พัฒนาการทางด้านสมอง ความเก่งและความฉลาดเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนพยายามปลูกฝังและเสริมสร้างให้กับเจ้าตัวน้อย แต่ในยุคปัจจุบันนี้เก่งอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอแล้วลูกจะต้องแข็งแรงและสตรองมากขึ้นด้วยถึงจะอยู่รอดปลอดภัยบนโลกใบนี้ได้อย่างไร้กังวล เพราะในปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บนั้นมีมากมายในทุกพื้นที่ดังนั้นจึงต้องอาศัยความฉลาดและความแข็งแรงในเวลาเดียวกันเพื่อที่จะเป็นเกาะป้องกันและช่วยผลักดันให้ลูกนั้นเจริญเติบโตได้อย่างสมวัย อีกทั้งยังช่วยให้ลูกปรับตัวและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ วันนี้เราจะมีเคล็ดลับในการเสริมสร้างความเก่งและความแข็งแรงให้กับลูกได้ในเวลาเดียวกันจะมีวิธีใดบ้างนั้นไปติดตามกันเลย
1. ฝึกให้ลูกทำกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเอง
การฝึกฝนเช่นนี้ถือเป็นการเริ่มต้น จากเรื่องง่ายๆและเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของลูกมากที่สุด โดยการฝึกให้ลูกทำกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเองให้ได้ก่อน 3 ขวบนั้นจะช่วยให้เขาสามารถดูแลตัวเองได้ กิจวัตรประจำวันที่สามารถฝึกได้ง่ายๆเช่น การรับประทานอาหารด้วยตัวเอง การแต่งตัวด้วยตัวเอง ฝึกขับถ่ายได้เอง หรืออาจจะฝึกฝนวินัยที่ดีที่มีความรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่นจากการเก็บของเล่นหลังเล่นเสร็จ ก็เป็นประโยชน์อย่างมากเลยทีเดียว โดยการฝึกฝนนั้นมีข้อแม้ว่า คุณพ่อคุณแม่จะต้องฝึกให้ลูกทำเป็นเวลาอย่างสม่ำเสมอ จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะจะช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้กับเขาเมื่อเขาได้ทำในสิ่งที่เขาคุ้นเคย อีกทั้งยังช่วยฝึกความรับผิดชอบได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
2. ออกกำลังกายอยู่เสมอ
รวมถึงการทำกิจกรรมเพื่อฝึกกล้ามเนื้อมือ ประโยชน์ของการออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอนั้นจะช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากจะเก่งแล้วยังช่วยทำให้ร่างกายนั้นแข็งแรงพร้อมที่จะเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆได้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงระบบไหลเวียนโลหิตสูบฉีดได้ดีหัวใจแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยให้หลอดเลือดและออกซิเจนหมุนเวียนไปสู่สมองได้ดียิ่งขึ้นทำให้เขารู้สึกตื่นตัว และจดจ่อกับการเรียนรู้ได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงมีสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย
3. การเล่น
จะช่วยเสริมทักษะและพัฒนาศักยภาพของเด็กๆได้ในหลากหลายด้าน อาทิ ด้านร่างกาย งานจิตใจ ด้านอารมณ์และสังคม เป็นต้น ซึ่งการเล่นนั้นมีหลากหลายรูปแบบ คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกเล่นกับลูกกันได้เลยไม่ว่าจะเป็นการเล่นแบบไหนก็ดีต่อจิตใจและช่วยให้เขามีอารมณ์ที่ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าหากอยากส่งเสริมทางด้านความฉลาดให้กับลูก แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เลือกเกมที่มีกฎเกณฑ์กติกาที่กำหนดเอาไว้แล้วอย่างแน่นอนเช่น เกมส์จับคู่ เกมโดมิโน่เป็นต้น เกมเหล่านี้จะช่วยให้เด็กได้คิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา รวมถึงได้ฝึกฝนทักษะความคิดในด้านต่างๆได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
4. การเล่านิทาน
คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับตรงนี้มากนะ แต่รู้หรือไม่ว่าการเล่านิทานนั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มหาศาลต่อการเรียนรู้ของเด็กๆ เพราะจะช่วยให้เขามีพัฒนาการที่สมบูรณ์รอบด้าน ช่วยส่งเสริมและสร้างสัมพันธภาพที่ดีภายในครอบครัว ช่วยเพิ่มทักษะการเข้าสังคมและมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญการเล่านิทานนั้นจะทำให้ลูกจดจำได้ดี โดยเรื่องราวในนิทานนั้นจะช่วยให้เด็กๆมีจินตนาการที่กว้างไกลมากยิ่งขึ้น มีการสมมติเหตุการณ์อยู่ในหัว โดยเฉพาะนิทานที่เป็นเรื่องเหนือจินตนาการจะช่วยให้ลูกน้อยมีกระบวนการความคิดที่สร้างสรรค์ มีจินตนาการเพิ่มมากขึ้นร้ายยังช่วยให้ลูกมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ฟังได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งทักษะการฟังนั้นถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญต่อการเรียนรู้ของลูกในอนาคต
5. เลือกโภชนาการที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร
โดยเด็กเล็กนั้นไม่ควรรับประทานขนมหวานเพราะจะทำให้ไม่ดีต่อสุขภาพและอาจเกิดฟันผุได้ด้วย การดูแลในเรื่องของอาหารการกินโดยเฉพาะระบบทางเดินอาหารของลูกให้แข็งแรงนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ หากลูกมีระบบทางเดินอาหารที่ดีจะช่วยให้เขามีร่างกายที่แข็งแรงพร้อมที่จะเรียนรู้ และสังเกตสิ่งใหม่ๆที่อยู่รอบตัวได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าความเก่งและความแข็งแรงนั้นควรมาควบคู่กัน จะช่วยให้เด็กๆนั้นพร้อมที่จะเรียนรู้ได้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้เขามีพัฒนาการที่ดี ซึ่งหากลูกมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงจะช่วยให้สมองได้รับสารอาหารได้อย่างเต็มที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กน้อย 1-2 ขวบ เธอเป็นช่วงทองของการสร้างความเก่งและความฉลาดเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเพราะพัฒนาการในช่วงนี้รวดเร็วในทุกๆด้าน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรปล่อยโอกาสทองนี้ และควรใช้ช่วงเวลาคุณภาพ ฝึกฝนและเล่นไปพร้อมๆกับลูก จะช่วยให้เขานั้นสนุกและพัฒนาความเก่งได้อย่างรอบด้านอย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียว สล็อตแตกง่าย