บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง คนท้องกินสับปะรดได้ไหม คนท้องห้ามกินสับปะรดเพราะอาจเสี่ยงแท้งจริงหรือไม่ คนท้องกินสับปะรดได้ไหม กินสับปะรดตอนท้องแล้วจะแท้งจริงหรือ อาจจะมีคุณแม่หลายคนที่ยังไม่รู้ว่าในช่วงเวลาที่เราตั้งท้องนั้นเราสามารถกินสับปะรดได้ไหม หรือถ้าเราเผลอกินเข้าไป สิ่งเหล่านี้จะส่งผลอันตรายต่อลูกในท้องของเราหรือเปล่า บทความนี้มีคำตอบมาฝากกัน
สับปะรด คือ
สับปะรดจัดเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่ง โดยประโยชน์ของสับปะรดนั้นมีอยู่หลากหลาย เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ จำนวนมาก ซึ่งได้แก่ คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี
วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 กรดโฟลิก ธาตุแคลเซียม
ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุแมงกานีส ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี เป็นต้น
ซึ่งเหล่านี้ถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพเราเป็นอย่างมาก และสรรพคุณสับปะรดทางสมุนไพรนั้น ก็ช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายเช่นกัน เช่น โรคบิด โรคนิ่ว ช่วยบรรเทาอาการแผลเป็นหนอง ขับปัสสาวะ เป็นต้น
คนท้องกินสับปะรดได้ไหม กินแล้วเสี่ยงแท้งจริงหรือเปล่า
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าสับปะรดนั้นเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ ส่วนความเชื่อที่ว่าคุณแม่ตั้งครรภ์รับประทานสับปะรดมาก ๆ จะเสี่ยงกับการแท้งลูกนั้นไม่เป็นความจริง ในสับปะรดมีสารโบรมีเลน (bromelain) เป็นเอนไซม์ที่ช่วยย่อยอาหาร ที่บางครั้งอาจทำให้ลำไส้บีบตัวรุ่นแรงหรือเกิดอาการท้องเสียได้ ซึ่งคุณแม่บางคนอาจจะเข้าใจผิดได้ว่าอาการปวดนั้น เกิดจากการที่มดลูกบีบรัดตัว และเกิดการแท้งลูกได้ แท้ที่จริงแล้ว สับปะรดนั้นไม่ได้มีผลต่อมดลูกหรือการตั้งครรภ์เลย
คนท้องกินสับปะรดได้ไหม สับปะรดมีประโยชน์อย่างไร
สำหรับคุณแม่คนไหนที่กำลังตั้งท้องอยู่ ต้องบอกว่าผลไม้อย่างสับปะรดเป็นผลไม้ที่ดีมีประโยชน์ คุณแม่ก็อาจจะสามารถกินได้ แต่ในขณะเดียวกันเราก็อาจจะต้องควบคุมการกิน อย่างที่รู้กันดีว่า สับปะรดเป็นผลไม้ที่มากด้วยคุณค่าทางโภชนาการและเต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหารสำคัญหลากหลายชนิดมาก ๆ เพราะฉะนั้นผลไม้ชนิดนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และส่งผลดีต่อร่างกายเราได้ไม่น้อยเลยจริง ๆ ส่วนจะมีสารอาหารอะไรกันบ้างนั้น มาดูกัน
1. วิตามินบี 6
สำหรับใครที่มักกินสับปะรดเป็นประจำทุกวันอยู่แล้วต้องบอกว่าสิ่งที่เรากินเป็นประจำทุกวันนั้น มีวิตามินบี 6 เป็นส่วนประกอบด้วยนะ ซึ่งวิตามินตัวนี้จะช่วยในเรื่องของระบบหมุนเวียนของเลือดได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญไปกว่านั้นยังช่วยป้องกันโรคโลหิตจางให้เราอีกด้วย หรือคุณแม่คนไหนที่กำลังแพ้ท้อง ก็อาจจะกินสับปะรดเพื่อช่วยลดอาการแพ้ท้องได้เช่นกัน
2. วิตามินบี 1
