คอกกั้นเด็ก จำเป็นต้องมีไหม สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้างคอกกั้นเด็ก

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง คอกกั้นเด็ก จำเป็นต้องมีไหม สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง เมื่อลูกน้อยเริ่มมีพัฒนาการที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพลิกตัว การเริ่มฝึกคลาน การเริ่มฝึกเกาะยืน ทำให้โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้มากขึ้น คุณพ่อคุณแม่อาจต้องคอยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด การมีพื้นที่ที่ปลอดภัยให้ลูกน้อย จึงเป็นเรื่องสำคัญ คอกกั้นกลายเป็นสิ่งจำเป็นหนึ่ง ที่แทบทุกบ้านอาจจะต้องพิจารณามีไว้ติดบ้าน

คอกกั้นเด็กเป็นของจำเป็นหรือไม่

หากคุณกำลังเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่และมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่ต้องทำไม่ว่าจะเป็นการทำงานบ้าน ซักผ้า กวาดบ้าน ล้างจาน ล้างขวดนม หรือคุณพ่อคุณแม่บางคนก็ทำงานที่บ้านไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย เราขอแนะนำเลยว่าคอกกั้นเด็กช่วยคุณได้ เพราะการมีคอกกั้นเด็กทำให้คุณไม่ต้องอุ้มลูกน้อยไปไหนมาไหนเพื่อให้พวกเขาอยู่ในสายตาตลอดเวลา และยังช่วยลดความเสี่ยงข้อมืออักเสบจากการอุ้มลูกน้อยเป็นเวลานานได้อีกด้วย ยิ่งเด็กที่อยู่ในช่วงตั้งไข่ ช่วงหัดคลาน และช่วงฝึกเดินอาจเกิดอันตรายได้ง่ายแม้คลาดสายตาเพียงครู่เดียว 

เพราะแม้อยู่ในบ้านของตัวเองลูกน้อยก็ยังอาจเสี่ยงอันตรายได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะจากห้องน้ำ ปลั๊กไฟ บันได เหลี่ยมโต๊ะ หรือซอกมุมต่าง ๆ ภายในบ้าน คอกกั้นเด็กจึงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ลูกน้อยอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสม อยู่ในสายตาของผู้ปกครองตลอดเวลา ดังนั้นการให้ลูกน้อยได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยที่เราจัดไว้ให้ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าแน่นอน

ประโยชน์ของ คอกกั้นเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

1. สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับลูกน้อย

เพราะคอกกั้นเป็นอุปกรณ์ที่จะกำหนดขอบเขตพื้นที่การเคลื่อนไหวของลูกน้อยให้อยู่ในบริเวณที่ปลอดภัยจากอันตรายภายในบ้านซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อหากคลาดสายตาของผู้ปกครอง

2. ให้คุณพ่อคุณแม่ได้มีเวลาส่วนตัว หรือเวลาพักมากขึ้น

หากเลือกคอกกั้นที่มีโครงสร้างเหมาะสม ลูกจะไม่สามารถปีนป่ายออกมาข้างนอกคอกได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ระหว่างนี้ได้เลย เช่น ทำงาน ชงนม ทำอาหาร ทำความสะอาดบ้าน โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกน้อยอีกต่อไป

3. ช่วยให้ลูกฝึกการทรงตัว

เดิน คลาน ยืน ได้อย่างอิสระ เด็กทารกช่วง 9-12 เดือนแรก กำลังอยู่ในวัยหัดเดิน สามารถเกาะขอบคอกกั้นในการฝึกเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าทารกที่ไม่ใช้คอกกั้น เป็นการฝึกการทรงตัวและการบังคับกล้ามเนื้อให้แข็งแรง หากล้มก็ไม่เจ็บเพราะมีเบาะของคอกรองรับอยู่นั่นเอง

4. จัดสรรพื้นที่ได้อย่างเป็นระเบียบ

คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดสรรพื้นที่ให้ลูกน้อยได้ใช้เวลาอยู่กับเหล่าของเล่นชิ้นโปรดของพวกเค้าภายในคอกได้ ทั้งยังเป็นพื้นที่เก็บของเล่น ไม่ให้กระจัดกระจายออกมาข้างนอก ไม่ทำให้บ้านรก

5. เสริมสร้างพัฒนาการอื่น ๆ ให้กับลูกน้อย

การเลือกคอกกั้นที่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างได้หลากหลายจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการหลากหลายด้าน ให้ลูกน้อยได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ในคอกกั้น เช่น ปรับเป็นที่นอน แผ่นรองคลาน รวมถึงเป็นพื้นที่ในการเล่นสนุกและใช้เวลาร่วมกับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย

