อาการท้องผูกหลังคลอด คุณแม่ควรรับมือปัญหานี้อย่างไรดี

อาการท้องผูกหลังคลอด

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง อาการท้องผูกหลังคลอด คุณแม่ควรรับมือปัญหานี้อย่างไรดี ปัญหาท้องผูกหลังคลอดเป็นปัญหาที่คุณแม่หลาย ๆ ท่านต้องพบเจอ จากการที่ฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายได้เกิดการเปลี่ยนแปลง จึงทำให้ประสบปัญหาเกิดอาการท้องผูกเกิดขึ้น บทความนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับวิธีแก้ปัญหาท้องผูกในคุณแม่หลังคลอดกัน แม่หลังคลอดท้องผูก เกิดจากอะไร อาการท้องผูกหลังคลอด สามารถเกิดขึ้นได้ ถึง 50% แม้ว่าจะคลอดตัวเจ้าน้อยออกมาแล้วก็ตาม ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจาก – เกิดจากการเจ็บแผลหลังคลอด ไม่ว่าจะเป็นการคลอดเองหรือโดยการผ่าตัดหน้าท้อง ที่ทำให้คุณแม่ไม่กล้าเบ่ง กลัวแผลกระทบกระเทือน และแม่บางคนอาจจะมีความเจ็บมากเวลาถ่ายเพราะโรคริดสีดวงทวารด้วย – แม่ที่คลอดลูกแบบผ่าตัด หลังคลอดอาจมีอาการท้องผูกซัก 1-2 อาทิตย์ เพราะลำไส้อาจจะคืนสภาพทำงานปกติได้ช้า อันเป็นผลเนื่องมาจากการผ่าตัด – ตัวยาบางชนิดที่ใช้ระงับความเจ็บปวดจากการคลอด อาจส่งผลให้มีอาการท้องผูกได้ – ยาวิตามินที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็ก ก็ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ – สภาพจิตใจหลังคลอดที่มีความกังวลหลายอย่าง หรืออาจจะไม่คุ้นชินกับโรงพยาบาล ไม่มีความเป็นส่วนตัว ทำให้คุณแม่ไม่สามารถถ่ายอุจจาระได้ – การรับประทานอาหารของคุณแม่ ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก เช่น ไม่ค่อยรับประทานผัก ผลไม้ หรือดื่มน้ำน้อย – เลี้ยงลูกคนเดียว ไม่มีเวลาเข้าห้องน้ำ จนต้องทำให้กลั้นอุจจาระบ่อย […]

