อาหารกระตุ้นการตั้งครรภ์ คุณแม่มีบุตรยากต้องไม่ควรพลาด

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง อาหารกระตุ้นการตั้งครรภ์ คุณแม่มีบุตรยากต้องไม่ควรพลาด หากคุณแม่คนไหนกำลังวางแผนจะมีลูก ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำให้เริ่มปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และพฤติกรรมการกิน เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด โภชนาการที่เหมาะสม การผสมผสานอาหารบางชนิดเข้ากับอาหารของคุณ จะช่วยบำรุงร่างกาย ปรับสมดุลของฮอร์โมน และเพิ่มโอกาสการตกไข่ได้สำเร็จ อาจจะช่วยให้มีบุตรได้ง่ายขึ้น  

เคล็ดลับการกินอาหารสำหรับคน อยากมีลูก

คู่สามีภรรยาที่มีเพศสัมพันธ์กันอย่างสม่ำเสมอโดยไม่คุมกำเนิด ปกติแล้ว 90% จะสามารถมีบุตรได้เองภายใน 1 ปี ดังนั้นหากคู่ไหนที่ปฏิบัติภารกิจกันมาถึง 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะตั้งครรภ์ได้ง่ายๆ อาจลองให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารให้มากขึ้น เพื่อบำรุงร่างกายและเพิ่มความแข็งแรงให้กับระบบสืบพันธุ์ ดังนี้

1.หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูงและไขมันทรานส์ เช่น  เนยเทียม ของทอด ขนมขบเคี้ยว เบเกอรี่ และขนมอบกรอบ  รวมถึงเลือกน้ำมันดี ไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันรำข้าว  เนื่องจากอาหารไขมันสูงเป็นสาเหตุของโรคอ้วน  ส่งผลให้เกิดภาวะฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่สมดุล การตกไข่ไม่ปกติ จึงทำให้การตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้ยากยิ่งขึ้น

2.เลือกรับประทาน ถั่วและธัญพืช  เพื่อเพิ่มโปรตีนที่ดี รวมถึงธาตุเหล็ก  การรับประทานโปรตีนร่วมกับธาตุเหล็กจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับมดลูก อีกทั้งยังช่วยผลิตไข่ที่มีคุณภาพด้วย

3.รับประทานผักใบเขียว เพื่อเพิ่มโฟเลตและวิตามินบี ช่วยเร่งการตกไข่  ส่งผลให้มีโอกาสในการตั้งครรภ์เพิ่มมากขึ้น 

4.ลดน้ำตาลและแป้งขัดขาว เพื่อความคุมระบบน้ำตาลในเลือด  และลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน

5.ดื่มนมและโยเกิร์ต เพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมเพียงพอและลดความเสี่ยงการเกิดภาวะกระดูกพรุน

6.ลดปริมาณการดื่มชา กาแฟ และน้ำอัดลม ควรเลือกดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอแทน

7.หลีกเลี่ยงหรืองดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเลิกสูบบุหรี่ เนื่องจากทั้งแอลกอฮอล์และบุหรี่ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมาย

วิตามินที่ช่วยบำรุงร่างกาย เสริมความแข็งแรงให้คุณแม่ผู้มีบุตรยาก

นอกจากนี้ ว่าที่คุณแม่ผู้มีบุตรยากควรต้องเสริมด้วยวิตามินอีกด้วย กับ 7 วิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อการตั้งครรภ์ แก้ปัญหามีบุตรยากได้ ดังนี้

– กรดโฟลิก วิตามินที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของผู้ที่ต้องการตั้งครรภ์ แนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่วางแผนตั้งครรภ์ โดยควรรับประทานกรดโฟลิกเพิ่มเฉลี่ยวันละ 400 มิลลิกรัมต่อวัน ล่วงหน้าประมาณ 1-3 เดือน เพื่อช่วยป้องกันภาวะซีดหรือโลหิตจางที่อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อตั้งครรภ์

– วิตามินซี ช่วยลดภาวะเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันโรคหวัด

– สังกะสี ทำให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ไข่ที่ผลิตออกมาจากรังไข่มีคุณภาพ

– วิตามินบี 6 ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในคุณแม่ตั้งครรภ์ได้

– ธาตุเหล็ก ลดภาวะโลหิตจาง ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมสำหรับการมีบุตร

– วิตามินบี 12 มีส่วนในการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และมีส่วนช่วยทางด้านสุขภาพและความรู้สึกทางเพศ

– วิตามินบี 3 เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น

อาหารกระตุ้นการตั้งครรภ์

1.ข้าวไม่ขัดสี

การบำรุงตัวอ่อนทารก ต้องใช้คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวไม่ขัดสี ซึ่งร่างกายใช้เวลาในการย่อยและดูดซึมนานกว่า เมื่อเทียบกับคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว พร้อมให้ประโยชน์ของข้าวไม่ขัดสีแบบจัดเต็ม คือ ความสามารถในการลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง ควบคุมรอบประจำเดือน และให้ความรู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดอาการหิวบ่อยครั้ง

