บทความนี้ขอแนะนำ “ชุดคลุมท้อง เลือกยังไงให้เหมาะกับสรีระที่เปลี่ยนแปลงของคุณแม่ตั้งครรภ์” แม่ท้องกังวลเรื่องน้ำหนัก อาจมีน้ำหนักเกินอยู่แล้ว จึงกังวลว่าควรจะแต่งตัวอย่างไร ควรเลือกซื้อชุดคลุมท้อง แบบไหน จึงจะสามารถตอบโจทย์เรื่องขนาดตัวได้ จะมีวิธีเลือกชุดคลุมท้องแบบไหนกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย
ชุดคลุมท้อง คืออะไร
“ชุดคลุมท้อง” เรียกได้ว่าเป็นเครื่องแต่งกายที่สำคัญสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์มาก ๆ เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณแม่ไม่อึดอัดตรงช่วงท้องแล้ว ยังช่วยให้ลูกในท้องไม่ได้รับอันตรายจากการสวมอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชุดกระโปรงยาวคลุมเข่า เนื้อผ้าระบายได้ดี เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ไม่ชอบความอึดอัดรัดแน่น ซึ่งปัจจุบันก็มีชุดคลุมท้องให้เลือกมากมายหลายแบบทีเดียว
ควรใส่ชุดคลุมท้องตอนกี่เดือน
เมื่อคุณแม่ทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ก็มักจะมีความตื่นเต้น และเตรียมหาชุดหรือเสื้อผ้าคลุมท้องเพื่อรองรับขนาดของสรีระที่กำลังขยายขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลายคนรีบหาซื้อตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำให้เลือกขนาดเผื่อได้ยาก เพราะคุณจะไม่ทราบเลยว่าการตั้งครรภ์ในช่วงปลายร่างกายของคุณจะเปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใด สำหรับอายุครรภ์ที่เหมาะกับการสวมใส่ชุดคลุมท้อง ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอายุครรภ์ของคุณแม่กันก่อน ซึ่งมีทั้งหมด 9 เดือนด้วยกัน ถูกแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงท้องอ่อน 1-3 เดือนแรก ท้องระยะกลาง 4-6 เดือนและช่วงท้องแก่ 7-9 เดือน
ในช่วงท้องอ่อนเป็นช่วงที่รูปร่างคุณแม่ยังไม่เปลี่ยนมากนัก ดังนั้น ชุดคลุมท้องอาจยังไม่จำเป็น แต่จะถูกใช้ในช่วง 4-9 เดือนหรือช่วงท้องระยะกลางและท้องแก่ใกล้คลอด โดยในช่วงท้องระยะกลางถ้าหากยังไม่อยากใช้ชุดคลุมท้องก็อาจเลือกเสื้อผ้าตัวใหญ่แทน แต่ให้ระวังช่วงล่างเป็นหลัก หลีกเลี่ยงการใช้กางเกงรัดหน้าท้องแต่ให้รัดใต้ท้องแทน แต่ถ้าหากท้องเริ่มใหญ่มากในช่วงปลายของท้องระยะกลางไปจนถึงช่วงท้องแก่ ก็อาจจำเป็นต้องใช้ชุดคลุมท้องแบบจำเพาะเจาะจง
ชุดคลุมท้องที่เหมาะสำหรับแม่ท้องในแต่ละช่วง
– ชุดคลุมท้องในช่วงไตรมาสที่ 1 (1-3 เดือนแรก)
ชุดคลุมท้องของการตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสที่ 1 ช่วงนี้เป็นช่วงของการตั้งครรภ์อ่อน ๆ ร่างกายคุณแม่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปจากเดิมเท่าไหร่นัก คุณแม่สามารถเลือกใส่ชุดที่ใส่อยู่เป็นประจำได้ แต่ไม่ควรใส่ชุดที่รัดแน่นจนเกินไป เพราะอาจจะเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ และในไตรมาสนี้ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแก่ทารกในครรภ์ ดังนั้นคุณแม่ควรเลือกกางเกงคนท้องที่มียางยืด สามารถรองรับขนาดของหน้าท้องได้ ถึงจะดีที่สุด