วิตามินชนิดนี้จะช่วยในเรื่องของระบบประสาทและหัวใจ ซึ่งถ้าใครกินสับปะรดเข้าไป สิ่งนี้ก็จะเข้าไปช่วยกระตุ้นให้ระบบประสาทและหัวใจทำได้ดีขึ้น แถมยังช่วยส่งเสริมทำให้ร่างกายเราแข็งแรงมากขึ้น แต่การกินสับปะรดในทุกครั้งเราก็อาจจะต้องอยู่ในความดูแลของคุณหมอด้วย เพราะไม่งั้นสิ่งที่มีประโยชน์ก็อาจจะส่งผลไม่ดีต่อร่างกายได้
3. วิตามินซี
ในสับปะรดนอกจากจะมีวิตามินที่ดีชนิดต่าง ๆ แล้ว ยังมีวิตามินซีที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกายเราได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือมักจะเป็นหวัดอยู่
บ่อย ๆ เราก็อาจจะกินสับปะรดเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เราเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ เชื่อเลยว่าร่างกายของเราจะต้องแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน
4. ทองแดง
แร่ธาตุสำคัญชนิดนี้จะช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตาและเส้นผมให้กับเราได้ดีมาก ๆ
รวมถึงช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ดี หากใครที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อยู่ เราก็อาจจะกินผลไม้อย่างสับปะรดแทนได้ หรือถ้าใครที่อยากจะสบายใจมากขึ้น เราก็อาจจะขอคำแนะนำจากคุณหมอก่อนกินได้เลย
5. แมงกานีส
มาต่อกันอีกข้อ ต้องบอกว่าสารอาหารชนิดนี้ เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ส่งผลดีต่อร่างกายของเราไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะในเรื่องของกระดูก เพราะเมื่อไหร่ที่ร่างกายของเราได้รับแร่ธาตุตัวนี้เข้าไป สิ่งนี้ก็จะเข้าไปด้วยส่งเสริมทำให้กระดูกของเราแข็งแรงมากขึ้นนั่นเอง
สิ่งที่ควรรับประทาน
– สับปะรดสด
– สับปะรดปั่นไม่ใส่น้ำตาล
– สับปะรดที่เป็นส่วนผสมในอาหาร เช่น แกงสับปะรด, พิซซ่าฮาวายเอี้ยน บาร์บีคิว
สิ่งที่ควรรับประทานอย่างระมัดระวัง
– น้ำสับปะรด เนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลสูง
– สับปะรดพร้อมทานจากรถเข็นริมถนน เนื่องจากอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนได้
– สับปะรดที่ไม่ได้ล้าง เพราะอาจมีสารกำจัดศัตรูพืช เช่น พาราควอทปนเปื้อน ซึ่งเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์
– การรับประทานสับปะรดจำนวนมากอาจมีผลกระทบทำให้ไม่สบายตัว เนื่องจากกรดในสับปะรดอาจทำให้คุณแม่มีอาการของกรดไหลย้อนได้
บทส่งท้าย
ความเชื่อที่ว่าการรับประทานสับปะรดจะทำให้แท้งลูกนั้น ที่จริงแล้วมาจากสารประกอบที่เจือปนในสับปะรด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแกนของสับปะรดที่เรียกว่าโบรมีเลน ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่สามารถย่อยสลายโปรตีนในร่างกาย และอาจทำให้เกิดอาการเลือดออกผิดปกติได้ แต่ที่จริงแล้วปริมาณของโบรมีเลนในผลไม้นั้นมีน้อยมาก และไม่น่าจะทำให้เกิดอันตรายได้ การรับประทานเนื้อสับปะรดสดในปริมาณทั่วไปจึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ได้
เครดิตรูปภาพ
https://www.vinmec.com https://www.purplle.com https://www.verywellfamily.com