คอกกั้นเด็ก ควรต้องเลือกแบบไหน

– เลือกคอกกั้นที่แข็งแรง รั้วของคอกกั้น ควรต้องแข็งแรงเพื่อป้องกันการหักหรือพัง กรณีที่ลูกน้อยเกาะยืน เขย่า หรือพยายามปีน

– เลือกคอกกั้นเด็กที่มีความสูงเหมาะสม คอกกั้นควรมีความสูงที่เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก ไม่สูงเกินไป และไม่เตี้ยเกินไป 

– เลือกกั้นเด็กที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างได้หลากหลาย สะดวกในการติดตั้ง สะดวกในการพับเก็บ และสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย

– วัสดุที่ใช้ต้องปลอดภัย ไม่มีสารพิษ ปลอดสารอันตราย เพราะเด็กในวัย 10 เดือนขึ้นไป เริ่มที่อยากจะรู้ อยากจะสัมผัส และมักชอบหยิบสิ่งของรอบตัวเข้าปากอยู่แล้ว ดังนั้นหากปลอดสารอันตราย จะไม่ระคายเคืองผิว และจะไม่ส่งผลอันตรายต่อลูกน้อย 

– รั้วไม่มีขอบแหลมคม เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดกับลูกน้อย

– เบาะหนานุ่ม ถ้ามีเบาะที่หนานุ่มก็จะสามารถช่วยรองรับแรงกระแทกได้อย่างดี ในกรณีที่ลูกน้อยล้มลง จะไม่ได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายใด ๆ

– เลือกคอกกั้นเด็กที่มีประตูเข้า-ออกสะดวก ประตูคอกกั้นจะช่วยให้คุณแม่แรกคลอด สามารถเข้า-ออกได้สะดวก โดยที่ไม่ต้องยกขาสูง รวมถึงผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน

– ทำความสะอาดง่าย สามารถเช็ดทำความสะอาดรอบเปื้อน คราบน้ำต่าง ๆ ได้ง่าย แห้งเร็ว

ข้ออื่นๆ ที่อาจพิจารณา

– คอกกั้นต้องมีการระบายอากาศได้ดี 

– สามารถมองเห็นลูกจากภายนอกได้ง่าย

– ขนาดเหมาะสมกับพื้นที่บ้าน

– รูปแบบสวยงามเข้ากับบ้าน 

เลือกคอกกั้นเด็กอย่างไรให้เหมาะกับลูกน้อยและเหมาะกับบ้านของคุณ

– การเลือกคอกกั้นสำหรับเด็กวัย 0-3 เดือนไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่มากนักเพราะเด็กยังไม่สามารถคลานหรือเดินไปไหนได้

– สำหรับเด็กวัย 4-6 เดือนเป็นวัยที่กำลังสนใจสิ่งเร้ารอบตัว ลองหาของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กวัยนี้มาไว้ในคอกกั้นเด็กเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการได้

– วัย 7-9 เดือนเป็นวัยเริ่มฝึกคลาน ในวัยนี้หากบ้านไหนที่ใช้คอกขนาดเล็กอาจต้องเปลี่ยนไปใช้คอกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อไม่ให้ปิดกั้นพัฒนาการในการฝึกคลานของลูกน้อย

– วัย 10 เดือนขึ้นไป คือ เด็กจะเริ่มมีการฝึกยืน ฝึกเดิน ไปจนถึงการทำกิจกรรมต่าง ๆ นอกจากคอกจะต้องมีขนาดใหญ่แล้ว ตัวคอกต้องมีการบุนวม และการทรงตัวที่ดีเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายกับเด็ก ๆ ในขณะที่เกาะขอบรั้วเพื่อทำการฝึกยืนและฝึกเดินอีกด้วย นอกจากนี้แล้วตัวคอกต้องมีรูแคบเพื่อป้องกันหัวเด็กเข้าไปติด และตัวล็อกแข็งแรงที่เด็กไม่สามารถเปิดได้เองอีกด้วย

บทส่งท้าย

คุณพ่อคุณแม่จะเห็นว่า คอกกั้นเองก็มีประโยชน์ต่อลูกน้อยของเราไม่น้อย สำหรับหมอเอง คอกกั้นกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่สามารถสร้างความสบายใจเวลาที่ต้องทิ้งหนูน้อยไว้คนเดียว และถือว่าเป็นพื้นที่กิจกรรมที่สร้างความสุขหนึ่งให้ครอบครัว

เครดิตรูปภาพ momlifehappylife.com www.kidsturncentral.com graziadaily.co.uk nicemememk.best