วิธีปั๊มน้ำนม สำหรับคุณแม่มือใหม่ ปั๊มนมยังไงให้ถูกวิธี 

วิธีปั๊มน้ำนม

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง วิธีปั๊มน้ำนม สำหรับคุณแม่มือใหม่ ปั๊มนมยังไงให้ถูกวิธี การให้นมแม่เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการให้สารอาหารที่จำเป็นแก่ทารก แต่บางครั้งคุณแม่อาจต้องการปั๊มนมเพื่อให้ทารกได้รับนมแม่เมื่อไม่สามารถให้นมจากเต้าได้โดยตรง การจัดตารางปั๊มนมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณแม่สามารถจัดการเวลาและนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปั๊มนมสำคัญอย่างไร ทำไมคุณแม่ต้องปั๊มนม การปั๊มนมสำคัญทั้งต่อแม่และทารก ทั้งสองชีวิตจะได้ประโยชน์ร่วมกันจากการปั๊มนม สำหรับทารกแล้ว การปั๊มนมจะช่วยให้ทารกได้กินนมอย่างเพียงพอ ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจากการกินนมแม่ โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรก ทารกจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับนมแม่อย่างเพียงพอ เพื่อให้เติบโตได้อย่างแข็งแรงและสมวัย และมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เพราะสารอาหารในนมแม่มีส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของทารก ส่วนคุณแม่เองก็ได้ประโยชน์โดยตรงจากในเรื่องของการประหยัดเวลาให้นมลูก แถมไม่ต้องกังวลว่าจะหาเวลามาให้นมลูกไม่ได้ เพราะเมื่อนมถูกปั๊มใส่ขวดไปแล้ว ก็สามารถไหว้วานคนใกล้ตัวให้ช่วยป้อนนมเจ้าตัวเล็กได้ ไม่กระทบงาน แล้วก็ไม่กระทบกับสุขภาพของลูกน้อย ไม่ต้องห่วงว่าเจ้าตัวเล็กจะหิวนมหรือกินนมไม่พอ วิธีปั๊มนมทำอย่างไร วิธีปั๊มนมนั้น ไม่ได้ยากเกินจนแม่มือใหม่จะทำไม่ได้ แค่เพียงรู้สึกว่าพร้อมแล้วที่จะเริ่มปั๊มนม ก็สามารถลงมือปั๊มนมได้เลยทันที โดยมีวิธีปั๊มนมพื้นฐาน ดังนี้ 1.ล้างมือ เครื่องปั๊มนม และอุปกรณ์สำหรับเก็บนมให้สะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้มีเชื้อแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ แฝงไปกับน้ำนมหรือขวดนม 2.ผ่อนคลายก่อนเริ่มปั๊ม สำหรับการปั๊มนมครั้งแรกคุณแม่อาจจะตื่นเต้น กังวล หรือประหม่าได้ ให้พยายามทำกายและใจให้สบาย เลือกที่สงบ ๆ และนั่งในท่าที่รู้สึกสบายที่สุด ก่อนที่จะเริ่มปั๊มนม นอกจากนี้คุณแม่ยังสามารถเปิดดูรูปลูกขณะที่กำลังปั๊มนมเพื่อสร้างบรรยากาศและความรู้สึกของการให้นมบุตร 3.ค่อย ๆ นวดเต้านม […]

วิธีคลายเครียด ของคุณแม่ตั้งครรภ์ แม่อารมณ์ดี ลูกในท้องก็แฮปปี้

วิธีคลายเครียด

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง วิธีคลายเครียด ของคุณแม่ตั้งครรภ์ แม่อารมณ์ดี ลูกในท้องก็แฮปปี้ ความเครียดกับคุณแม่ท้องถือว่าเป็นของคู่กัน ไม่ว่าคุณแม่คนนั้นจะมีพื้นฐานเป็นคนอารมณ์ดีมากน้อยแค่ไหนก็ตาม แต่ภาวะเครียดในคนท้องเกิดขึ้นเองตามกลไกตามธรรมชาติ คุณแม่หลายคนอาจรับมือได้ง่ายและไม่กระทบต่อการใช้ชีวิต สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการเครียด 1.น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ น้ำหนักตัวก็จะเพิ่มขึ้นตามกลไกทางธรรมชาติเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ จึงส่งผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแม่ ยกตัวอย่างเช่น มดลูกขยายตัวขึ้นเนื่องจากการตั้งครรภ์ ส่งผลให้มดลูกเคลื่อนตัวไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ เป็นเหตุให้คุณแม่ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางคืน หรือการมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากร่างกายต้องสะสมสารอาหารเพิ่มขึ้นเพื่อส่งไปยังลูกน้อย จึงทำให้คุณแม่รู้สึกอึดอัดตัว  2.ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ฮอร์โมนในร่างกายคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นหลังจากตั้งครรภ์ ส่งผลให้คุณแม่มีอารมณ์แปรปรวนไป เซนซิทีฟง่ายขึ้น จากเดิมที่อารมณ์ดีสดใส กลายเป็นอารมณ์สวิง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย น้อยใจง่าย เอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผลในหลาย ๆ เรื่อง นอกจากนี้ยังส่งผลให้คุณแม่เครียดง่าย ร้องไห้บ่อย วิตกกังวลไปต่าง ๆ นา ๆ ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 3.ความกังวลในอนาคต นอกจากความเครียดที่มาจากฮอร์โมนในร่างกายแล้ว คุณแม่อาจเกิดความเครียดจากความกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นความเครียดเกี่ยวกับลูกน้อยในครรภ์ว่าจะอยู่รอดครบ 32 หรือไม่, เราจะสามารถเลี้ยงลูกได้ดีมั้ย, คุณสามีจะยังรักเราหรือไม่ หากวันหนึ่งเราต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกตามลำพัง, ทำไมคนรอบข้างถึงดูไม่รับฟังเราเลย และความวิตกอื่น ๆ […]

