อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในปัจจุบันนี้ทั่วโลกนั้นได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค โควิด-19 ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของชีวิต มาทำให้การใช้ชีวิตในปัจจุบันนั้นได้ปรับเปลี่ยนไปเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กวัยกำลังเจริญเติบโต ที่ขาดโอกาสเข้าสังคมกับเพื่อนๆ รวมไปถึงการออกไปใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ เพราะว่าในกลุ่มเด็กเล็กนั้นถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงเชื้อไวรัสชนิดนี้ เนื่องจากเด็กยังมีภูมิต้านทานน้อย จึงจำเป็นอย่างมากที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องดูแลเขาเป็นพิเศษ โดยอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงพฤติกรรมที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับยุค New Normal นี้ เด็กๆจะต้องเรียนรู้และปรับตัวในด้านใดบ้างนั้นไปติดตามกันเลย
1. Learn from home
หรือ การเรียนออนไลน์ นั่นเอง ทางกระทรวงศึกษาธิการได้มีการเปลี่ยนระบบการเรียนการสอนในรูปแบบใหม่ที่ใช้ในรูปแบบของออนไลน์เข้ามารองรับกับสถานการณ์โรคระบาดโควิดนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการพบปะ สัมผัส หรือพูดคุยกันของเด็กๆ ลดการใช้ห้องเรียนเป็นเวลานาน จึงทำให้เด็กๆต้องมีความกระตือรือร้น ขยันหมั่นเพียรที่จะเรียนรู้ทางโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น สามารถแยกแยะและใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ได้ โดยเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องคอยกระตุ้น หรือ คอยสนับสนุนลูกอยู่ข้างๆเสมอ แล้วต้องคอยสังเกตพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ หรือ การท่องโลกอินเตอร์เน็ตของลูก เพื่อไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางนั่นเอง
2. เด็กจะต้องรู้จักเว้นระยะทางสังคม
การเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นอีกหนึ่งมาตรการของการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยเด็กจะต้องเข้าใจและเรียนรู้ว่า ต้องเว้นระยะห่างจากเพื่อน ลดการสัมผัส กับเพื่อน จะช่วยทำให้ตัวเองลดการติดเชื้อไวรัสนี้ได้ โดยคุณแม่อาจจะยกตัวอย่างให้ลูกมองเห็นภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การต่อแถวรอคิวเวลาซื้ออาหาร ให้เว้นระยะห่างจากเพื่อน เพื่อลดความแออัดในโรงอาหาร และเพื่อความปลอดภัยของตัวเด็กๆเอง
3. เรียนรู้การสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าเรียน
เด็กในยุคนี้ โตมากับหน้ากากอนามัย ซึ่งการสวมหน้ากากอนามัยนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เด็กจะต้องมีการเรียนรู้และปรับตัวเพื่อให้ใช้หน้ากากอนามัยให้ถูกต้อง หากสวมใส่เป็นเวลานาน ก็อาจทำให้ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จะต้องคอยสอนลูกให้สวมใส่อย่างระมัดระวัง หากอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยสามารถถอดหน้ากากอนามัยออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ได้บ้าง แต่ถ้าหากอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่นพื้นที่แออัด คนเยอะ ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือเข้าในพื้นที่ชุมชน เช่นกันสวมหน้ากากก่อนเข้าห้องเรียน หรือ สอบ เป็นต้น
4. เน้นกิจกรรมกลางแจ้งมากกว่าในห้องเรียน
เด็กๆช่วงยุค covid นี้สามารถ ประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ได้ตามโอกาส คือจำเป็นต้องประกอบกิจกรรมเพื่อพัฒนาการรวมถึงทักษะทักษะต่างๆของเด็ก ควรใช้เป็นลักษณะกิจกรรมกลางแจ้ง มากกว่าในห้องเรียนแบบปิด อย่าให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อ ประโยชน์ของกิจกรรมกลางแจ้งเด็กๆจะรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น ได้วิ่งเล่นได้ออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น
5. สร้างสุขนิสัยรักความสะอาด
จำเป็นอย่างมากที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องซึมซับการดูแลความสะอาดตั้งแต่วัยเด็ก เพราะ การดูแลความสะอาดเหล่านี้จะช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี คุณพ่อคุณแม่ต้องปลูกฝังให้เด็กล้างอย่างสม่ำเสมอ รู้จักพกกระดาษทิชชูเปียก เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และระมัดระวังความสะอาดนอกบ้าน หากเป็นเด็กก็ค่อยๆซึมซับนิสัยการรักษาความสะอาดนี้จะกลายเป็นความเคยชิน จะมีประโยชน์ช่วยให้ลูกลดการสัมผัสของเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี
จะเห็นได้ว่าการระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ค่อนข้างรุนแรง และเด็กติดเป็นจำนวนมาก ดังนั้น มีความจำเป็นอย่างมากที่ เด็กต้องเรียนรู้และปรับตัวในยุคโรคระบาด Covid-19 โดยจากสถิติแล้ว เด็ก 5 ล้านคนในสหรัฐ ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โอมิครอน ภายในระยะเวลาเพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น ตัวเลขนั้นค่อนข้างสูงเลยทีเดียว จึงทำให้ทุกภาคส่วนต่างตระหนักถึงวิธีการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในเด็กมากยิ่งขึ้น จึงทำให้มีมาตรการออกมาให้ปฏิบัติตามมากมาย ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อตัวเด็กและพฤติกรรมพื้นฐานของเด็กๆด้วย ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จะต้องคอยบอกกล่าวให้ลูกมีการปรับตัว และรับมือกับสถาณการณ์ต่างๆในขณะนี้ให้ได้ดียิ่งขึ้น หากเด็กมีความพร้อม ก็จะสามารถเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ รวมถึงสามารถพัฒนาทักษะต่างๆได้อย่างไร้กังวลนั่นเอง