เป็นไข้เลือดออกตอนตั้งครรภ์อันตรายไหม ภัยร้ายที่ต้องเฝ้าระวัง

บทความนี้ขอแนะนำ “เป็นไข้เลือดออกตอนตั้งครรภ์อันตรายไหม ภัยร้ายที่ต้องเฝ้าระวัง” ไข้เลือดออก ไม่ใช่แค่ทำอันตรายกับคนทุกเพศทุกวัย เพราะหากคุณแม่ตั้งครรภ์ติดเชื้อนี้  ก็จะส่งผลอันตรายทั้งต่อตัวคุณแม่เองและลูกน้อยจนทำให้ถึงกับแท้งหรือตกเลือดได้ทั้งตอนตั้งครรภ์และขณะคลอด ซึ่งบทความนี้มีข้อมูลของไข้เลือดให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้เฝ้าระวังกันมาฝากกัน

Caution Advised Over Seasonal Dengue Fever

ไข้เลือดออก คืออะไร

ไข้เลือดออก คือโรคที่เกิดจากไวรัสเดงกี (Dengue) ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งพบได้บ่อยมากในประเทศไทยที่มีจำนวนยุงลายเยอะมาก ทำให้ประเทศไทยสามารถพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกได้ตลอดปี แต่มักมีการระบายหนักในช่วงฤดูฝน ที่มีจำนวนยุงลายมากเป็นพิเศษ อาการของโรคไข้เลือดออกนั้นจะแสดงอาการได้ในเฉลี่ยหลังจากถูกยุงกัด 3-15 วัน (โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 5-6 วัน) โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ติดเชื้อแต่อาจไม่แสดงอาการใด ๆ เลย 

คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออก ไม่เพียงแต่มีความเสี่ยงของตัวเองเท่านั้น เชื้อยังอาจผ่านรกไปยังทารกในครรภ์ และทำให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยผิดปกติ คลอดก่อนกำหนด หรือเสียชีวิตในครรภ์ได้ แต่ไม่ได้ไปทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิดของทารก ในคุณแม่ตั้งครรภ์อาจจะมีอาการทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่

อาการไข้เลือดออก ทั้งหมด 3 รูปแบบ

1.อาการที่มีเหมือนกันนั้นก็คือ จะมีไข้สูง และอาจมีผื่นเป็นปื้น และเกิดจุดแดง ๆ คล้ายหัดตามผิวหนัง อาการนี้โดยปกติมักเกิดในเด็กเล็กมากกว่า

2.อาการนี้จะมีไข้สูงเช่นกัน และจะมีอาการปวดทั่วร่างกาย เช่น ปวดรอบศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดกล้ามเนื้อ และอาการปวดกระดูก โดยอาการของกระดูกจะมีความรุนแรงกว่าส่วนอื่น ผู้ป่วยจะรู้สึกเหมือนกับกระดูกจะแตก และจะมีอาการที่มีผื่นขึ้นตามตัว และมีขุดเลือดออกตามผิวหนัง เมื่อทำการตรวจโดยแพทย์แล้ว จะพบได้ว่ามีเม็ดเลือดขาวต่ำ และมีเกล็ดเลือดต่ำ

3.นอกจากจะมีไข้สูง จะยังมีอาการปวดท้อง และมีอาการเบื่ออาหาร อาเจียน รวมไปถึงปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อร่วมด้วย รวมไปถึงมีอาการเลือดออกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด หรือในอาการรุนแรง ยังอาจมีอาการเลือดออกในตับ ไต สมอง ฯลฯ ได้ด้วย โดยอาการเหล่านี้เป็นอาการรุนแรง และมีอันตรายถึงชีวิต ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน
COVID-19 and Dengue Symptoms: Similarities and Differences

อาการของโรคไข้เลือดออก

อาการของโรคไข้เลือดออกนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะ ที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นไปตามระยะ 

