บทความนี้ขอแนะนำ “ภัยร้ายของลูกน้อย ที่มาพร้อมหน้าฝน ที่คุณพ่อคุณแม่ควรระวังเป็นพิเศษ” อย่างเข้าสู่ฤดูฝนนั้น ฝนก็จะตกชุกและ ส่งผลให้สภาพอากาศนั้นมีความชื้นมากขึ้น และอาจจะทำให้เป็นหวัดได้ง่าย แต่ภัยร้ายที่มาพร้อมกับฤดูฝนนั้นก็น่ากลัวด้วยเช่น และก็คงไม่มีคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนอยากให้ลูกเราต้องมาป่วยแน่นอน แต่มันอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งภัยร้ายที่แอบซ่อนมากับฤดูฝนจะมีอะไรบ้างนั้น ไปศึกษากันเลยดีกว่า คุณพ่อคุณแม่จะได้เตรียมรับมือและป้องกันกันอย่างถูกวิธี
1. โรคไข้หวัดใหญ่
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง และสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะทั้งเด็กหรือผู้ใหญ่เอง อาการของไข้หวัดสามารถติดกันได้ทางการหายใจ น้ำลาย น้ำมูก และยิ่งเข้าช่วงฤดูฝนก็ทำให้การแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะในหมู่เด็ก ๆ ที่ต้องอยู่ในบริเวณที่เดียวกันอย่างเช่นห้องเรียน เล่นใกล้ชิดกัน ซึ่งหากว่าเด็กเริ่มมีอาการไอหรือจาม มีไข้ ควรให้หยุดพักอยู่บ้าน เพื่อเป็นการป้องกันและหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคด้วย
อาการของโรค ไข้หวัดใหญ่อาการก็จะเหมือนไข้หวัดธรรมดาทั่วไป แต่อาการอาจจะรุนแรงมากกว่า ไข้สูง น้ำมูกใส ไอ จาม คัดจมูก ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร อาจจะมีอาการไข้นานประมาณ 3-7 วัน อาจมีอาเจียน ท้องเสีย ร่วมด้วย ถ้าอาการตามที่กล่าวมาข้างต้น สามารถรักษาตัวที่บ้านได้ ทานยาตามอาการ แต่ถ้าอาการรุนแรงมากขึ้นอาจจะต้องนอนโรงพยาบาลและทานยาต้านไวรัส แต่บางรายอาการรุนแรงมากมีภาวะแทรกซ้อน เช่น มีอาการปอดอักเสบร่วมด้วย
2. โรคมือเท้าปาก
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโร สามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี และพอเข้าช่วงฤดูฝนก็จะให้โรคมือเท้าปากระบากได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งโรคมือเท้าปากนั้น จะติดต่อกันได้จากการสัมผัสร่างกาย ไอ จาม ทางน้ำลาย และอยู่ในสถานที่หรือห้องที่ใช้อากาศร่วมกัน
อาการของโรคมือเท้าปาก จะมีไข้สูง อ่อนเพลีย แล้วอาการอื่น ๆ ของโรคจะค่อย ๆ ปรากฎภายใน 1-2 วัน จะเริ่มมีตุ่มแดง ๆ ขึ้นตามมือ แขน ขา ภายในและนอกปาก เจ็บคอ ไม่อยากอาหาร หากอาการหนักตุ่มนั้นจะเริ่มพองและมีน้ำหนอง และถ้าอาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะมีภาวะแทรกซ้อนอย่างเช่น เหยื่อหุ้มสมองอักเสบ เหยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หากเริ่มมีอาการเบื้องต้นที่กล่าวมา ผู้ปกครองควรพาเด็กเข้าไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า ซึ่งแนวทางการรักษา รักษาตามอาการ แยกข้าวของเครื่องใช้ของเด็กจากคนอื่น ล้างมือบ่อย ๆ ซึ่งในปัจจุบันก็เริ่มมีวัคซีนป้องกันโรคชนิดนี้แล้วด้วย
3.โรคไข้เลือดออก
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี โดยมียุงลายตัวร้ายเป็นพาหะ สามารถแพร่เชื้อได้อย่างง่ายหากยุงตัวนั้นมีเชื้อและกัดคนต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งยุงลายพาหะตัวร้าย เกิดได้ง่าย จากแหล่งที่มีน้ำขัง ซึ่งฤดูฝนนั้นฝนตกชุกอาจจะก่อให้เกิดแหล่งน้ำขังได้มากมาย โรคไข้เลือดออกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ในเด็กเล็กที่ภูมิคุ้มกันยังน้อย บางรายอาจจะมีอาการที่ค่อนข้างหนัก