ลูกดิ้นตอนกี่เดือน ลูกดิ้นแบบนี้หมายความว่ายังไง การดิ้นของลูกในท้องเป็นสัญญาณที่คุณแม่ควรรู้

ลูกดิ้นตอนกี่เดือน

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง ลูกดิ้นตอนกี่เดือน ลูกดิ้นแบบนี้หมายความว่ายังไง การดิ้นของลูกในท้องเป็นสัญญาณที่คุณแม่ควรรู้ การดิ้นของทารก ไม่ได้เป็นเพียงสัญญาณให้คุณแม่และครอบครัวรู้สึกตื่นเต้นและดีใจเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งสำคัญที่บ่งบอกถึงสุขภาพของทารกด้วย คุณแม่จึงควรจดบันทึกความเปลี่ยนแปลงไว้อยู่เสมอ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ด้วย การดิ้นของลูกสำคัญอย่างไร ลูกดิ้นบอกอะไรได้บ้าง การดิ้นของลูก เป็นการบ่งบอกถึงระดับพัฒนาการขั้นต้น ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบแล้วว่าขณะนี้ลูกสามารถที่จะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคุณพ่อคุณแม่ได้ เช่น มีการเตะหรือดิ้น หรือขยับแขนขาเมื่อได้ยินเสียงดนตรี เสียงร้องเพลง เสียงเล่านิทาน หรือเสียงคุยกันของคุณพ่อคุณแม่ มากไปกว่านั้น การดิ้นของลูกก็ยังสามารถเป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติได้ด้วยเหมือน เช่น คุณแม่รู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลง หรือไม่ดิ้นเลย จากที่ปกติจะดิ้นเป็นประจำ ลูกดิ้นตอนกี่เดือน การดิ้นของทารกบอกอะไรเราได้บ้าง ทารกในครรภ์จะเริ่มดิ้นตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 7-8 สัปดาห์ แต่คุณแม่ส่วนใหญ่จะเริ่มรู้สึกถึงการดิ้นได้ชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 3 การดิ้นของลูกน้อยเกิดจากการพัฒนาของระบบประสาท กล้ามเนื้อ และกระดูก ซึ่งเป็นพัฒนาการตามธรรมชาติ ลักษณะการดิ้นของลูกน้อยแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป บางคนอาจดิ้นแรงและถี่ บางคนอาจดิ้นเบาและช้า ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น – ช่วงเวลา ทารกในครรภ์มักจะดิ้นร่าเริงในช่วงเวลาที่คุณแม่นอนพัก หรือหลังทานอาหาร – ปริมาณน้ำตาลในเลือด หลังจากรับประทานอาหาร ปริมาณน้ำตาลในเลือดของคุณแม่จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ลูกน้อยมีพลังงานในการดิ้นมากขึ้น – กิจกรรมของแม่ การเคลื่อนไหวร่างกายของแม่ […]

แคลเซียม สำคัญต่อคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างไร ทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องทานแคลเซียม

