สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้น ต้องใส่ใจในอาหารการกินเป็นพิเศษ เพราะทุกสารอาหารที่เข้าสู่ร่างกายของคุณแม่ไป จะสามารถส่งผ่านให้กับลูกน้อยในครรภ์ได้โดยตรง ดังนั้น คุณแม่จึงควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อป้องกันลูกเกิดอาการแพ้ รวมถึงผักผลไม้ ที่จะเสริมสร้างวิตามินให้กับลูกน้อย ช่วยให้เขาสามารถเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แข็งแรงตั้งแต่ในครรภ์ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องได้รับสารอาหารให้ครบถ้วนโดยเฉพาะ 6 สารอาหารสำคัญที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย
1. โปรตีน
คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องได้รับโปรตีนให้เพียงพอเพื่อเสริมสร้างลูกน้อยให้แข็งแรง โดยแหล่งโปรตีนที่เหมาะสำหรับคนท้องคือ เนื้อหมูไม่ติดมัน ควรเลือกเป็นส่วนของสันในหรือสันนอก เพื่อลดไขมันสะสมโดยควรกินเนื้อหมูครั้งละ 4 ช้อนโต๊ะต่อครั้งก็ถือว่าได้รับโปรตีนเพียงพอสำหรับมื้อนั้นแล้ว เนื้อไก่ไม่ติดมันส่วนของหน้าอกไก่ ตับหมูตับไก่นำมาปรุงอาหารเช่นผัดพริกไทยดำผัดพริกสดจะช่วยบำรุงเลือดและเสริมธาตุเหล็กได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ไข่ยังจัดเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้ง่ายโดยไข่ขาว 1 ฟองมีโปรตีน 6-7 กรัม ซึ่งเป็นโปรตีนดีย่อยง่ายๆช่วยให้คุณแม่ขับถ่ายได้สะดวกอีกด้วยอีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและช่วยให้ลูกน้อยเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง
2. แคลเซียม
ถือเป็นแร่ธาตุสำคัญต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ ในช่วงไตรมาสแรกคุณแม่ควรได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอไปตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ เพราะแคลเซียมจะช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกของทารกให้แข็งแรง ซึ่งแหล่งแคลเซียมที่ดีได้มาจาก นม ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง เต้าหู้ ผักใบเขียว โยเกิร์ต ชีส นม ธัญพืชต่างๆ ผักคะน้าเป็นต้น ซึ่งแม่ท้องควรได้รับแคลเซียมอย่างน้อยวันละ 1,000 มิลลิกรัม การได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอจะช่วยป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง จะช่วยลดโอกาสการเกิดตะคริวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แคลเซียมควรได้รับอย่างเพียงพอทั้งในขณะท้องหลังคลอดและในช่วงให้นมบุตรเพื่อป้องกันความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
3. กรดโฟลิก
เป็นวิตามินที่คุณแม่ท้องต้องได้รับอย่างเพียงพอเพื่อการเสริมสร้างตัวอ่อนที่แข็งแรงโดยกรดโฟลิกเป็นวิตามินสำคัญในการสร้าง DNA ถ้าหากขาดกรดโฟลิกในช่วงตั้งครรภ์ระยะแรก 2-3 สัปดาห์หลังปฏิสนธิอาจส่งผลให้ลูกพิการแต่กำเนิดได้ ดังนั้นคุณหมอจึงแนะนำให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ทานกรดโฟลิกในช่วง 3 เดือนแรกควบคู่ไปกับแหล่งอาหารที่มีกรดโฟลิคสูงเช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ผัก ตับ ถั่วเหลือง ผักใบเขียว บล็อกโคลี่ 1 ถ้วย สามารถให้กรดโฟลิกมากถึง 26 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่ร่างกายต้องการ ผลไม้รสเปรี้ยวโดยเฉพาะส้ม 1 ลูกให้กรดโฟลิกสูงถึง 50 กรัม มะละกอ องุ่น แคนตาลูป สตอเบอรี่เป็นต้น โดยร่างกายจะมีความต้องการกรดโฟลิกสูงถึง 800 ไมโครกรัมต่อวันซึ่งมากกว่าหญิงทั่วไปถึง 400 ไมโครกรัม
4. DHA
เป็นสารสำคัญต่อพัฒนาการทางสมองและสายตาของทารก คุณแม่จึงควรเลือกทานอาหารที่มี DHA สูงเช่น ปลาทะเล ปลาทู ปลาทูน่า ปลาดุก เป็นต้นและควรกินต่อเนื่องไปจนถึงช่วงให้นมลูก เพราะ DHA สามารถส่งผ่านน้ำนมแม่ไปยังลูกได้เช่นกัน
5. ธาตุเหล็ก
เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์มาก เพราะร่างกายจะต้องสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มมากขึ้น เพื่อใช้ในการลำเลียงออกซิเจนให้กับลูกน้อยในครรภ์ โดยธาตุเหล็กนั้นมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจาง คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับประมาณ 40 มิลลิกรัมต่อวัน ถึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย พบมากใน เนื้อสัตว์ ตับ ไข่ เป็นต้น
6. ไอโอดีน
เป็นสารอาหารที่สำคัญมีหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตและพัฒนาการสมองของลูกน้อยในครรภ์ โดยกรมอนามัยแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับไอโอดีน 250 mcg ต่อวัน ถ้าหากร่างกายของคุณแม่ได้รับไอโอดีนไม่เพียงพออาจทำให้เกิดโรคคอพอกหรือส่งผลต่อพัฒนาการทั้งทางร่างกายและทางสมองของทารกได้ แหล่งไอโอดีนที่พบได้มากเช่น อาหารทะเล เกลือเสริมไอโอดีนเป็นต้น
จะเห็นได้ว่า สารอาหารเหล่านี้ล้วนแล้วสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์อย่างมาก ดังนั้น คุณแม่ สามารถบำรุงลูกน้อยให้มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์เลย ซึ่งสามารถทำได้ง่ายโดยเริ่มจากอาหารการกิน ซึ่งสารอาหารทั้ง 6 ชนิดที่เรานำมาฝากกันในวันนี้คุณแม่ต้องได้รับอย่างเพียงพอ เพื่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยที่มีคุณภาพ
Credit สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