บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง “เหม็นสามี” อาการแพ้ท้องสุดแปลกช่วงตั้งครรภ์ มีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง อาการแพ้ท้องในคุณแม่มือใหม่ โดยทั่วไปมักจะเข้าใจกันว่ามีแค่อาการคลื่นไส้ อาเจียน อยากทานของเปรี้ยวๆ หรืออ่อนเพลีย ไม่ค่อยจะมีแรง ฯลฯ แต่มีอาการแพ้ที่แปลกกว่านั้นคือ “เหม็นเบื่อสามี” พอท้องขึ้นมากลับรู้สึกเหม็นขี้หน้าไม่อยากให้เข้าใกล้ เห็นหน้าแล้วหงุดหงิด เป็นอาการที่ไม่ได้คิดไปเอง และเกิดขึ้นได้บ่อย ดังนั้น คุณแม่คนไหนที่กำลังเผชิญปัญหานี้มาดูวิธีแก้ปัญหากัน
แพ้ท้องเหม็นสามี เกิดจากอะไร เริ่มเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่
โดยปกติแล้ว อาการแพ้ท้องเกิดขึ้นจากการที่รกในครรภ์เร่งสร้างฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin “ฮอร์โมนของผู้ตั้งครรภ์” ซึ่งเป็นฮอร์โมนชนิดนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่สตรีตั้งครรภ์เท่านั้นเพราะส่วนประกอบที่สำคัญมาจากเซลล์รกของทารก โดยปกติแล้วฮอร์โมนชนิดนี้จะถูกผลิตหลังจากอสุจิและไข่ปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนได้ประมาณ 11-14 วัน สามารถ) ให้สูงขึ้นเพื่อกระตุ้นการทำงานของรังไข่ ในขณะตั้งครรภ์ระยะแรก ส่งผลให้ช่วง 1-3 เดือนแรกคุณแม่จะมีอาการแพ้ท้องหนัก ระบบประสาทรับรส รับกลิ่นไวขึ้นมากกว่าปกติ ตามมาด้วยอาการแทรกซ้อนอย่าง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลียได้ง่าย กินอาหารไม่อร่อย ดมกลิ่นอะไรแรง ๆ ไม่ได้ ซึ่งจะบรรเทาและลดลงไปเองเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น
แต่ทั้งนี้อาการแพ้ท้องก็มีโอกาสเกิดขึ้นตลอด 9 เดือน สำหรับคุณแม่ที่มีภาวะการตั้งครรภ์ผิดปกติอย่าง การตั้งครรภ์แฝด เพราะรกจะสร้างฮอร์โมน HCG มากกว่าปกติ รวมถึงคุณแม่ที่เพิ่งเคยท้องครั้งแรก แล้วสภาพจิตใจย่ำแย่ รู้สึกวิตกกังวล กลัวการคลอดลูก กลัวลูกเป็นอันตราย ก็จะทำให้อาการแพ้ท้องหนักมากขึ้น ส่งผลให้อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ หงุดหงิดง่าย ร้องไห้ง่าย ไม่รู้วิธีจัดการกับตัวเอง จนพาลไปลงกับสามีหรือคนรอบข้างได้เช่นกัน
อาการเหม็นเบื่อสามีเวลาท้อง
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าอาการแพ้ท้อง เกิดจากความแปรปรวนของระดับฮอร์โมนในร่างกาย นอกจากจะทำให้วิงเวียน คลื่นไส้ เหม็นกลิ่นอะไรได้ง่ายแล้ว อาการเหม็นนี้ยังลามมาถึงกลิ่นตัวของสามีด้วย บางคู่จากที่เคยชอบคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ กัน พอตั้งท้องขึ้นมาแค่มานั่งข้างๆ หรือนอนเคียงกันบนเตียงก็ไม่ได้แล้ว แม้ว่าคุณสามีจะรักษาความสะอาดส่วนตัวดีขนาดไหนก็ตาม ว่าที่คุณแม่ก็ยังทนกลิ่นต่างๆ ไม่ไหวจนแทบไม่อยากจะอยู่ร่วมบ้านเดียวกันไปเลยก็มี นอกจากนี้อาการยังอาจลุกลามจนถึงขั้นเหม็นขี้หน้า เพราะเห็นแล้วหงุดหงิด โมโห อารมณ์เสีย พาลไปถึงขอเลิกกันก็มี
วิธีแก้อาการเหม็นเบื่อสามี
1.พูดคุยกับสามีให้เข้าใจ ด้วยการพูดกันตรงๆ ว่าอาการตอนนี้เป็นอย่างไร เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำให้รู้สึกอย่างไร หากอยากอยู่คนเดียวไม่อยากให้วุ่นวาย ก็ควรบอกกันดีๆ มีอะไรหนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน คุณสามีเองก็ต้องใจเย็นและเห็นอกเห็นใจภรรยาในช่วงนี้ให้มากๆ
2.ดึงสติตัวเองให้มาก แม้ว่าคุณจะรู้สึกเหม็นสามีในช่วงเวลานี้ ก็ไม่ควรพูดสิ่งแย่ ๆ ออกไป จนทำให้อีกฝ่ายที่ดูแลคุณอย่างใกล้ชิดผิดหวัง พยายามตั้งสติให้มั่น รู้ตัวและรู้ทันอารมณ์หงุดหงิดของตัวเองให้มากที่สุด จะช่วยลดความเกรี้ยวกราดในระหว่างตั้งครรภ์ให้น้อยลงได้