แคลเซียม

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง แคลเซียม สำคัญต่อคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างไร ทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องทานแคลเซียม เมื่อตั้งครรภ์แล้ว การได้รับโภชนาการที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเติบโตและพัฒนาการที่สมบูรณ์ของลูกในท้อง  ซึ่งแคลเซียมและวิตามินดีสำหรับคุณแม่ ถือเป็นแร่ธาตุสำคัญต่อโครงสร้างกระดูกของร่างกายของคุณแม่และทารก ที่สำคัญคุณแม่ควรได้รับแคลเซียมควบคู่กับวิตามินดีที่จะช่วยให้กระดูกสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น  แคลเซียมสำคัญกับคนท้องอย่างไร อาหารที่มีแคลเซียม สำหรับคนท้อง ปกติร่างกายคนเราจะดูดซึมแคลเซียมครั้งละ 500-600 มิลลิกรัม แต่ปริมาณแคลเซียมที่แม่ท้องต้องการนั้นสูงถึงวันละ 1,000-1,200 มิลลิกรัม อาหารที่มีแคลเซียมสูงสำหรับคนท้องจึงมีความสำคัญมาก เพราะสารอาหารอย่างแคลเซียมจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงตั้งครรภ์ แคลเซียมทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูก ฟัน และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ซึ่งแคลเซียมในร่างกายแม่ท้อง จะถูกดึงไปใช้เสริมสร้างกระดูกทารกในครรภ์ ดังนั้น การที่แม่ท้องได้รับประทานแคลเซียมอย่างเพียงพอ นอกจากจะช่วยพัฒนาโครงสร้างร่างกายยังช่วยทำให้กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างปกติ เช่น ระบบของกล้ามเนื้อ ระบบภูมิคุ้มกัน ทารกในครรภ์ดึงแคลเซียม จริงหรือไม่ ทารกในครรภ์จะดึงแคลเซียมจากแม่ท้องไปใช้ประมาณ 2.5% ของแคลเซียมในตัวแม่ โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 2 แต่หากแม่ไม่ได้กินแคลเซียมบำรุง ร่างกายก็จะยังมีแคลเซียมเพียงพอต่อการสร้างกระดูกของลูกในท้อง เพราะ 90% ของร่างกายคนเราจะมีแคลเซียมสะสมในกระดูกอยู่แล้ว แต่แม่ท้องอย่าชะล่าใจ เพราะถ้าแม่ได้รับแคลเซียมน้อยก็จะส่งผลเสียต่อตัวเองในระยะยาว ทำให้ฟันผุง่ายขึ้น กระดูกเปราะบางและผุได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลในช่วงวัยทอง […]

คุณแม่หลังคลอด คุณแม่ให้นมลูก กินยาคุมได้หรือไม่

คุณแม่ให้นมลูก กินยาคุมได้หรือไม่

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง คุณแม่หลังคลอด คุณแม่ให้นมลูก กินยาคุมได้หรือไม่ หลังคลอดลูก คุณแม่ส่วนใหญ่จะยังไม่พร้อมที่จะเปิดอู่สำหรับตั้งครรภ์ครั้งต่อไป และแพทย์ก็ไม่แนะนำให้ตั้งครรภ์ใหม่จนเร็วเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียทั้งต่อแม่และทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น คุณแม่หลายคนจึงมักจะทำการคุมกำเนิดหลังคลอดลูก ซึ่งหนึ่งในวิธีที่คุณแม่มักเลือกใช้ก็คือการคุมกำเนิดด้วยการกินยาคุม แต่ยาคุมให้นมลูกจะเป็นอันตรายไหม กินได้ไหม ไปหาคำตอบกัน คุณแม่ให้นมลูก กินยาคุมกำเนิดได้ไหม คุณแม่ให้นมลูกสามารถกินยาคุมกำเนิดได้ โดยควรเป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว  มีแต่โปรเจสตินอย่างเดียว ซึ่งสามารถเริ่มรับประทานได้เลยหลังคลอด และเพื่อให้มั่นใจว่ากินยาคุมกำเนิดที่ถูกต้องทั้งตัวฮอร์โมน และ วิธีกิน คุณแม่ให้นมควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หรือ เภสัชกรเท่านั้น แล้วจะเริ่มกินยาคุม ทันทีเลยได้หรือเปล่า ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการคุมกำเนิด ต่างก็มีความเห็น ไม่ตรงกันว่า ควรจะเริ่มกิน ยาคุมกำเนิดเมื่อไหร่ บางคนก็บอกว่ากิน หลังจากคลอดลูกแล้ว 6 สัปดาห์ เพื่อให้กระบวนการ และ ปริมาณการผลิตน้ำนม คงที่เสียก่อน แต่เมื่อคุณไปหาหมอ เพื่อตรวจภายในหลังคลอด 1 เดือน คุณหมอจะถามเรื่องการ วางแผนในครอบครัว และ แนะนำเรื่องวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ ยาคุมที่ใช้ได้ระหว่างให้นมลูก ยาคุมกำเนิด มี 2 […]

