรื่องมีประโยชน์มากกว่าข้อเสีย แต่การออกไปเล่นโดยปกติแล้วจะไม่ได้ส่งเสริมพัฒนาการบางอย่าง เช่น การอ่าน หรือการเขียน ซึ่งอาจทำได้ดีกว่าหากเรียนรู้จากจุดอื่น เช่น การอ่านหนังสือที่บ้าน เพราะทำให้เกิดสมาธิมากกว่า สะดวกต่อการเรียนรู้
ต่างจากการเอาหนังสือไปอ่านที่สวน ซึ่งอาจมีสิ่งเร้าอื่นรบกวน เป็นต้น
เปลี่ยนจากการเล่นหน้าจอ ออกมาเล่นนอกบ้าน
เปิดเผยงานวิจัยทางการแพทย์ พบว่า การเล่นมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก
โดยเฉพาะพัฒนาการด้านสังคม เขาจะได้เรียนรู้ที่จะเข้ากับคนอื่น ผลัดกันเป็นผู้ให้และผู้รับ และยิ่งปล่อยให้เด็กได้ออกไปเล่นนอกบ้าน ก็จะเปิดโอกาสสู่การเรียนรู้ รู้จักธรรมชาติ เรียนรู้ที่จะเป็นนักสังเกต คิดเชื่อมโยงเหตุและผล เรียนรู้การเข้าสังคมกับเพื่อนวัยเดียวกัน
ประโยชน์ของการให้ลูกเล่นนอกบ้าน
1.ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน
การที่ลูกเอาแต่อยู่ในบ้าน จะทำให้การเรียนรู้มีขีดจำกัดทั้งการมองเห็น, การได้ยิน และการสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ซึ่งจะจำกัดเฉพาะสิ่งที่มีอยู่ภายในบริเวณบ้าน การให้ลูกได้ออกไปเล่นข้างนอกจะทำให้ลูกได้เห็นสิ่งที่แปลกใหม่มากขึ้น มีโอกาสได้จับหรือสัมผัสสิ่งที่ภายในบ้านไม่มี สิ่งที่แปลกใหม่สำหรับเด็กเหล่านี้ สามารถช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี ช่วยให้เด็กเกิดความสงสัย และพยายามหาคำตอบ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเด็กอย่างมาก
2.ส่งเสริมด้านสุขภาพกาย
การออกกำลังกายสำหรับเด็กเพื่อช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดต่าง ๆ สามารถทำได้หลายวิธี แต่การให้ลูกออกไปเล่นในพื้นที่นอกบ้านจะสามารถส่งเสริมได้มากกว่า เนื่องจากมีพื้นที่ในการเล่นมากกว่า มีอะไรให้เล่นมากกว่า บางสิ่งอาจไม่มีในบ้าน แต่มีในสนามเด็กเล่น การพัฒนาด้านร่างกายมีความสำคัญมากสำหรับเด็กเล็ก เพื่อให้มีพัฒนาการทางด้านร่างกายเป็นไปตามวัย และลดความเสี่ยงโรคอ้วนได้ด้วย
3.มีโอกาสสร้างสังคมใหม่ ๆ
หากเด็กอยู่แต่ในบ้านจะทำให้รู้จัก และคุ้นเคยกับแค่คนในบ้านเท่านั้น แต่ในอนาคตต่อไปหากลูกเข้าโรงเรียน หรือทำงาน ลูกจะต้องเจอสังคมใหม่ ๆ ที่จะต้องพึ่งการปรับตัวเพื่อให้สามารถเข้าสังคมได้อย่างไม่มีปัญหา การให้ลูกได้ออกไปเล่นข้างนอก โดยเฉพาะสถานที่เหมาะกับเด็ก เช่น สวน หรือสนามเด็กเล่น จะทำให้ลูกน้อยมีโอกาสพบปะเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน
ได้เล่น และทำความรู้จักกัน ถือเป็นการสร้างเพื่อนใหม่ และฝึกปรับตัวเพื่อเข้าสังคมได้ดีวิธีหนึ่ง
4.ได้ฝึกคิด แก้ไขสถานการณ์
การได้เล่นข้างนอกมีส่วนในการช่วยให้เด็กได้คิด วิเคราะห์ แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีกว่าการอยู่แต่ในบ้าน เช่น เมื่อลูกเล่นฟุตบอล แล้วเตะไปติดบนต้นไม้ จะเอาลงมาอย่างไร
จะปีนขึ้นไปเอง, หากิ่งไม้มาเขี่ยลูกบอล ,บอกให้พ่อแม่ช่วย หรือขอให้คนแถวนั้นช่วย เป็นต้น หรือเมื่อเด็กคนอื่นเจอปัญหา ลูกจะได้ช่วยคิด หรือมีโอกาสช่วยเหลือผู้อื่น ถือเป็นประสบการณ์ และการเรียนรู้ที่ดี
5.ช่วยให้เด็กไม่ติดไอแพด
ความรู้หลายอย่างในปัจจุบัน สามารถหาได้หลายช่องทางทั้งในหนังสือ ทีวี หรือซึ่งที่เข้ามามีบทบาทต่อเด็กยุคใหม่อย่างคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์ และไอแพด เป็นต้น ทำให้มีโอกาสที่เด็กเล็กอาจใช้เวลาติดหน้าจอนานเกินไป จนไม่มีโอกาสทำกิจกรรมอื่น ๆ อีกที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ อีกทั้งหากติดหน้าจอจะยิ่งทำให้เกิดผลเสียตามมาในภายหลัง เช่น ความผิดปกติของสายตา, ร่างกายไม่แข็งแรง เพราะเล่นไอแพดอย่างเดียว หรือขาดโอกาสในการเข้าสังคม เป็นต้น
ถ้าการเล่นมีประโยชน์มากขนาดนี้ แล้วผู้ใหญ่จะช่วยสนับสนุนเด็กๆ อย่างไร
ควรเริ่มจากการทลายกรอบคำว่า ‘สนามเด็กเล่น’ ของพ่อแม่ผู้ปกครองเสียก่อนว่า ไม่ควรจำกัดอยู่แค่สนามเด็กเล่นที่มีเครื่องเล่นให้เด็กปีนป่ายเท่านั้น เพราะทุกพื้นที่บนโลกคือสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก แม้แต่สวนหน้าบ้าน พื้นที่ส่วนกลางในคอนโดมิเนียม ลานกิจกรรมในหมู่บ้าน
สวนสาธารณะ ถ้าเด็กมีหน้าที่เล่น ผู้ใหญ่ก็มีหน้าที่ส่งเสริมให้เด็กได้เล่น ด้วยการพาไปเล่น
สร้างกิจกรรมหรือเกมที่ให้เขาได้ใช้ความคิดและขยับร่างกาย
บทส่งท้าย
ดังนั้นการให้โอกาสเด็ก เพื่อออกไปเล่นข้างนอกให้นานขึ้น นั่งในบ้านให้น้อยลง ยิ่งได้ประโยชน์ที่จากธรรมชาติที่พวกเขาได้สัมผัส มือที่สกปรก ฝ่ามือทั้งสองที่สัมผัสจุลินทรีย์ ก็คือภูมิคุ้มกันอย่างหนึ่งที่จะสร้างขึ้น และการเล่นอย่างอิสระของเด็กมักจะแฝงไปด้วยเป้าหมายที่ซ่อนอยู่ในความคิดพวกเขา และยังช่วยให้เด็กมีสุขภาพที่ดีกระฉับกระเฉงและยังได้บริหารสายตาในขณะออกกำลังกายกลางแจ้งอีกด้วย
เครดิตรูปภาพ www.washingtonpost.com happiful.com thegeniusofplay.org