* ระยะที่ 1

มีไข้สูงมากกว่า 38 องศา โดยเมื่อเวลาผ่านไป 3-4 วัน ไข้ก็ยังไม่ลดลง  มีอาการปวดกระดูก เหมือนกระดูกจะแตก และปวดเบ้าตามาก และเริ่มมีอาการผื่นขึ้นตามผิวหนัง เป็นปื้น ๆ ในการรักษาอาการไข้เลือดออกในระยะแรกนี้ หากตรวจแล้วมีเกล็ดเลือดต่ำ ก็จะมีการให้เกล็ดเลือด และจะให้น้ำเกลือหรือผงเกลือแร่ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของเลือด และเพิ่มสารอาหาร เพื่อให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น

* ระยะที่ 2

 มีจุดเลือดตามผิวหนัง โดยจะเป็นเหมือนรอยยุงกัด แต่จะมีสีเข้มและชัดเจนกว่า อาจมีเลือดกำเดาไหล หรือมีเลือดออกตามเหงือก หากมีความรุนแรง จะมีอาการอาเจียนเป็นเลือด

* ระยะที่ 3

ไข้จะลดลง ซึ่งเป็นอาการที่บ่งบอกถึงภาวะช็อกที่กำลังใกล้เข้ามา ความดันต่ำลง แต่หัวใจจะมีอัตราการเต้นเร็วขึ้นมาก คนไข้จะมีอาการกระสับกระส่าย เหงื่อออกมากกว่าปกติ

 * ระยะที่ 4

เป็นอาการระยะสุดท้าย มีภาวะช็อกขั้นรุนแรง มีความดันที่ต่ำมาก จนแทบจะไม่สามารถวัดได้ และส่งผลให้เลือดจะไม่ไปเลี้ยงตับ ไต และส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จนนำไปสู่การเสียชีวิต

โรคไข้เลือดออก ส่งผลอย่างไรต่อลูกในครรภ์บ้าง

– ไตรมาสแรก (12 สัปดาห์แรก)

เป็นขั้นที่อันตรายมาก ถ้าหากคุณแม่เป็นไข้เลือดออกในช่วงนี้ จะมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้ลูกในครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้

 – ไตรมาสสอง (12-28 สัปดาห์)

หากคุณแม่ตรวจพบโรคไข้เลือดออกในช่วงนี้ อาจทำให้มีความเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนด ซึ่งจะทำให้ลูกน้อยที่คลอดออกมามีน้ำหนักน้อย แต่ลูกจะปลอดภัย เพราะว่าเชื้อไวรัสยังไม่สามารถเข้าถึงลูกน้อยได้

– ไตรมาสสาม (29-40 สัปดาห์)

เป็นช่วงที่มีความอันตรายมาก เพราะถ้าคุณแม่ท้องเป็นไข้เลือดออกในช่วงเวลานี้ โดยหากเป็นไข้เลือดออกในระยะที่ 2 เมื่อลูกคลอดออกมาแล้ว อาจจะติดโรคไข้เลือดออกผ่านทางสายสะดือได้ และอันตรายยิ่งกว่า ถ้าหากเป็นไข้เลือดออกในระยะที่ 3-4 จะส่งผลให้ลูกน้อยเสียชีวิตในครรภ์ได้ หากคลอดเองคุณแม่ก็จะมีอาการตกเลือด และถ้าหากผ่าคลอด ก็จะเกิดอาการเสียเลือดมาก จนส่งผลให้อาจเสียชีวิตได้