คุณแม่ตั้งครรภ์ ทานผลไม้ชนิดไหนได้บ้าง

ทานผลไม้ชนิดไหนได้บ้าง

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง คุณแม่ตั้งครรภ์ ทานผลไม้ชนิดไหนได้บ้าง ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ทุกคนล้วนแต่อยากจะทานอาหารดี ๆ ด้วยกันทั้งนั้น หนึ่งในนั้นคือผลไม้ ซึ่งผลไม้ที่เหมาะสำหรับการกินในช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งจะช่วยบำรุงลูกน้อยในครรภ์ให้มีสุขภาพดีนั้นจะมีอะไรบ้าง ควรทานชนิดไหนบ้าง ไปหาคำตอบกัน ผลไม้หลาย ๆ ชนิดนั้น ให้สารอาหารที่สำคัญ และมีประโยชน์กับแม่และลูกในท้องมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ช่วยในเรื่องพัฒนาการของเนื้อเยื่อและเซลล์ต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ ในขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน อีกทั้งยังช่วยในการป้องกันการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ ป้องกันโรคท้องผูก และริดสีดวงทวารที่มีโอกาสเกิดขึ้นในขณะตั้งครรภ์ได้อีกด้วย  การบริโภคผลไม้ช่วงตั้งครรภ์สำคัญอย่างไร การบริโภคผลไม้ที่เหมาะสม มีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพของคุณแม่ อีกทั้งยังส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อย โดยข้อดีของการทานผลไม้บำรุงครรภ์มีดังนี้ 1.วิตามินและแร่ธาตุในผลไม้ มีบทบาทในการสร้างเนื้อเยื่อ เซลล์สมอง พัฒนาระบบประสาท และป้องกันความพิการของทารกแต่กำเนิด 2.ผลไม้เป็นแหล่งใยอาหาร ช่วยในการขับถ่ายและลดอาการท้องผูก ซึ่งเป็นอาการที่คุณแม่พบได้บ่อยในช่วงตั้งครรภ์ 3.ผลไม้บางชนิด เช่น เบอร์รี และองุ่น ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนกับคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน 4.ผลไม้บางชนิด เช่น องุ่น มะนาว และส้ม มีกลิ่นหอมสดชื่น จึงเหมาะกับการรับประทานเพื่อบรรเทาอาการคลื่นไส้หรือแพ้ท้อง ผลไม้คนท้อง […]

ข้าวกล้อง ดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างไร ทานแล้วได้ประโยชน์จริงไหม

