สำหรับใครที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้น จะต้องเตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่ที่คุณจะพบกับการเปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการเป็นแม่คนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว แต่ว่าผู้หญิงทุกคนสามารถเป็นคุณแม่ที่ดีได้ ซึ่งการเป็นคุณแม่มือใหม่นั้นคุณจะต้องมีความพร้อมในหลายๆด้าน ที่จะดูแลลูกน้อยให้ดีที่สุด คุณจะต้องเตรียมหาเวลาให้กับลูกให้ได้มากที่สุด เด็กน้อยต้องการได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะในช่วงขวบปีแรก เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการเจริญเติบโต รวมถึงคุณจะต้องมีความพร้อมในเรื่องของอารมณ์และจิตใจ ต้องรู้จักสงบนิ่ง มีความอ่อนโยน และอดทน เพราะจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้อย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายท่านมีความกังวลและกดดันในตัวเองมากเกินไป พยายามที่จะเลี้ยงดูลูกน้อยอย่างดีและสมบูรณ์แบบที่สุด แต่ไม่มีพ่อแม่ท่านไหนที่จะสมบูรณ์แบบในทุกเรื่อง เราจึงต้องค่อยๆเรียนรู้และก้าวไปพร้อมๆกันกับลูกน้อย วันนี้เราจึงมีข้อคิดดีๆ ที่จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขในการดูแลลูกได้มากยิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันเลย
1. แม่ทุกคนไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกเรื่อง
หลายคนพยายามเลี้ยงลูกน้อยให้สมบูรณ์แบบที่สุด แต่แม่ทุกคนต่างก็มีความเก่งและความถนัดที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะสอนการบ้านลูกเก่งแต่ทำอาหารไม่ค่อยอร่อย ในขณะที่บางคนมีอารมณ์ศิลปิน เอนเตอร์เทนลูกให้มีความสุข เล่นสนุกสนาน แต่ไม่ถนัดเรื่องของการทำความสะอาด ดังนั้น คุณแม่จึงควรปล่อยวาง อย่ากดดันตัวเองมากจนเกินไป พยายามมองหาสิ่งที่ตัวเองถนัดและคิดว่าทำได้ดีและชื่นชมตัวเองอยู่บ่อยครั้งจะทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองมากยิ่งขึ้น
2. ช่างมันบ้าง
เป็นอีกหนึ่งข้อคิดดีๆ เหมาะเป็นอย่างมาก สำหรับคุณแม่ที่มีนิสัยชอบคิดมาก ขี้กังวล พยายามจดจำ ทุกสิ่ง และเก็บทุกเรื่องมาคิด จนปวดหัวและพาให้คุณเป็นโรคเครียดสะสมได้ ซึ่งเข้าใจว่าคุณแม่มักจะต้องทำหน้าที่หลายๆอย่างใน 1 วัน ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดบ้าน การทำอาหาร ทำงานประจำ รวมไปถึงการดูแลลูกน้อย ซึ่งทุกหน้าที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเลย คุณแม่จะต้องปล่อยวาง อะไรที่ไม่สำคัญก็ไม่ต้องเก็บเอามาคิด เช่น ในบางครั้งลูกเล่นของเล่นเลอะเทอะทั่วบ้าน คุณแม่อาจจะมองเป็นการฝึกพัฒนาการของลูก พยายามปรับมุมมองเพื่อให้เห็นในข้อดีของสิ่งเหล่านั้น จะช่วยให้คุณแม่ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น
3. บ้านรกบ้างก็ไม่เป็นไร
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าถ้าบ้านไหนมีเด็กบ้านนั้นจะต้องเลอะเทอะ ไม่เป็นระเบียบเท่าที่ควร แต่ถ้าหากคุณแม่เป็นคนสะอาด เป็นคนเจ้าระเบียบ สิ่งของทุกชิ้นจะต้องเก็บเป็นที่เป็นทาง ซึ่งกฎระเบียบเหล่านี้อาจจะปล่อยให้หย่อนบ้างไม่ต้องตึงจนเกินไป เพราะอาจทำให้บรรยากาศภายในบ้านนั้นไม่มีความสุข มีแต่คำบ่น ดุด่า พาให้กดพัฒนาการของลูกน้อยได้ คุณแม่จะต้องปรับวิธีคิด ลูกยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์
4. เข้าใจเสียงร้องไห้ของลูก
คุณแม่หลายท่านอาจจะเหนื่อย และท้อ กับการที่ลูกดื้องอแงร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง บางครั้งอาจทำให้คุณแม่เกิดการหงุดหงิดขึ้นได้ คุณแม่ควรระงับอารมณ์แล้วตั้งสติพยายามคิดว่าเสียงร้องไห้ของลูกนั้นเขาต้องการที่จะสื่อสารอะไรบางอย่างกับเรา และพยายามมองหาปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกจะทำให้เราพร้อมที่จะเข้าใจ และสนุกสนานกับการได้คุยได้เล่นกับลูกมากยิ่งขึ้น
5. มองความสุขง่ายๆที่อยู่รอบตัวเรา
คุณแม่บางท่านอาจจะกำลังปรับตัวกับการมีลูกน้อยซึ่งคุณแม่จะไม่ได้คล่องตัวเหมือนตอนที่อยู่คนเดียว การไปไหนหรือทำอะไรหลายๆอย่างจะต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อยากทำอะไรก็ไม่ได้ทำอย่างที่เคยเป็น จนบางครั้งอาจจะรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง และอาจจะรู้สึกไม่มีความสุข เป็นที่นี้แนะนำว่าคุณแม่ควรลองปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ เพียงแค่คุณแม่ลองมองไปรอบๆบ้านและจะพบเห็น สามี และ ลูกของเรา รวมไปถึงคุณพ่อคุณแม่ญาติพี่น้องที่คอยอยู่ข้างๆเรา คอยช่วยเหลือให้คำปรึกษา มีเสียงหัวเราะ มีอาหารอร่อยๆให้ทาน หรือลองหากิจกรรมใหม่ๆทำร่วมกันดูบ้างเพื่อให้เกิดประสบการณ์ใหม่ และเป็นความทรงจำที่ดีร่วมกัน หรือหากคุณแม่รู้สึกไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง คุณแม่หาเวลาส่วนตัวเล็กน้อยเพื่อที่จะได้ผ่อนคลายในแต่ละวัน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกเลี้ยงลูกน้อยอย่างมีความสุข
จะเห็นได้ว่าปัญหาของการเป็นคุณแม่มือใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลายคนกำลังตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้า หรือกำลังกังวลอยู่กับการที่จะพยายามเป็นคุณแม่ที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่อย่าลืมว่า คนเรานั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบไปทุกเรื่อง ดังนั้น คุณแม่จึงควรปล่อยวางและพยายามเลี้ยงลูกอยู่บนพื้นฐานของตัวเอง พยายามมีความสุขและสนุกกับทุกวันที่ได้อยู่กับลูก ตักตวงช่วงเวลาดีๆที่เราไม่สามารถเรียกย้อนคืนกลับมาได้ เพราะลูกของเราก็โตขึ้นทุกวัน ปัญหาอะไรที่ไม่สำคัญให้ปล่อยวางและปรับเปลี่ยนมุมมองพยายามมองหาข้อดีในสิ่งเหล่านั้น จะช่วยให้คุณแม่มีความสุขได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง สล็อตเว็บตรง