ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตของลูกน้อยมากยิ่งขึ้น ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ใส่ใจหรือให้ความสำคัญตรงจุดนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของลูกได้โดยตรง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรตระหนักรู้ถึงโทษที่มาจากการใช้เทคโนโลยีมากจนเกินไป ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเทคโนโลยีเปรียบเสมือนดาบสองคม ถ้าหากรู้จักใช้ก็จะสามารถมอบคุณประโยชน์ได้มากมาย แต่ถ้าหากใช้มากจนเกินความจำเป็น อาจจะส่งผลเสียตามมาในอนาคตได้ ดังนั้นวันนี้เราจึงรวบรวมอันตรายที่มาจากการใช้เทคโนโลยีมากจนเกินไปมาฝากคุณพ่อคุณแม่กัน มีผลกระทบ ต่อลูกน้อยอย่างไรบ้างนั้นไปติดตามกันเลย
1. ส่งผลกระทบต่อการเข้าสังคม
เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของลูกน้อยมากจนเกินไปสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตเห็นได้ชัดเลยคือลูกจะอยู่แต่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ กิจกรรมส่วนใหญ่ของลูกจะอยู่ภายในมือถือไม่ว่าจะเป็นการดูการ์ตูน การเล่นเกม การดู YouTube การฟังเพลง เป็นต้น จึงทำให้ลูกนั้นขาดโอกาสในการเข้าสังคม และไม่มีทักษะทางด้านการเข้าหาผู้คนได้มากเท่าที่ควร จึงอาจส่งผลกระทบให้ลูกน้อยนั้นปรับตัวเข้าหาคนได้ยาก ซึ่งทักษะเหล่านี้ถือว่าสำคัญและจำเป็นในการดำเนินชีวิตในอนาคตอย่างมาก โดยจากการวิจัยแล้วพบว่า หากลูกน้อยใช้สมาร์ทโฟนมากกว่า 82% ส่วนใหญ่ จะส่งผลกระทบต่อการสนทนาในชีวิตประจำวัน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงต้องให้ความสำคัญในการใช้เทคโนโลยีหรือโทรศัพท์มือถือของโลกให้มากยิ่งขึ้น
2. กลายเป็นเด็กสมาธิสั้น
ซึ่งถ้าหากในแต่ละวันลูกจับจ้องอยู่แต่กับสมาร์ทโฟนมากจนเกินไปวันละหลายชั่วโมง จะทำให้เขามีพัฒนาการทางสมองที่ลดน้อยลง เป็นเด็กที่สมาธิสั้น ซึ่งถ้าหากเกิดปัญหาเหล่านี้แล้วจะทำให้แก้ไขได้ยากขึ้น จะทำให้เด็กเสียโอกาสการเรียนรู้เท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกในวัยก่อน 2 ขวบ ไม่ควรดูโทรศัพท์มือถือหน้าจอทีวี เพราะภาพนั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เมื่อเด็กจดจ่ออยู่กับหน้าจอทีวีจะทำให้เขามีปัญหาทางด้านสมอง ส่งผลต่อความจำลดน้อยลง และที่สำคัญจะทำให้เด็กมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวมากขึ้นอีกด้วย
3. ส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพ
การที่เด็กมีบุคลิกภาพที่ดีนั้นจะส่งผลในเรื่องของการสร้างความมั่นใจได้มากยิ่ง แต่ถ้าหากเลือกใช้เทคโนโลยีหรือสมาร์ทโฟนมากจนเกินไปจะทำให้ลูกนั้นหนูเป็นเด็กที่ไหล่ตก หรือในบางรายอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อกระดูกสันหลังคดงอหรือเปลี่ยนรูปไปได้ ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของสุขภาพกล้ามเนื้ออักเสบในอนาคตต่อไป ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จะต้องกำหนดเวลาการใช้สมาร์ทโฟนหรือการใช้เทคโนโลยีในเวลาที่จำกัด เพื่อให้ลูกได้พักสายตาและได้ปรับบุคลิกภาพให้อยู่ในท่วงท่าที่เหมาะสมนั้นเอง
4. โทรศัพท์มือถือสกปรก
อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูกได้โดยตรง คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่ว่าโทรศัพท์มือถือนั้นมีความสกปรกมากกว่า 10 เท่า เป็นแหล่งที่สะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี ดังนี้หากมีความจำเป็นที่จะต้องให้ลูกเรียนรู้ผ่านทางเทคโนโลยีหรือใช้โทรศัพท์มือถือคุณพ่อคุณแม่ควรทำความสะอาดโทรศัพท์อยู่เป็นประจำ ด้วยการชุบน้ำอุ่นหรือเพื่อฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่อยู่บนผิวของโทรศัพท์ สามารถช่วยลดอันตรายที่จะส่งผลต่อสุขภาพของลูกน้อยลงได้มากเลยทีเดียว
5. อันตรายจากแสงสีฟ้า
ถึงแม้ว่าลูกจะอยู่ในช่วงของวัยการเรียนรู้ ซึ่งในปัจจุบันสามารถค้นคว้าหาข้อมูลได้จากเทคโนโลยีผ่านทางสมาร์ตโฟนได้อย่างง่ายดาย แสงสีฟ้าที่มาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือนั้นส่งผลอันตรายต่อดวงตาของลูกโดยตรง นอกจากจะทำให้ลูกนั้นเกิดภาวะดวงตาแล้วยังทำให้ตาแห้ง และอาจเกิดการอักเสบขึ้นได้ ร้ายไปกว่านั้นอาจทำให้จอประสาทตาเสื่อมเลยทีเดียว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ความสำคัญในการใช้โทรศัพท์มือถือภายในระยะเวลาที่กำหนด ควรให้ลูกได้พักสายตาทุกๆ 20 นาที เพื่อป้องกันแสงสีฟ้าที่จะมาทำลายดวงตาของลูก นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรลดแสงสว่างของหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่ และหากมีความจำเป็นที่จะต้องให้ลูกใช้โทรศัพท์มือถือควรให้ลูกทานอาหารที่บำรุงสายตาด้วยเช่นผักใบเขียว เนื้อปลา เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีนั้น หากรู้จักนำมาประยุกต์ใช้ก็จะสามารถมอบประโยชน์และความรู้ให้กับลูกได้อย่างมากมาย แต่ถ้าหากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง เทคโนโลยีนั้นก็อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของลูกกลายเป็นเด็กที่มีพัฒนาการช้าลงไปได้ ข้อควรระวังของการใช้เทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบต่อลูกน้อย ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้นั้น เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่จะสามารถช่วยให้คุณพ่อคุณแม่หันมาใส่ใจการใช้เทคโนโลยีของลูกน้อยได้มากยิ่งขึ้น ใช้โทรศัพท์ให้อยู่ในขอบเขต ก็จะสามารถมอบประโยชน์และทำให้ลูกกลายเป็นผู้ที่รอบรู้ได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย สล็อตเว็บตรง