ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคสมัยปัจจุบันนี้ภาษาอังกฤษเป็นอีกหนึ่งภาษาที่จำเป็นและสำคัญมากในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับทางสากล ซึ่งสำหรับใครที่เก่งภาษาอังกฤษหรือมีความสามารถทางด้านภาษาจะสามารถได้รับโอกาสได้มากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่หลายๆบ้านจึงพยายามใช้ภาษาอังกฤษกับลูกและเลือกที่จะเลี้ยงลูกแบบ 2 ภาษา แต่การเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กสองภาษานั้นต้องเจอกับปัญหาอย่างแน่นอนว่าทำไมลูกถึงไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษกับเราสักที วันนี้เรามาดูเหตุผลกันว่าเพราะอะไรลูกถึงไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษกับเราสักที
1. ลูกอยู่ในช่วง Silent Period
ในช่วงนี้เด็กๆจะนิ่งเงียบและใช้เวลาในช่วงนั้นเก็บข้อมูลซึ่งเด็กแต่ละคนจะมี Silent Period ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับพื้นฐานและบุคลิกภาพของเด็กแต่ละคน เช่นเด็กบางคนที่มีพื้นฐานชอบกล้าแสดงออก ชอบพูด ไม่ว่าจะพูดถูกพูดผิดก็ชอบที่จะพูด เขาจะมี silent Period ที่สั้น แต่ถ้าลูกเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออกเวลาถามอะไรก็จะเงียบ ยิ่งถ้าเป็นภาษาอังกฤษแล้วเราก็จะยิ่งเงียบกว่าเดิมเพราะเขาไม่กล้าที่จะพูด หรืออาจจะเข้าใจแต่ไม่รู้จะตอบยังไง จึงแสดงออกมาในลักษณะที่เงียบนิ่งแต่ถ้าเราพูดไปเรื่อยๆแล้วลูกสามารถทำตามคำสั่งได้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแสดงว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่เราพูดนั่นเอง
2. ไม่ใช้ภาษาอังกฤษกับลูกสม่ำเสมอ
ก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้ลูกนั้นไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษสักที การที่เราอยากให้ลูกฟังพูดภาษาอังกฤษได้พ่อแม่จะต้องหมั่นพูดคุยกับลูกด้วยภาษาอังกฤษเช่นกัน ระวังอย่าพูดไทยคำภาษาอังกฤษคำ หรือนึกจะพูดก็พูด คุณพ่อคุณแม่จะต้องพูดจนเป็นนิสัย แนะนำว่าให้แบ่งกันไปเลยว่าใครจะพูดภาษาไหนกับลูกเช่น พ่อพูดภาษาอังกฤษ แม่พูดภาษาไทย แล้วก็ต้องคงใช้ภาษาแบบนี้ไว้จนกว่าลูกจะรู้เรื่องและใช้ภาษาอังกฤษได้โดยอัตโนมัติ
3. เพื่อนไม่พูดภาษาอังกฤษด้วย
ก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้ลูกของเราไม่กล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษ สภาพแวดล้อมนั้นมีผลอย่างมากต่อการเรียนรู้ของเด็กๆหลายบ้านอาจสงสัยว่าทั้งๆที่เราก็พูดภาษาอังกฤษกับลูกอยู่เป็นประจำอยู่แล้วแต่ทำไมลูกไม่ยอมเปิดใจ และไม่กล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษออกมาสักที เพราะนั่นอาจหมายถึงว่าตอนที่เขาอยู่โรงเรียนเพื่อนๆอาจจะพูดกันเป็นภาษาไทยจึงทำให้เขารู้สึกว่าภาษาไทยก็ใช้คุยได้แล้วไม่จำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษนั่นเอง ดังนั้นวิธีการแก้ไขเราอาจจะต้องทำงานหนักหน่อยพยายามพูดกับลูกด้วยภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ เพราะการเรียนรู้ที่ดีและได้ผลที่สุดคือการใช้อย่างสม่ำเสมอและใช้จริงเป็นชีวิตประจำวันนั้นเอง
4. ลูกรู้สึกกดดันที่ต้องพูดให้ได้
เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้ลูกนั้นไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษ เป็นเพราะเขารู้สึกไม่สนุกกับการเรียนภาษานั้นๆหรือรู้สึกถูกบังคับว่าต้องพูดให้ได้ อ่านให้ เขียนให้ได้ จนเหมือนกลายเป็นว่าทุกวันคือการเรียนภาษาอังกฤษที่แสนน่าเบื่อและใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข ซึ่งนั่นถือเป็นสัญญาณอันตรายที่อาจจะทำให้ลูกนั้นเก็บกด เก็บความรู้สึก และเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออก แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พยายามทำให้การใช้ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ต้องบังคับและไม่ต้องเร่งรัด ลูกจนเกินไป ถ้าหากลูกไม่เข้าใจคำไหนก็ให้อธิบายหรือพูดซ้ำๆจนกว่าลูกจะจำได้เองนั่นคือการเรียนภาษาอังกฤษที่สนุกและสามารถนำไปใช้ได้จริง การเรียนแบบนี้จะทำให้ลูกนั้นจดจำได้ดียิ่งขึ้นและพยายามที่จะเรียนรู้เรื่องของภาษาให้สนุกมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
5. ลูกถูกแก้คำพูดอยู่เสมอ
จึงทำให้เขาไม่กล้าที่จะแสดงออกเพราะกลัวว่าจะพูดผิด การที่เราแก้ไขทันที อาจทำให้เขาไม่กล้าที่จะพูดประโยคภาษาอังกฤษนั้นออกมาเพราะกลัวโดนดุหรือกลัวผิด ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ถ้าหากอยากแก้คำผิดก็อาจจะให้การพูดคุยโต้ตอบโดยการทวนคำที่ถูกต้องให้กับลูก แบบประโยคคำถามให้ลูกตอบบทสนทนาดีกว่าการแก้คำผิดในทันที ก็จะช่วยให้เขานั้นได้เรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้นด้วยตนเอง
จะเห็นได้ว่าการสอนให้ลูกใช้ภาษาอังกฤษนั้นเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับตัวเด็กแต่ถ้าหากลูกนั้นไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษกับเราสักทีคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรที่จะเร่งรัด หรือกดดันลูกมากจนเกินไปจะทำให้ลูกนั้นกลัวที่จะพูดภาษาอังกฤษและจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่สนุก ส่งผลให้ลูกนั้นเบื่อหน่ายในด้านของภาษาได้เลยทีเดียว ซึ่งการที่จะให้ลูกนั้นยอมพูดภาษาอังกฤษนั้นลูกจะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษจริงในชีวิตประจำวันนั่นเอง