ข้าวกล้อง

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง ข้าวกล้อง ดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างไร ทานแล้วได้ประโยชน์จริงไหม ข้าวกล้องนั้นถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ค่อนข้างขึ้นชื่อและเป็นที่นิยม เนื่องจากมีสารอาหารที่หลากหลายกว่าข้าวขาวหรือข้าวขัดสี แต่การรับประทานข้าวกล้องนั้นจะปลอดภัยกับคุณแม่เช่นเดียวกับคนทั่วไปหรือไม่ มีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า สามารถรับประทานได้มากแค่ไหน จะเป็นอะไรไหมถ้าเลือกรับประทานข้าวชนิดอื่นแทน บทความนี้มีคำตอบให้คุณผู้อ่าน ข้าวกล้องคืออะไร ข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือ (Brown Rice) เป็นข้าวสีน้ำตาลอมแดง ผ่านกระบวนการขัดสีโดยที่สีเอาแค่เปลือกออกเท่านั้น ทำให้ข้าวกล้องยังคงมีจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวอยู่ แตกต่างจากข้าวขาวทั่วไป ด้วยเหตุนี้เองทำให้ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสารอาหารที่หลากหลาย และยังค่อนข้างสมบูรณ์อยู่ โดยทั่วไปแล้วด้วยเนื้อสัมผัสที่ร่วน มีความกรุบเล็กน้อย ทำให้หลายคนอาจไม่ชอบ แต่ถ้าหากปรับตัวได้ ข้าวกล้องถือว่าเป็นข้าวชนิดหนึ่งที่ให้ประโยชน์หลายประการต่อคุณแม่ และทารกในครรภ์อย่างแน่นอน คนท้องกินข้าวกล้องได้ไหม คุณแม่ตั้งครรภ์คงเคยได้ยินมาว่าข้าวกล้องมีประโยชน์ เลยอยากจะลองฝึกกินตอนนี้ คุณแม่คิดถูกแล้ว ข้าวกล้องเป็นข้าวที่เหมาะกับคนท้องอย่างมาก เพราะอุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น แร่ธาตุต่าง ๆ วิตามิน และมีโปรตีนสูงให้พลังงานกับร่างกายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ร่างกายยังย่อยข้าวกล้องได้ง่าย เพราะมีกากใยอาหาร และยังมีพลังงานไม่มาก หากเทียบกับข้าวชนิดอื่น ๆ การกินข้าวกล้อง จึงเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับคุณแม่ที่รักสุขภาพ และสามารถส่งเสริมพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้เป็นอย่างดี สารอาหารในข้าวกล้องที่ดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ด้วยกระบวนการขัดสีข้าว ซึ่งผ่านการขัดสีเพียงครั้งเดียว ทำให้สีเมล็ดข้าวกล้องมีสีน้ำตาลอ่อน ยอดของเมล็ดข้าว (จมูกข้าว) […]

คลอดธรรมชาติ น่ากลัวไหม?  มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง แล้วคุณแม่ต้องเตรียมตัวอย่างไร

คลอดธรรมชาติ

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง คลอดธรรมชาติ น่ากลัวไหม?  มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง แล้วคุณแม่ต้องเตรียมตัวอย่างไร คลอดธรรมชาติ เป็นกระบวนการคลอดลูกที่เบสิกและคลาสสิคที่สุด ที่คุณแม่จะเบ่งทารกน้อยออกมาด้วยกำลังแรงกายทั้งหมดที่มี แต่คลอดธรรมชาติยังเหมาะสมกับยุคปัจจุบันอยู่ไหม คลอดลูกธรรมชาติอันตรายหรือเปล่า ไปหาคำตอบกัน คลอดธรรมชาติคืออะไร คลอดธรรมชาติ (Natural birth) คือ การคลอดลูกโดยแม่เป็นผู้คลอดเองด้วยการออกแรงเบ่งทารกออกมา และไม่ผ่านกระบวนการผ่าตัด ซึ่งการคลอดธรรมชาตินี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 37-40 ของการตั้งครรภ์ เพราะอาการเจ็บท้องคลอดจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ข้อดีของการคลอดธรรมชาติ – แม่สามารถฟื้นตัวหลังคลอดได้เร็ว – เสียเลือดน้อย – เจ็บแผลคลอดน้อย – ความเสี่ยงของแผลติดเชื้อน้อย – ไม่มีความเสี่ยงของการเกิดพังผืดในช่องท้อง – โอกาสที่จะเกิดภาวะรกเกาะต่ำในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปมีน้อย – ทารกที่คลอดธรรมชาติจะได้รับภูมิคุ้มกันในช่องคลอดมาด้วย – ทารกมีความเสี่ยงต่อระบบทางเดินหายใจน้อย ข้อเสียของการคลอดธรรมชาติ – ไม่สามารถกำหนดวันคลอดที่แน่นอนได้ ต้องรอให้มีอาการเจ็บครรภ์คลอดเป็นสัญญาณ – เสี่ยงที่จะเกิดภาวะสายสะดือทารกถูกกดทับ – เสี่ยงที่ทารกจะขาดออกซิเจน หากการคลอดใช้เวลานาน – อาจจำเป็นต้องใช้คีมคีบเด็กในกรณีที่แม่หมดสติ หรือหมดแรงคลอด – ในกรณีที่ทารกมีขนาดตัวใหญ่ อาจทำให้คลอดลำบาก ช่องทางคลอดฉีกขาด […]

