บทความนี้ขอแนะนำ “เมื่อลูกติดโควิด 19 ควรดูแลอย่างไรดี” โรคโควิด 19 แม้ในปัจจุบันจะถูกประกาศให้เป็นโรคประจำท้องถิ่นไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะน่าไว้วางใจ เพราะโควิด 19 ยังอยู่รอบตัวเรา และยังมีผู้ที่เป็นโรคคิด 19 เกิดขึ้นทุกวัน แต่เมื่อลูกน้อยติดโควิด 19 คุณพ่อคุณแม่ ควรรับมืออย่างไรดี
วิธีสังเกตอาการของเด็กที่มีความเสี่ยงว่าจะติดเชื้อโควิด-19
โดยอาการของเด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่พบมากที่สุด จะมีอาการดังนี้
1.มีไข้หลายวัน อาจจะไข้สูงหรือไข้ต่ำก็ได้
2.ไอแห้ง
3.อ่อนเพลีย
4.เจ็บคอ
5.อาจมีหรือไม่มีน้ำมูกก็ได้ คัดจมูก จาม
6.บางรายอาจมีผื่นแดง
7.จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
8.อาจพบอาการปวดเมื่อยตัว
9.เบื่ออาหาร หรือในเด็กทารกอาจจะกินนมได้น้อยลง
10. อาจมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง ซึ่งพบได้เล็กน้อย
แม้การติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กส่วนใหญ่กว่า 90% จะมีอาการไม่รุนแรง แต่กลุ่มที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ เด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี และเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด หรือภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เพราะเด็ก ๆ กลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะป่วยหนัก ปอดอักเสบ ระบบหายใจล้มเหลว และอาจเสียชีวิต ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ผู้ใหญ่ควรงดสัมผัสหรือหอมแก้มเด็กเล็กโดยไม่จำเป็น ในปัจจุบันระยะฟักเชื้อจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 วันโดยประมาณ
กรณีที่มีผลตรวจยืนยันแล้วว่าลูกหรือเด็กในบ้านติดเชื้อโควิด -19
อาจจะสามารถแบ่งได้เป็นหลายกรณี
กรณีที่ 1 เด็กติดเชื้อและผู้ปกครองติดเชื้อ สามารถเข้ารับการรักษาโดยเน้นจัดอยู่เป็นครอบครัว ไม่ควรแยกเด็กเล็กออกจากผู้ปกครอง
กรณีที่ 2 เด็กติดเชื้อ แต่ผู้ปกครองไม่ติดเชื้อ ให้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือ Hospitel โดยเด็กจะต้องถูกส่งตัวไปรักษาและกักตัวที่โรงพยาบาลหรือ Hospitel อย่างน้อย 14 วัน ซึ่งการกักตัวสำหรับเด็กมีความซับซ้อนกว่าเคสของผู้ใหญ่ในเรื่องของจิตใจ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ต้องแยกห่างจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง แพทย์แนะนำว่า เมื่อเด็กต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลควรมีคนเฝ้า เพื่อให้เด็กไม่รู้สึกเคว้งคว้าง โดยผู้เฝ้าต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง อายุไม่เกิน 60 ปี และไม่มีโรคประจำตัว
กรณีที่ 3 เด็กไม่ติดเชื้อ แต่ผู้ปกครองติดเชื้อ ควรให้ญาติที่ไม่ติดเชื้อเป็นผู้ดูแลเด็ก หากไม่มีผู้ดูแลควรส่งเด็กไปยังสถานสงเคราะห์ หรือบ้านพักในสังกัดกระทรวงเป็นการชั่วคราว
กรณีที่ 4 เกิดการระบาดเป็นกลุ่มในโรงเรียน หรือในเนิร์สเซอรี่ พิจารณาใช้พื้นที่เนิร์สเซอรี่เป็นโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจ โดยดูจากความพร้อมของสถานที่และบุคลากรตามความเหมาะสม
สำหรับเด็กเล็กที่ติดเชื้อโควิด 19 แต่ต้องกักตัวที่บ้าน (Home Isolation)
