บทความนี้ขอแนะนำ “อันตรายจากน้ำอัดลมต่อเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกทานมากจนเกินไป” น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในคนทุกวัย เพราะมีรสชาติหวาน ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น แต่ถ้าหากลูกติดน้ำอัดลมมากเกินไป จะส่งผลเสียต่อร่างกายและด้านพัฒนาการของลูกด้วย ซึ่งผลเสียจากการดื่มน้ำอัมลมมากเกินไปมีอะไรบ้างนั้นไปดูกัน
น้ำอัดลม คืออะไร?
น้ำที่ถูกอัดลม หรือน้ำที่ถูกผสมด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbonated soft drinks) ที่ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโดยใช้แรงดัน ซึ่งวิธีการต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เกิดฟองอากาศขนาดเล็ก ทำให้เวลาเราเทดื่มนั้นมีฟองฟู่ขึ้นมา และนอกจากการเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว น้ำอัดลมบางชนิดยังมีการเติมแต่งสารชนิดอื่น ๆ เข้าไปด้วย เช่น โซเดียม คลอไรด์ โซเดียมคาร์บอนเนต เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วน้ำอัดลมนั้นจะมีรสหวาน และไม่มีแอลกอฮอล์
น้ำอัดลมส่งผลเสียกับเด็กอย่างไรบ้าง
1.โรคอ้วนในเด็ก
ในน้ำอัดลมนั้นเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลอยู่เป็นจำนวนมาก และไม่มีสารชนิดอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเรา โดยน้ำตาลในน้ำอัดลมนั้นคือซูโครสซึ่งทำให้การดื่มน้ำอัดลมในแต่ละครั้งทำให้เด็ก ๆ บริโภคน้ำตาลมากเกินความจำเป็น ซึ่งการดื่มน้ำอัดลมมากจนเกินไป ทำให้พวกเขามีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เป็นเหตุทำให้มีน้ำหนักขึ้น และเกิดเป็นโรคอ้วนในเด็ก หรือเบาหวานได้
2.ส่งผลให้เด็กฟันผุ
เนื่องจากน้ำอัดลมเกิดจากการนำน้ำมาผสมกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นกรดคาร์บอนิก ซึ่งกรดเหล่านี้จะไปทำลายฟลูออไรด์ที่เคลือบฟัน จึงทำให้ฟันของเด็กเกิดความอ่อนแอลง นั่นจึงเสี่ยงต่อการทำให้เกิดฟันผุ อีกทั้งยังก่อให้เกิดอาการเสียวฟันอีกด้วย
3.สูญเสียแคลเซียม
คาเฟอีนมีผลต่อการขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสสูญเสียแคลเซียมจากร่างกายโดยไม่จำเป็น ทำให้เกิดภาวะกระดูกผุ กระดูกเปราะได้
4.มีก๊าซจำนวนมากในกระเพาะอาหาร
การดื่มน้ำอัดลมนั้นจะทำให้เด็ก ๆ ปวดท้อง หรือมีการระคายเคืองที่ระบบทางเดินอาหาร น้ำอัดลมอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด หรือมีก๊าซในช่องท้องมากจนเกินไป นั่นเป็นเหตุมาจากในน้ำอัดลมที่ถูกอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป ทำให้เป็นกรดคาร์บอนิก ที่เป็นเหตุทำให้น้ำอัดลมมีความซ่า และเป็นฟอง ซึ่งกรดคาร์บอนิกนี้สามารถย่อยสลายหินปูนได้ จึงสามารถกัดกร่อนกระเพาะของเด็ก ๆ ได้เช่นกัน
5.ทำให้นอนไม่หลับ
น้ำอัดลมมีส่วนผสมของคาเฟอีนอยู่ ซึ่งบางยี่ห้อก็ไม่ได้ระบุไว้บนฉลาก แต่ก็มั่นใจได้ว่าน้ำอัดลมล้วนมีส่วนผสมของคาเฟอีนอย่างแน่นอน ซึ่งเราต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่า คาเฟอีนเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายเกิดการตื่นตัว จึงลดความง่วง ซึ่งในเด็กที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต จำเป็นที่จะต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จึงไม่ควรให้ดื่มน้ำอัดลมจะดีที่สุด
6.ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร
เหตุผลที่น้ำอัดลมมีส่วนทำให้ระบบทางเดินอาหารเกิดการระคายเคือง เพราะเป็นเครื่องดื่มที่มีสารกันบูดที่ใช้ในการรักษาอาหารนั่นเอง ซึ่งสารกันบูดที่นิยมใช้ในน้ำอัดลมคือ กรดซิตริกที่สามารถผลิตได้จากน้ำผลไม้หรือจากการหมัก มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและยีสต์ได้ ซึ่งกรดชนิดนี้ยังมีฤทธิ์ทำให้เกิดการระคายเคืองระบบทางเดินอาหารอีกด้วย
7.มีผลต่อความสูง
เพราะมีฟอสเฟตในน้ำอัดลมสูง จึงทำให้ระดับแคลเซียมในร่างกายต่ำลง มีผลกระทบต่อความสูงของเด็ก การดื่มน้ำอัดลมมากๆ จะทำให้กระดูกไม่แข็งแรงยืดหยุ่นยาก
8.ขาดสารอาหาร
ในน้ำอัมลมมีปริมาณน้ำตาลที่สูงมาก ซึ่งการที่ได้รับปริมาณน้ำตาลเป็นจำนวนมาก จะทำให้พวกเขารู้สึกอิ่ม และไม่อยากรับประทานอาหารอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นเหตุทำให้เขาได้รับปริมาณสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายน้อยลงในวัยที่พวกเขากำลังเจริญเติบโตได้
วิธีรับมือเมื่อลูกติดน้ำอัดลม
1.ให้ลูกดื่มน้ำเปล่าบ่อยขึ้น
คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกเลือกน้ำเปล่าเป็นเครื่องดื่มในการดับกระหาย แม้ว่าน้ำเปล่าจะไม่ให้รสชาติหรือความซ่าเหมือนกับน้ำอัดลม แต่ก็เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยรักษาสมดุลและกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายได้ดีกว่าน้ำอัดลม
2.ลดปริมาณการดื่มน้ำอัดลม
การลดปริมาณการดื่มน้ำอัดลมของลูกลงทีละนิด โดยไม่ห้ามหรือหักดิบจนเกินไป อาจช่วยให้ลูกเลิกติดน้ำอัดลมได้ คุณพ่อคุณแม่ควรค่อย ๆ ลดปริมาณการดื่มน้ำอัดลมของลูกลงให้เหลือวันละครั้ง สองวันครั้ง หรือสามวันครั้ง จนลูกสามารถเว้นระยะห่างในการดื่มน้ำอัดลมหรือไม่ดื่มน้ำอัดลมเลยได้ในที่สุด
3.ให้ลูกดื่มน้ำผลไม้คั้นสด
น้ำผลไม้คั้นสดมีความหวานจากธรรมชาติ อาจช่วยให้ลูกดื่มได้ง่ายกว่าน้ำเปล่าหรือนม อย่างไรก็ตาม ควรเป็นน้ำผลไม้ที่ไม่เพิ่มน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมมากเกินไป หรือไม่ควรเพิ่มสารให้ความหวานอื่น ๆ เลย เพราะน้ำตาลธรรมชาติที่มีอยู่ในผลไม้ก็เพียงพอที่จะทำให้สัมผัสได้ถึงความหวานแล้ว
4.ให้ลูกดื่มนม
การให้ลูกดื่มนมแทนน้ำอัดลมอาจช่วยให้ลูกเลิกติดน้ำอัดลมได้ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกพกนมกล่องติดตัวไว้ เมื่อรู้สึกอยากดื่มเครื่องดื่มขึ้นมา ก็ให้ดื่มนมที่เตรียมไว้แทน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ดีต่อสุขภาพของลูก ควรเลือกนมที่ไม่มีน้ำตาล หรือมีน้ำตาลน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกได้รับน้ำตาลจากเครื่องดื่มมากเกินไป
5.พกขวดน้ำ
เพื่อให้ลูกสามารถงดการดื่มน้ำอัดลมได้ง่ายขึ้น คุณพ่อคุณแม่อาจฝึกให้เด็กพกขวดน้ำส่วนตัว ยิ่งหากขวดน้ำมีลวดลายที่ลูกชอบ ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่ลูกจะหยิบขวดน้ำมาดื่มบ่อย ๆ วิธีนี้อาจช่วยให้เด็กดื่มน้ำเปล่าได้มากขึ้น และลดการดื่มน้ำอัดลมลง
บทส่งท้าย
การดื่มน้ำอัดลมไม่มีผลดีต่อลูกเลย ซ้ำยังเป็นโทษต่อสุขภาพของลูกน้อยด้วย ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรให้เขาดื่มน้ำอัดลมเลยจะดีกว่า หรือให้ดื่มเป็นครั้งคราวจะดีกว่า ไม่ควรให้ทานบ่อย ถ้าหากลูกงอแงก็บอกถึงผลเสียที่เขาจะได้รับ ลูกอาจจะเชื่อและไม่อยากดื่มน้ำอัดลมก็ได้
เครดิตรูปภาพ www.npcmc.com timesofindia.indiatimes.com /www.verywellmind.com