อาการของโรคไข้เลือดออก มีไข้สูง 2-7 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเกือบตลอดเวลา อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดเมื่อยตามร่างกาย และอาจมีผื่นหรือจุดเลือดออกตามลำตัว แขน ขา และอาจจะมีอาการคันตามลำตัวร่วมด้วย ซึ่งระยะการฝักตัวของโรคนี้จะอยู่ในช่วงระยะเวลา 3-5 วัน ซึ่งโรคนี้อันตรายถึงขั้นช็อคและเสียชีวิตได้ แนวทางการรักษานั้นต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และรักษาตามอาการ ร่วมกับการให้น้ำเกลือด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างการขาดน้ำ การป้องกันสามารถทำได้โดยกำจัดแหล่งน้ำขัง หาวิธีป้องกันไม่ให้ยุงเข้ามาภายในบ้าน
4.RSV หรือมีชื่อเต็มว่า Respiratory syncytial virus
เป็นโรคที่เกิดจากระบบทางเดินหายใจ ไข้หวัด หรือหลอดลมอักเสบ จะอันตรายอย่างมากกับเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี เด็กคลอดก่อนกำหนด เด็กที่เป็นโรคหัวใจ หรือโรคปอดร่วมด้วย สามารถเกิดขึ้นกับผู้ใหญ่ได้ แต่จะอันตรายต่อเด็กเล็กถึงขั้นเสียชีวิตได้ การแพร่กระจายของโรคเกิดได้จากที่สารคัดหลั่งต่างๆ เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือการสัมผัสจากผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่แล้ว
อาหารของโรคนั้นคล้ายกับไข้หวัด มีไข้ ไอ จาม และมีน้ำมูก แต่อาการของโรคจะชัดเจนมากขึ้นในช่วงระยะเวลา 4-6 วัน อาการจะเริ่มหนักขึ้นอย่างเช่นมีอาการหอบ เหนื่อย หายใจลำบาก และไอถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มเบื่ออาหาร ซึม หากเริ่มมีอาการดังกล่าวผู้ปกครองควรพาผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโดยทันที ซึ่งปัจจุบันเองนั้นการรักษายังไม่มียาต้านไวรัสตัวนี้ ต้องรักษาตามอาการ หากอาการไม่หนักมากก็สามารรักษาตัวอยู่ที่บ้านได้ ภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ก็จะหายเป็นปกติ
5.สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์มีพิษ และแมลงมีพิษต่าง ๆ
พอเข้าช่วงหน้าฝน ฝนตักทำให้แหล่งธรรมชาติหรือที่อยู่อาศัยของจำพวกสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์มีพิษก็จะถูกน้ำขังไปด้วย สัตว์เล่านั้นจึงต้องหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งหากพื้นบ้านและบริเวณบ้านมีความชื้น ก็จะทำให้สัตว์เหล่านั้นเข้ามาอาศัยอยู่ได้จ่าย พวกแมลงมีพิษก็เช่นกันต้องบินหาที่อยู่ใหม่ บางครั้งก็อาจจะทำให้บินเข้ามาในบ้านและทำอันตรายต่อเด็กเล็กได้
อาการของโรคหากถูกสัตว์เลื่อย สัตว์มีพิษก็จะแตกต่างกันออกไป หาเป็นพวกงูต้องรีบพบแพทย์และจำชนิดของงูให้ดี หากเป็นพวกสัตว์เลื้อยคลานหรือแมลงที่พิษ อาจจะมีอาการบวมแดง คัน บริเวณที่ถูกกัด ให้สังเกตุอาหารให้ดี หากเริ่มมีผื่นแดงหรือตุ่มแดงมากขึ้นก็ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อหาทางรักษาให้ทันโดยไวจะได้ไม่เป็นอันตรายมาก การป้องกันทำความสะอาดบ้านให้สะอาด กำจัดพื้นที่ที่ดูรกให้สะอาดตามากขึ้น ป้องกันการเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เลื้อยคลานหรือสัตว์มีพิษ
ภัยร้ายของลูกน้อย ที่มาพร้อมหน้าฝน ที่คุณพ่อคุณแม่ควรระวังเป็นพิเศษ ภูมิคุ้มกันของเด็กเล็กอาจจะยังไม่แข็งแกร่งเท่าผู้ใหญ่ หรือแม้ผู้ใหญ่เองพอโดนฝนก็ยังเป้นหวัดได้เลย ซึ่งอันตรายที่มาพร้อมกับหน้าฝนอาจจะหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่รู้ ก็จะสามารถหาวิธีตั้งรับกับมันได้ รู้ไว้ก่อนจะได้รับมือกับภัยร้ายได้อย่างทันท่วงที เท่านี้ลูกน้อยก็จะปลอดภัยจากภัยร้ายที่มาพร้อมหน้าฝนได้แล้ว
เครดิตรูปภาพ โรงพยาบาลนครธน www.istockphoto.com www.123rf.com