ท้องแฝดหรือเปล่า สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณแม่อาจจะตั้งครรภ์ลูกแฝด

ท้องแฝดหรือเปล่า

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง ท้องแฝดหรือเปล่า สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณแม่อาจจะตั้งครรภ์ลูกแฝด การตั้งครรภ์แฝดถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคุณแม่ที่ต้องการมีลูกแฝด ซึ่งการที่คุณจะมีลูกแฝดได้นั้นอาจจะมีความเกี่ยวกับพันธุกรรมของคนในครอบครัว หากคุณแม่ท่านไหนที่กำลังสงสัยว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ไม่ บทความนี้มีวิธีสังเกตมาฝากกัน  ครรภ์แฝด (Multifetal Pregnancy)  ครรภ์แฝด  หมายถึง การตั้งครรภ์ที่เกิดทารกในครรภ์มากกว่า 1 คนขึ้นไป ได้แก่ แฝดคู่ (Twins) แฝดสาม (Triplets) แฝดสี่ (Quadruplets) เป็นต้น โดยครรภ์แฝดมีผลทำให้เพิ่มภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ทั้งต่อมารดาและทารก โดยพบว่ายิ่งจำนวนทารกมากขึ้นโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนก็ยิ่งสูงขึ้น และเมื่อเปรียบเทียบอัตราการตายปริกำเนิดของแฝดสองและแฝดสาม พบว่าสูงกว่าการตั้งครรภ์เดี่ยวเป็น 5 และ 10 เท่าตามลำดับ  ครรภ์แฝดมีกี่ชนิด  ครรภ์แฝดแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ แฝดแท้และแฝดเทียม 1.แฝดแท้ เป็นฝาแฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียวกัน ไม่ใช่เรื่องของพันธุกรรม เกิดหลังจากอสุจิผสมกับไข่แล้วเกิดการแบ่งตัว จึงทำให้เกิดเป็นแฝดเพศเดียวกันและมีหน้าตาเหมือนกัน (ในกรณีที่เป็นไข่ใบเดียวกัน ไม่สามารถกำหนดได้ว่าตัวอ่อนจะเกิดการแบ่งตัวในขั้นตอนไหน) 2.แฝดเทียม แฝดคู่นี้จะเกิดจากไข่คนละฟองและอสุจิคนละตัวกัน ซึ่งเด็กที่เกิดมาอาจมีหน้าตาไม่ค่อยคล้ายกันเท่าไหร่นัก รวมทั้งอาจมีเพศที่แตกต่างกันได้ด้วย และเนื่องจากว่าเด็กเกิดจากไข่คนละฟอง เด็กจึงไม่ค่อยมีภาวะแทรกซ้อนหลังจากการเกิดเท่าไหร่ โอกาสในการท้องเด็กแฝด มีมากแค่ไหน  การที่คน ๆ หนึ่งท้องลูกแฝด […]