คุณแม่ตั้งครรภ์ ควรทานอาหารประเภทไหน ถึงจะดีต่อทั้งคุณแม่และลูกในครรภ์

บทความนี้ขอแนะนำ “คุณแม่ตั้งครรภ์ ควรทานอาหารประเภทไหน ถึงจะดีต่อทั้งคุณแม่และลูกในครรภ์” ช่วงเวลาของการตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงจิตใจ และอารมณ์ของตัวคุณแม่เองด้วย ฉะนั้นเรื่องอาหารการกินจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะอาหารคือสิ่งสำคัญที่จะให้ประโยชน์ต่อร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์อย่างมาก  ดังนั้นอาหารประเภทไหน ควรทานหรือไม่ควรทาน บทความนี้มีมาฝากกัน

Pregnancy diet: Under-eating | Parenthub

อาหารต่อคนท้องสำคัญแค่ไหน

อาหารสำหรับคนท้อง เป็นอีกเรื่องสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรใส่ใจ เพราะสารอาหารที่คุณแม่ได้รับ จะเป็นสิ่งเดียวกับที่ลูกจะได้รับไปด้วย คุณแม่ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารและวิตามินครบถ้วน เพื่อให้เพียงพอต่อการเจริญเติบโต และเสริมสร้างพัฒนาการทุกด้านของทารกในครรภ์ 

Important Nutrients for Pregnant Women

อาหารคนท้อง ที่แม่ท้องควรรับประทาน

นอกจากการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว สารอาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรให้ความใส่ใจ และเลือกกินมากเป็นพิเศษ มีดังต่อไปนี้

1.อาหารที่มีโปรตีนสูง

มีมากในเนื้อสัตว์ ถั่วเมล็ดแห้ง ผลิตภัณฑ์จากนม และไข่ เป็นหนึ่งในสารอาหารที่สำคัญเพราะถ้าคุณแม่ได้รับพลังงานไม่พอ ร่างกายจะดึงโปรตีนมาใช้แทน หากคุณแม่ได้รับโปรตีนไม่เพียงพออาจทำให้การพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ไม่สมบูรณ์ได้

2.อาหารที่มี DHA สูง

ดีเอชเอ (Docosahexaenoic Acid) คือ กรดไขมันโอเมก้า 3 ชนิดหนึ่ง ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาทางสมอง ดวงตา และระบบประสาท นอกจากนี้ยังอาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์บางอย่าง เช่น การคลอดก่อนกำหนด หรือโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้อีกด้วย อาหารที่มีดีเอชเอสูง เช่น ปลาทะเล อโวคาโด ไข่แดง เป็นต้น คุณแม่ควรกินอย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง หรือดื่มนมสูตรเสริมดีเอชเอก็ดีเช่นกัน

3. อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง

มักพบในอาหารจำพวกผักใบเขียว เนื้อหมู เนื้อวัว ถั่ว และธัญพืช มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงให้เกิดการหมุนเวียนภายในร่างกายของคุณแม่และเกิดการส่งผ่านสู่ทารกในครรภ์ หากคุณแม่มีธาตุเหล็กน้อยอาจส่งผลต่อการพัฒนาสมองของลูกน้อย 
Pregnancy Diet: What To Eat When You're Pregnant – Neeva Baby

4.อาหารที่มีแคลเซียมสูง

สามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์จากนม และผักใบเขียว คุณแม่ควรรับแคลเซียมให้เพียงพอต่อร่างกาย เพราะลูกน้อยมักจะดึงเอาแคลเซียมจากแม่เพื่อไปเสริมสร้างพัฒนาการของกระดูกและฟันของตนเอง หากตัวคุณแม่ขาดแคลเซียมจะทำให้เกิดตะคริวได้ง่าย

5.อาหารที่มีโฟเลตสูง

พบมากในผักใบเขียว เช่น ถั่วชนิดต่าง ๆ ขนมปัง ธัญพืช ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาของระบบประสาทและสมองของทารกในครรภ์ ทั้งยังช่วยลดความพิการทางสมองในทารกอีกด้วย

6.อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต

การกินคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่เหมาะสม อาจช่วยลดอาการแพ้ท้องในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากเป็นสารอาหารที่ย่อยง่าย และให้พลังงานสูง ช่วยลดอาการคลื่นไส้ อย่างไรก็ตาม คนท้องไม่ควรกินคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป เพราะอาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคอ้วนระหว่างตั้งครรภ์ได้

7.อาหารที่มีไอโอดีนสูง

Diet During Pregnancy – What to Eat and What to Avoid

หากคุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอ อาจทำให้ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายผิดปกติ และนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคไทรอยด์ระหว่างตั้งครรภ์ได้  ไอโอดีนอยู่ในจำพวกอาหารทะเลทุกชนิด ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม กระเทียม หรืองา