2.ไข่ไก่

ไข่เป็นอาหารบำรุงประจำวัน สำหรับทั้งทารกในครรภ์และรังไข่ เป็นแหล่งโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซม และเสริมสร้างเนื้อเยื่อของร่างกาย อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็น ซึ่งช่วยบำรุงไข่ของผู้หญิง และเตรียมไข่สำหรับการปฏิสนธิ นอกจากนี้ ไข่ยังเต็มไปด้วยกรดอะมิโน ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ วิตามินเอ วิตามินบี 12 วิตามินดี วิตามินอี และโคลีน ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและระบบประสาท ทั้งยังมีซีลีเนียม ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลัง

3.เนื้อปลาทะเล 

ปลาทะเลเป็นแหล่งสารอาหารที่ดีเยี่ยม ในการบำรุงทารกในครรภ์และถุงไข่ เนื่องจากอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ตลอดจนสังกะสี เหล็ก ซีลีเนียม วิตามินซี วิตามินดี และวิตามินบี 12 ช่วยควบคุมฮอร์โมนเพศหญิง เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และเสริมสร้างอวัยวะสืบพันธุ์ นอกจากนี้ ยังกระตุ้นการผลิตไข่ เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำหรับสตรีมีครรภ์

4.ถั่วและธัญพืช

โปรตีนที่ได้จากพืชตระกูลถั่วหลายชนิด เป็นแหล่งอาหารที่มีโปรตีนสูง เหมาะสำหรับทดแทนเนื้อสัตว์ โดยได้รับการสนับสนุนจากผลการวิจัย ที่ระบุว่าผู้หญิงที่บริโภคโปรตีน จากพืชตระกูลถั่ว มีโอกาสตั้งครรภ์สูงกว่าผู้หญิงที่บริโภคโปรตีนจากสัตว์ สำหรับผู้ที่วางแผนตั้งครรภ์ ขอแนะนำให้บริโภคพืชตระกูลถั่วแทนเนื้อสัตว์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

5.พืชผัก

การบริโภคผักใบเขียว จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินอีที่จำเป็น โดยเฉพาะในผักต่าง ๆ เช่น ผักคะน้า ผักโขม และบรอกโคลี ไม่เพียงส่งเสริมการตกไข่ และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่ยังมีเส้นใยอาหารที่เป็นประโยชน์ ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและส่งเสริมความสม่ำเสมอของลำไส้ แนะนำให้รับประทานผักประเภทนี้เป็นพิเศษ เพื่อเตรียมไข่ให้แข็งแรง และลดความเสี่ยงในการแท้งบุตร

6.งาดำ

การบริโภคงาดำเป็นประจำ มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เพียง 3-4 ช้อนชาทุกวัน สามารถช่วยผ่อนคลายร่างกาย บำรุงสมอง และปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับได้ จึงช่วยส่งเสริมการพักผ่อนอย่างเหมาะสม และช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ยังช่วยในการเสริมสร้างรังไข่และมดลูกให้แข็งแรง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิสนธิ  นอกจากนี้ การผสมงาดำลงในอาหารระหว่างตั้งครรภ์ ยังส่งผลดีต่อทารกอีกด้วย

7.อะโวคาโด

อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ ซึ่งช่วยเพิ่มความอิ่มยาวนาน และให้วิตามิน แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ประกอบด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น โพแทสเซียม ลูทีน โฟเลต วิตามินบี และวิตามินอี ช่วยควบคุมความดันโลหิตและบำรุงสายตา การผสมผสานอะโวคาโด เข้ากับอาหารปกติของคุณ สามารถช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนในผู้หญิง และลดความเสี่ยงของปัญหาภาวะเจริญพันธุ์ เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้สำเร็จ

8.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

เบอร์รี่เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่ให้รสชาติเปรี้ยวและหวาน ผสมผสานกันอย่างลงตัว ภายในตระกูลเบอร์รี่มีหลากหลายชนิด  เช่น สตรอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และแบล็กเบอร์รี่ อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีในระดับสูง ส่วนประกอบเหล่านี้ มีบทบาทสำคัญในการปกป้องเซลล์สืบพันธุ์ จากความเสียหายและเพิ่มอัตราการเจริญพันธุ์ในสตรี

บทส่งท้าย

โภชนาการที่เหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ร่างกายมีความสมบูรณ์และแข็งแรง ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับประทานอาหารที่สมดุล ซึ่งครอบคลุมอาหารทั้ง 5 หมู่ และมีสารอาหารที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มโอกาสและช่วยให้คุณแม่ที่มีภาวะการมีบุตรยากร่างกายแข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุด

เครดิตรูปภาพ www.bswhealth.com www.foodnetwork.com