การรักษาไข้เลือดออก ขณะตั้งครรภ์

สำหรับแม่ท้องแล้วการรักษาไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไป คือรักษาตามอาการ ไม่มียาเฉพาะเจาะจงที่ใช้กับโรคไข้เลือดออก การรักษามุ่งเน้นแก้ภาวะขาดน้ำ และภาวะช็อก โดยการให้สารน้ำ หากมีไข้สูงห้ามให้แอสไพรินหรือยาจำพวกเอ็นเสด  เช่น ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen)        ไดโคลฟีแนค (Diclofenac) มีลอกซิแคม (Meloxicam) ฯลฯ แต่ควรใช้ยาลดไข้พาราเซตามอลแทน ซึ่งปกติสามารถให้ได้ในคนท้อง ข้อควรระวังคือ หากไม่จำเป็นไม่ควรจะผ่าตัดคลอดเพราะอาจเสียเลือดมากจากเกล็ดเลือดต่ำ กรณีที่ต้องทำ แพทย์จะต้องทำด้วยความระมัดระวัง พร้อมเตรียมเลือด น้ำเหลืองพลาสม่า และเกล็ดเลือดให้พร้อม

การป้องกันโรคไข้เลือดออก

1.นอนในมุ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยนอนในมุ้งแม้จะเป็นในเวลากลางวัน

2.กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ทั้งในบ้าน หรือบริเวณรอบบ้าน รวมไปถึง กำจัดภาชนะแตกหักที่มีการขังน้ำ เช่น แจกัน ยางรถเก่า กระถางต้นไม้

3.เลี้ยงปลากินลูกน้ำ เพราะจะสามารถป้องกันการเพิ่มจำนวนของยุงที่มาวางไข่ในน้ำได้

4.ปิดฝาโอ่ง หรือภาชนะต่าง ๆ ให้มิดชิด หรือใส่ทรายเคมี เพื่อกำจัดลูกน้ำในภาชนะที่เก็บน้ำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

5.ทาครีมกันยุง ครีมกันยุง สามารถป้องกันยุงกัดได้ดี

บทส่งท้าย

โรคไข้เลือดออก เป็นโรคที่เกิดขึ้นและพบได้บ่อยในประเทศไทยตลอดปี และมีอาการที่แตกต่างกันไปตามในระยะของโรค ซึ่งมีความอันตรายอย่างมากต่อคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ยุงกัดเป็นวิธีที่ดีที่สุด ยุงลายที่นำเชื้อไข้เลือดออกมักกัดตอนกลางวัน คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรอยู่ในห้องที่มีมุ้งลวด หากต้องทำกิจกรรมในห้องตอนกลางวัน การใช้ยากันยุงแบบโลชั่น ครีมหรือแบบสเปรย์ก็สามารถช่วยได้

เครดิตรูปภาพ www.amazon.de www.gleneagles.com.sg parenting.firstcry.com

บทความ แม่และเด็ก

อาหารเด็ก/นม/ของเล่นเด็ก/คู่มือคุณแม่

บทความล่าสุด
Tag
ขวดนม Pigeon (1) ของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก (32) คอกกั้นเด็ก (1) คาร์ซีท (1) คู่มือสำหรับคุณแม่ (173) จุกนม (1) ชุดคลุมท้อง (1) ชุดว่ายน้ำเด็ก (1) ตู้แช่นม (1) ทิชชู่เปียก (1) ที่ดูดน้ำมูก (1) นมกล่อง UHT (1) นมผง (1) น้ำยาซักผ้าเด็ก (1) น้ำยาล้างขวดนม (1) น้ำเกลือล้างจมูก (2) ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก (19) ฝากครรภ์ (1) รถเข็นเด็ก (1) รถไฟฟ้าเด็ก (1) รวมเรื่อง นม สำหรับเด็ก (1) สารพันปัญหา แม่และเด็ก (37) สารพันปัญหาแม่และเด็ก (171) อาหารสำหรับเด็ก (24) อาหารเสริมสำหรับเด็ก (3) อุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับเด็ก (10) อุปกรณ์เสริมสำหรับเด็ก (76) เครื่องนึ่งขวดนม (1) เครื่องปั๊มนม (1) เครื่องอุ่นนม (1) เคล็ดลับเลี้ยงลูก (2) เปล (1) เปลไกวไฟฟ้า (1) เสื้อผ้าเด็ก (5) แพมเพิส (1) โลชั่นเด็ก (1)