– ชุดคลุมท้องในช่วงไตรมาสที่ 2 (4-6 เดือน)
ชุดคลุมท้องในช่วงของไตรมาสที่ 2 ในช่วงนี้ครรภ์ของคุณแม่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิน จนเห็นได้ชัด ดังนั้นชุดที่เหมาะสำหรับแม่ท้องในช่วงนี้คือ กางเกงหรือกระโปรงที่มีขอบยางยืดที่สามารถรองรับขนาดของหน้าท้อง และใต้หน้าท้องของคุณแม่ได้ ในช่วงนี้ชุดเดิม ๆ ของคุณแม่บางชุดอาจจะใส่ไม่ได้แล้ว และไม่ควรฝืนที่จะใส่อีก เพราะขนาดตัวหน้าท้องเริ่มมีการขยายมากขึ้น อาจทำให้เกิดอันตรายกับทารกในครรภ์
– ชุดคลุมท้องในช่วงไตรมาสที่ 3 (7-9 เดือน)
ไตรมาสสุดท้ายแล้วของคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่นั่นก็หมายความว่าหน้าท้องของคุณแม่ขนาดใหญ่เต็มที่ และรูปร่างก็มีการขยายตามมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แขน ขา หน้าท้อง สะโพก หน้าอก ทำให้คุณแม่จะต้องแบกรับน้ำหนักมาก ๆ ดังนั้นชุดคลุมที่เหมาะสำหรับการตั้งครรภ์ในไตรมาสนี้คือ เสื้อที่มีการจับจีบใต้หน้าอก เพื่อป้องกันไม่ให้คุณแม่รู้สึกอึดอัดเวลาใส่ และยังช่วยอำพรางรูปร่างไม่ให้อ้วนอีกด้วย
วิธีเลือกชุดคลุมท้องสำหรับแม่ท้อง
1.ชุดคลุมท้องเนื้อผ้าต้องนุ่มสวมสบาย
อย่างแรกที่คุณแม่ต้องให้ความสำคัญเลย คือ “เนื้อผ้า” เพราะลำพังการตั้งครรภ์ต้องแบกเจ้าตัวน้อยไปไหนมาไหนด้วยก็ทำให้รู้สึกอึดอัดมากพอแล้ว ถ้าใส่ชุดคลุมท้องที่อึด ต้องแย่ไปกว่าเดิมแน่ ๆ ดังนั้น ชุดคลุมท้องที่คุณแม่นำมาสวมควรจะมีเนื้อผ้าที่นุ่ม บางเบา ระบายอาศได้ดี ไม่อึดอัด อย่างคอตตอน ซาติน ผ้าฝ้าย และเรยอน
2.ขนาดชุดคลุมท้องต้องเหมาะสม
ขนาดของชุดคลุมท้องต้องเหมาะสม ซึ่งเหมาะสมไม่ได้หมายถึงให้มีขนาดพอดีตัวนะ แต่ต้องมีขนาดใหญ่กว่าไซส์จริงราว ๆ 3-4 นิ้ว เพื่อรองรับขนาดตัวที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ เดือนในช่วงที่คุณท้อง
3.เลือกชุดคลุมท้องตามกาลเทศะของสถานที่
กาลเทศะนั้นสำคัญมาก ๆ ดังนั้น ถ้าจะเลือกชุดคลุมท้องสักชุด ว่าควรมีดีไซน์อย่างไร ต้องเรียบร้อยขนาดไหน ควรมองจากสถานที่ที่จะนำไปใช้งานเป็นอันดับแรกเลย ว่าใช้อยู่บ้าน ออกไปข้างนอก หรือเข้าออฟฟิศ แนะนำว่าให้หาชุดคลุมท้องที่มีความกลาง ๆ ที่สามารถสวมใส่ไปได้ทุกที่ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเลือกซื้อหลาย ๆ แบบ และให้เลือกแบบที่ใส่ได้นาน ๆ เพราะหลังคลอดแล้ว คุณแม่ก็ยังมีพุงอยู่นะ ก็ยังคงต้องสวมต่อไปอีกระยะ
บทส่งท้าย
การเลือกชุดคลุมท้องสิ่งที่คำนึงถึงอย่างมากคือ ความสะดวกสบายในการสวมใส่ รวมถึงการใช้งานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณแม่ทั้งก่อนคลอดและหลังคลอดอีกด้วย และอีกอย่างก็เลือกที่เหมาะสมกับอายุครรภ์ และราคาต้องสบายกระเป๋าด้วยนะ
เครดิตรูปภาพ www.mamarella.com www.motherandbaby.com