8.อาหารที่มีไฟเบอร์สูง

ไฟเบอร์ เป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญที่ไม่ว่าจะเป็นแม่ก่อนคลอด แม่อุ้มท้อง แม่หลังคลอด หรือแม่ให้นมลูกก็ควรได้รับอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างตั้งครรภ์ ควรกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเป็นประจำ เพราะไฟเบอร์จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ไฟเบอร์ยังช่วยลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูงและอาจช่วยป้องกันภาวะครรภ์เป็นพิษได้อีกด้วย โดยสามารถได้ไฟเบอร์จากอาหารจำพวกผักและผลไม้ต่าง ๆ

9.อาหารที่มีโอเมก้า 3

โอเมก้า 3 เป็นสารอาหารสำคัญที่ควรได้รับอย่างเพียงพอ สำหรับแม่ตั้งครรภ์ เพราะโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยเสริมสร้างและดูแลสุขภาพหัวใจ ระบบภูมิคุ้มกัน สมอง และดวงตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงที่สมองของทารกมีการพัฒนาและเจริญเติบโตสูงสุด มากไปกว่านั้น การได้รับโอเมก้า 3 อย่างเพียงพอขณะตั้งครรภ์ ยังอาจช่วยต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ควบคุมอารมณ์แปรปรวนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ และลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักแรกเกิดต่ำอีกด้วย

10.อาหารที่มีโคลีนอย่างเพียงพอ

โคลีน พบมากในอาหารจำพวกไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน แซลมอน ไก่ บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก เป็นต้น จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสารอาหารสำคัญที่คุณแม่ควรได้รับจากการกินอาหารในแต่ละวัน เพราะโคลีนมีส่วนสำคัญในการบำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ การกินอาหารที่ให้สารโคลีนอย่างเพียงพอ หรือประมาณ 450 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับแม่ตั้งครรภ์ จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะความบกพร่องที่ระบบท่อประสาทของทารกในครรภ์ได้

11.วิตามินซี 

มักอยู่ในผักและผลไม้สด โดยเฉพาะผลไม้รสเปรี้ยว มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทานทั้งของคุณแม่และลูกน้อยในท้อง รวมถึงการดูดซึมธาตุเหล็กอีกด้วย

12.วิตามินดี 

พบมากในนม และผลิตภัณฑ์จากนม แต่ร่างกายของคุณแม่สามารถสร้างเองได้ เพียงแค่เดินกลางแสงแดดยามเช้าวันละ 30 นาที ก็เพียงพอต่อร่างกาย เพื่อให้ร่างกายนำไปส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม

บทส่งท้าย

ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ จะสูญเสียแคลเซียม และพลังงานอย่างมาก ฉะนั้นจะต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ และมีคุณค่าที่ช่วยส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรง ทั้งคุณแม่และคุณลูก ฉะนั้นจะเลือกทานอาหารแบบไหนต้องคำนึงดี ๆ เพราะถ้าคุณแม่ทานเข้าไปลูกก็จะได้รับสารอาหารนั้นด้วย ฉะนั้นควรควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และต้องครบ 5 หมู่ด้วย

เครดิตรูปภาพ www.parenthub.com.au theasianparent.com www.neevababy.com www.lalpathlabs.com

บทความ แม่และเด็ก

อาหารเด็ก/นม/ของเล่นเด็ก/คู่มือคุณแม่

บทความล่าสุด
Tag
ขวดนม Pigeon (1) ของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก (31) คอกกั้นเด็ก (1) คาร์ซีท (1) คู่มือสำหรับคุณแม่ (131) จุกนม (1) ชุดคลุมท้อง (1) ชุดว่ายน้ำเด็ก (1) ตู้แช่นม (1) ทิชชู่เปียก (1) ที่ดูดน้ำมูก (1) นมกล่อง UHT (1) นมผง (1) น้ำยาซักผ้าเด็ก (1) น้ำยาล้างขวดนม (1) น้ำเกลือล้างจมูก (2) ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก (19) ฝากครรภ์ (1) รถเข็นเด็ก (1) รถไฟฟ้าเด็ก (1) รวมเรื่อง นม สำหรับเด็ก (1) สารพันปัญหาแม่และเด็ก (142) สารพันปัญหา แม่และเด็ก (36) อาหารสำหรับเด็ก (21) อาหารเสริมสำหรับเด็ก (3) อุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับเด็ก (10) อุปกรณ์เสริมสำหรับเด็ก (72) เครื่องนึ่งขวดนม (1) เครื่องปั๊มนม (1) เครื่องอุ่นนม (1) เคล็ดลับเลี้ยงลูก (2) เปล (1) เปลไกวไฟฟ้า (1) เสื้อผ้าเด็ก (5) แพมเพิส (1) โลชั่นเด็ก (1)