สำหรับเด็กในช่วงปฐมวัยแล้วจะเป็นอีกช่วงหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่นั้นอาจจะต้องปวดหัวและต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก เพราะในช่วงวัยนี้ลูกจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก จะมีพฤติกรรมที่ลอกเลียนแบบผู้อื่น และอีกหนึ่งพฤติกรรมที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจเป็นกังวลนั่นคือ การยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง โดยไม่มีความอ้อมอารีหรือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น ซึ่งทักษะเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญในชีวิต ที่จะทำให้เด็กนั้นอยู่ร่วมกับสังคมได้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากเด็กที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ สามารถปรับตัวและยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ จ้าสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ง่าย ซึ่งเมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะทำให้เขาเป็นคนที่มีความสุขกับสิ่งที่รอบตัวได้ง่ายยิ่งขึ้น เป็นที่รักของคนรอบข้างมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจึงมีเคล็ดลับในการสอนลูกให้เป็นคนที่มีจิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น จะมีวิธีการอบรมบ่มนิสัยลูกอย่างไรบ้าง นั้นไปติดตามกันเลย
1. สอนให้ลูกช่วยเหลือผู้อื่นเป็น
ถือเป็นวิธีการเริ่มต้นที่จะฝึกให้ลูกเน้นมีจิตใจที่โอบอ้อมอารี ซึ่งสังคมในโรงเรียนนั้นลูกจะต้องพบเจอกับเพื่อนที่หลากหลายอารมณ์ หลากหลายนิสัย บางคนน้ำเป็นเด็กที่เรียบร้อย แต่ในขณะที่บางคนนั้นเป็นเด็กที่เกเรชอบแกล้งเพื่อน ให้คุณพ่อคุณแม่ลองสร้างจินตนาการให้กับลูก ว่าเมื่อตนเองถูกกลั่นแกล้งงั้นจะรู้สึกเช่นไร วิธีนี้จะช่วยให้ลูกตระหนักถึงการไม่แกล้งผู้อื่น และจะมีจิตใจที่ดีมากขึ้น รวมไปถึงเมื่อเจอสถานการณ์ที่เพื่อนถูกแกล้งลูกสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้เป็น ซึ่งทักษะนี้หากปลูกฝังตั้งแต่ยังเด็กลูกจะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจดี ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น
2. บอกรักลูกเสมอ
เป็นวิธีที่ปฏิบัติได้ง่ายและทำได้ทันที การที่คุณพ่อคุณแม่บอกรักลูกอยู่เสมอจะทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและรู้สึกเป็นที่รัก เขาจะรู้สึกรักตัวเองมากยิ่งขึ้น ยิ่งคุณพ่อคุณแม่ปฏิบัติตามเป็นต้นแบบ เขาจะรู้สึกถึงความรักและความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นไปโดยอัตโนมัติ วิธีการบอกรักลูกอยู่เสมอและมีประโยชน์อย่างมากลูกจะรู้สึกเห็นคุณค่าของความรู้สึกผู้อื่นมากขึ้น
3. สอนลูกเข้าใจอารมณ์ของตนเอง
พฤติกรรมของเด็กส่วนใหญ่นั้นมักจะแสดงออกมาจากความรู้สึกข้างใน ซึ่งบางครั้งเขาไม่ทราบว่าพฤติกรรมเหล่านี้นั้นไม่น่ารัก บางครั้งจึงเผลอแสดงความเกรี้ยวกราด ออกมาโดยไม่รู้ตัว คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกให้ลูกรู้จักอารมณ์ของตนเองได้ ลูกโมโหหรือเกรี้ยวกราด ให้บอกถึงความรู้สึกเหล่านั้นให้ลูกได้รู้ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์โกรธ อารมณ์ดีใจ อารมณ์ตื่นเต้น อารมณ์มีความสุข การสอนให้ลูกรู้จักความรู้สึกเหล่านี้จะทำให้เขาเข้าใจและควบคุมอารมณ์ของตนเองได้มากยิ่งขึ้น เมื่อจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้ จะทำให้ลูกระดับรู้ถึงความรู้สึกและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากยิ่งขึ้น
4. อ่านนิทานด้วยกัน
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่คุณพ่อคุณแม่จะสามารถสอดแทรกทัศนะคติ หรือยกตัวอย่างเหตุการณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น นิทานเหล่านี้จะช่วยสะท้อนความคิดและการกระทำของตัวละครได้อย่างเด่นชัด จะทำให้ลูกค่อยๆซึมซับและมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่นมากยิ่งขึ้นได้นั้นเอง
5. จำลองสถานการณ์
การเล่นกับลูกด้วยการจำลองสถานการณ์นั้นมีประโยชน์อย่างมาก จะทำให้ลูกได้ตระหนักถึง ความรู้สึกของผู้อื่นมากยิ่งขึ้น โดยให้คุณพ่อคุณแม่สวมบทบาทเป็น คนใจดี เพื่อทำให้ลูกได้ซึมซับและเรียนรู้ว่าความเป็นคนใจดีนั้นมีผลต่อจิตใจของผู้อื่นอย่างไร ลูกจะค่อยๆซึมซับพฤติกรรมเหล่านี้ และมีประโยชน์นำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตได้
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเด็กนั้นเปรียบเสมือนผ้าขาว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรฝึกฝนและอบรมสั่งสอนแต่พฤติกรรมที่ดีให้กับลูก โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็กเขาจะสามารถซึมซับพฤติกรรมเหล้านี้ได้ดียิ่งขึ้น โดย เคล็ดลับในการสอนลูกให้เป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารี นั้นมีหลากหลายแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกปฏิบัติจะเลือกฝึกฝนให้เหมาะสมกับพฤติกรรมและลักษณะนิสัยพื้นฐานของลูก ซึ่งแต่ละวิธีนั้นสามารถปฏิบัติตามได้ง่าย หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่กำลังเป็นกังวลใจกับพฤติกรรมที่ไม่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นหรือยึดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ของลูกอยู่นั้น ลองปฏิบัติตามวิธีที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ รับรองว่า ลูกน้อยจะ มีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มากยิ่งขึ้น เห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากยิ่งขึ้น อย่างแน่นอน เว็บสล็อต