อุปกรณ์ที่ใช้ติดตามอาการและบรรเทาอาการเด็กที่บ้าน ได้แก่
1.ปรอทวัดไข้
2.เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว
3.อุปกรณ์ที่สามารถใช้ถ่ายภาพ หรือบันทึกอาการของเด็กได้
4.ยาสามัญประจำบ้านเพื่อบรรเทาอาการ ได้แก่ ยาลดไข้ (พาราเซตามอล) ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก เกลือแร่
โดยสังเกตอาการโดยรวมของเด็กอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยแย่งระดับอาการของเด็ก ออกเป็น 2 ระดับ
ระดับที่ 1 คือ อาการที่ยังสามารถสังเกตอาการของเด็กที่บ้านต่อไปได้ ได้แก่ มีไข้ต่ำ มีน้ำมูก ไอเล็กน้อย ไม่มีอาการหอบเหนื่อย ถ่ายเหลว ยังคงกินอาหารหรือนมได้ตามปกติ ไม่ซึม
ระดับที่ 2 คือ ระดับที่ผู้ปกครองควรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำเด็กไปส่งโรงพยาบาล คือ ไข้สูงกว่า 38.5 องศาเซลเซียส หายใจหอบเร็วกว่าปกติ ใช้แรงในการหายใจมาก อกบุ๋ม ปีกจมูกบานตอนหายใจ ปากเขียว ระดับออกซิเจนปลายนิ้วน้อยกว่า 95% ซึมลง งอแง ไม่ดูดนม ไม่กินอาหาร
การรักษาโรค COVID-19
ไม่ใช่คนไข้โรค COVID-19 ทุกคนที่จะมีอาการรุนแรง และในปัจจุบันนั้นพบว่า 80% ของผู้ป่วยมีอาการเหมือนไข้หวัดธรรมดา อาการไม่รุนแรง สามารถรักษาได้ตามอาการ เช่น
– เมื่อมีไข้ ทานยาลดไข้ เช็ดตัว ระวังไม่ให้ไข้สูงและชัก
– เมื่อมีอาการไอ ทานยาแก้ไขละลายเสมหะ หรือใช้สเปรย์พ่นคอบรรเทาอาการไอ
– ทานยาลดน้ำมูก ยาแก้แพ้ ตามอาการ
– ในกรณีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาจจะต้องให้ออกซิเจนในการช่วยเหลือ พ่นยาละลายเสมหะเมื่อจำเป็น
วิธีป้องกันการติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิด-19 ในเด็ก
1. สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ยกเว้นในเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 1 ปี
2.ล้างมือบ่อยๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์
3.เวลาไอ จาม ควรใช้ทิชชูปิดปากและจมูก หลังจากนั้นนำไปทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิด ถ้าไม่มีทิชชูให้ใช้ข้อศอกและต้นแขนด้านในแทน หลังจากนั้นล้างมือให้สะอาด
4.เว้นระยะห่างทางสังคม อย่างน้อย 1-2 เมตร
5.หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา จมูก และปาก หากยังไม่ได้ล้างมือ
6.หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน
7.หลีกเลี่ยงใกล้ชิดกับคนที่มีอาการป่วย
8.งดหอมแก้มหรือสัมผัสใกล้ชิดกับเด็กโดยไม่จำเป็น
9.เมื่อถึงบ้านรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
และในกรณีที่น้องเคยติดเชื้อโควิด-19 มาแล้ว ก็ยังควรต้องปฏิบัติตัวให้ป้องกันโควิด 19 อยู่เหมือนเดิม ไม่ควรประมาทหรือชะล่าใจ เพราะเคยติดเชื้อไปแล้ว ก็สามารถกลับมาเป็นได้อีกครั้ง
บทส่งท้าย
แม้ว่าในปัจจุบันโรคโควิด 19 อาการจะไม่ร้ายแรงเท่าในช่วงแรก ๆ แล้วนั้น แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ต้องปฏิบัติให้เคร่งครัดตามเดิม ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนแออัดมาก ๆ เท่านี้ลูกน้อยก็จะห่างไกลจากโรคโควิด 19 ได้แล้ว
เครดิตรูปภาพ www.biospace.com www.woodlandstreehouse.com www.aviva.ie