ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเลี้ยงสัตว์ในยุคสมัยนี้นั้นมีผลต่อสภาพจิตใจของเด็กๆเป็นอย่างมาก การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงภายในบ้านมีประโยชน์จะช่วย บ่มเพาะให้ลูกน้อยมีนิสัยอ่อนโยน มีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้นและมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี แต่การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของสิ่งมีชีวิตนั้นๆให้ดีที่สุด ซึ่งก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะอนุญาตให้ลูกนั้นเลี้ยงสัตว์ได้ จะต้องประเมินความพร้อมของลูกด้วย ทั้งความพร้อมทางด้านวุฒิภาวะ และความพร้อมในด้านของสุขภาพร่างกายซึ่งมีผลสำคัญต่อพัฒนาการ และการเจริญเติบโตของลูกด้วยเช่นกัน วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับในการเตรียมความพร้อม เมื่อลูกอยากเลี้ยงสัตว์มาฝากกัน จะ มีรายละเอียดอะไรบ้างนั้นติดตามกันเลย
1. ความพร้อมในเรื่องของสุขภาพ
เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องให้ความสำคัญ ก่อนที่เราจะเลี้ยงสัตว์และสุขภาพของคนในครอบครัวต้องเป็นอันดับ 1 ทางสุขภาพของลูกน้อยและสุขภาพของผู้สูงอายุภายในบ้าน หากมีสมาชิกภายในบ้านแพ้ขนสัตว์เด็กมีอาการหวาดกลัวต่อสัตว์บางชนิดแล้วนั้นมันจะส่งผลกระทบ ตามนั้นก่อนจะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ควรจะเช็คความพร้อมตรงส่วนนี้เป็นอันดับแรก
2. ความพร้อมในเรื่องของพื้นที่
เพราะสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดจะใช้พื้นที่ในการเลี้ยงที่แตกต่างกัน การเตรียมความพร้อมในเรื่องของพื้นที่จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น สัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก อย่างกระต่าย หนูแฮมเตอร์ นก แมลง สัตว์เหล่านี้จำเป็นต้องมีพื้นที่ราบโล่งหรือโถและต้องมีอุณหภูมิที่เหมาะสม เป็นต้น แต่ถ้าหากคุณต้องการ เลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ อย่างสุนัขพันธุ์ใหญ่ หรือมาที่เป็นสัตว์ 4 ขา คุณจำเป็นต้องมีพื้นที่บ้านที่เป็นสวนหรือสนามให้เขาหรือสัตว์เหล่านั้นได้วิ่งเล่นเพื่อผ่อนคลายและลดความตึงเครียดลง ยิ่งสัตว์ตัวใหญ่ยิ่งต้องปลดปล่อยพลังงานมาก ดังนั้นจำเป็นอย่างมากที่คุณจะต้องเตรียมพื้นที่ภายในบ้านหรือสวนสนามไว้ให้กับเขา
3. ความพร้อมในเรื่องของค่าใช้จ่าย
การตัดสินใจดูแลสิ่งมีชีวิตเพิ่มเข้ามาในบ้านนั้นก็เหมือนเป็นอีกหนึ่งสมาชิกภายในบ้านที่จะต้องดูแลเอาใจใส่ในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงสัตว์ชนิดไหนพันธุ์อะไรล้วนแล้วแต่มีค่าใช้จ่ายด้วยกันทั้งสิ้น คุณจะต้องวางแผนการเงินในระยะยาว และแบ่งส่วนค่าใช้จ่ายภายในบ้านไว้สำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณ หรือ หากเกิดในกรณีที่ไม่คาดฝันสัตว์เลี้ยงของคุณป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุคุณจะต้องมีทุนเพียงพอไว้สำหรับช่วยเหลือเขา เป็นต้น
4. ความพร้อมในเรื่องของเวลา
การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คุณจะต้องมีเวลาใส่ใจและรับผิดชอบเขาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเวลากินเวลาเล่น หรือเมื่อเวลาที่สัตว์เลี้ยงของคุณป่วยคุณจะต้องมีเวลาพาเขาไปหาหมอ และมีเวลาดูแลเอาใจใส่ทำความสะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงกับเด็กเล็กความสะอาดถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก หากคุณวางแผนที่จะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงคุณจะต้องมีเวลามาให้ความรักและไม่รำคาญหรือผลักไสเวลาที่สัตว์เลี้ยงต้องการคุณ
5. ความพร้อมเรื่องความรับผิดชอบของลูก
เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด หากลูกของคุณอยากเลี้ยงสัตว์คุณแม่จะต้องประเมินในเรื่องความรับผิดชอบของลูก ลูกจะต้องมีความพร้อมที่จะรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง พร้อมที่จะยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงว่าสักวันหนึ่งสัตว์เลี้ยงของเขาจะต้องโตขึ้น และพร้อมที่จะแบ่งปันความรักให้กับสัตว์ ซึ่งในข้อนี้หากลูกของคุณมีความพร้อมเพียงพอ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะการเลี้ยงสัตว์นั้นจะช่วยทำให้จิตใจของเด็กนั้นอ่อนโยน และรู้จักแบ่งปันมากยิ่งขึ้น
6. ความพร้อมยอมรับในเรื่องของการจากลา
ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่ยืนยาวอยู่ตลอดไป และหากคุณตัดสินใจที่จะให้ลูกนั่นเลี้ยงสัตว์ บางครั้งสัตว์เลี้ยงของคุณมีอายุขัยเพียงแค่ 3 ถึง 5 ปีเท่านั้น เมื่อเรา เลี้ยงเขา ลูกจะต้องเกิดความผูกพันกันอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นความพร้อมในส่วนนี้ถือเป็นส่วนที่ทำใจยากที่สุดที่ต้องยอมรับให้ได้
จะเห็นได้ว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นก็ถือมีข้อดีต่อจิตใจของเด็กเป็นอย่างมาก ช่วยให้เขาเป็นเด็กที่มีความเมตตา อ่อนโยน รู้จักเผื่อแผ่แบ่งปัน แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นคุณพ่อคุณแม่จะต้องประเมินความพร้อมทั้งสภาพจิตใจและวุฒิภาวะทางอารมณ์ของลูกด้วย ว่าเขาสามารถยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้มากน้อยเพียงใด ถ้าหากประเมินแล้วลูกสามารถยอมรับกับข้อกำหนดเหล่านี้ได้ การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วย ส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยได้มากเลยทีเดียว ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