3.หลีกเลี่ยงอาหารที่คุณรู้สึกเหม็น หากคุณรู้สึกเหม็นอาหารหรือกลิ่นบางอย่าง ควรหลีกเลี่ยง และเลือกกินอาหารทดแทนอื่น ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้คุณรู้สึกหงุดหงิด จากเหม็นแค่กลิ่นอาหาร ก็พาลเหม็นหน้าสามี เห็นแล้วรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน จนอาจเผลอพูดอะไรไม่ดีออกไปเอาได้
4.อ้างเหตุผลอื่นเมื่อต้องการให้สามีออกไปห่าง ๆ ถ้าอาการเหม็นสามีรุนแรงจนทนไม่ไหวจริง ๆ แนะนำว่าคุณควรอ้างด้วยเหตุผลแบบอ้อม ๆ ไปทางอื่นเพื่อไม่ทำให้เขาคิดมาก เช่น อาจจะไหว้วานเขาไปซื้อของให้สักระยะหนึ่ง หรือคุณขอตัวไปนอนในห้องแบบเงียบ ๆ คนเดียว เพื่อปลีกตัวให้ห่างกันสักหน่อย ก็ช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้เผลอหลุดปากคำพูดแย่ ๆ ออกไป
5.กินผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว น้ำตาลสูง น้ำเยอะ อย่างพวกสับปะรด ส้ม แตงโม หรือกล้วย เพื่อช่วยย่อยอาหารในท้อง เติมสารอาหารทดแทนอาหารที่อาเจียนออก เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้เพลีย และรักษาสมดุลร่างกายทำให้อาการแพ้ท้องลดลง รวมถึงทำให้ร่างกายของคุณแม่ไม่ขาดน้ำอีกด้วย แต่ถ้ากินไม่ไหว ให้หาน้ำผลไม้ไม่มีน้ำตาลมาดื่มแทน
6.กินอาหารที่มีสังกะสีสูง อาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี หรือซิงก์ จำพวกปลา นมสด ถั่ว ข้าวโพด ตับ หรือผักสีเขียวเข้ม จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ดี และช่วยให้คุณแม่ฟื้นตัวจากอาการอ่อนเพลียได้ไวขึ้น หากรู้สึกว่ากินยาก กินไม่ไหว ให้ใช้วิธีบดวัตถุดิบทั้งหมดรวมกัน แล้วแบ่งทานทีละน้อยพร้อมกับอาหารมื้อหลักดู
7.หาของกินก่อนนอน คุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ท้องหิว หรืออดอาหารเพราะกลัวตัวเองอาเจียนออกเด็ดขาด เนื่องจากน้ำย่อยมีส่วนทำให้แสบท้องและทำให้แพ้ท้องหนักมากขึ้น ไม่ว่าจะแพ้ท้องหนักขนาดไหน ก็ควรอาหารที่พอจะกินได้ลงท้องไว้บ้าง โดยเฉพาะเวลาก่อนนอน เตรียมดื่มนมอุ่น ๆ สักแก้ว หรือโยเกิร์ตสักถ้วย จะช่วยลดอาการคลื่นไส้ในตอนเช้าได้
8.ดื่มน้ำขิง นอกจากขิงจะมีสรรพคุณช่วยขับลม ไม่ให้คุณแม่ท้องอืดแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียนได้ดี แถมยังมีกลิ่นหอม ช่วยผ่อนคลายความเครียดอีกด้วย
9.หากิจกรรมทำ หากการเลือกกินอาหารไม่ช่วยอะไร เปลี่ยนไปหากิจกรรมโปรดทำแทนอย่าง อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ทำสมาธิ เพื่อเบี่ยงความสนใจไปโฟกัสในเรื่องอื่น ไม่คิดแต่เรื่องแพ้ท้องจนรู้สึกเครียดและกังวล พยายามทำให้จิตใจแจ่มใสเบิกบาน จะได้ไม่พาลอารมณ์เสียใส่คนรอบข้าง
10.นอนพักผ่อนให้มาก เมื่อเห็นอะไรก็หงุดหงิด ไม่มีอารมณ์ทำอะไร การนอนอยู่นิ่ง ๆ ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะช่วยให้คุณแม่มีเวลาให้กับตัวเอง ได้ฟื้นฟูร่างกายไม่ให้อ่อนเพลีย ไม่ต้องออกแรงพรวดพราดจนเกิดวิงเวียนศีรษะ แล้วแพ้ท้องหนักขึ้นได้
บทส่งท้าย
คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณพ่อบ้านไหนที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ก็ขอให้อดทนกันไว้นะอาการคนท้องแบบนี้เกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่นาน พอคลอดน้องแล้ว อาการต่างๆ ก็จะหายไป ดังนั้นขอให้เข้าใจกันให้มากๆ ในระหว่างนี้เป็นดีที่สุด
เครดิตรูปภาพ www.verywellfamily.com cafemom.com accounts.shutterstock.com