กินน้ำมันปลาตอนตั้งครรภ์ ลูกฉลาดจริงหรือเปล่า

ตั้งครรภ์

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง กินน้ำมันปลาตอนตั้งครรภ์ ลูกฉลาดจริงหรือเปล่า คุณแม่ตั้งครรภ์ที่กำลังมองหาอาหารเสริมคงเคยได้ยินสรรพคุณของน้ำมันปลาว่า DHA ในน้ำมันปลานั้นสามารถบำรุงสมองให้ลูกในท้องได้ จึงมีความสนใจอยากหามาบำรุงครรภ์เพิ่มเติม แต่ก็มีความสงสัยว่าคนท้องหากกินน้ำมันปลาจะมีผลต่อสุขภาพครรภ์อย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบมาฝากกัน น้ำมันปลา คืออะไร น้ำมันปลา คือ น้ำมันที่อยู่ในตัวของปลาทะเลน้ำลึก มีกรดไขมันที่สำคัญหลายชนิด  หลัก ๆ ก็คือ โอเมก้า 3 ที่ประกอบไปด้วย EPA และ DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นส่วนประกอบสำคัญของเนื้อเยื่อไขมันในมนุษย์ มีประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือดหัวใจ บำรุงสมองและสายตา แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น และเนื่องจาก DHA มีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองและดวงตาของทารก ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จึงแนะนำว่าสตรีมีครรภ์และให้นมบุตรควรได้รับ DHA อย่างน้อย 200 มิลลิกรัมต่อวัน น้ำมันปลา กับ น้ำมันตับปลา ต่างกันอย่างไร น้ำมันปลา (Fish Oil) เป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัดเนื้อ หัว หาง และหนังของปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล และปลาทูน่า ซึ่งเป็นแหล่งของกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว อย่างโอเมก้า 3 (Omega […]

เลือดล้างหน้าเด็กคืออะไร ใช่สัญญาณเตือนคุณแม่ตั้งครรภ์จริงหรือเปล่า

เลือดล้างหน้าเด็ก

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง เลือดล้างหน้าเด็กคืออะไร ใช่สัญญาณเตือนคุณแม่ตั้งครรภ์จริงหรือเปล่า หลายๆ คนคงเคยได้ยินว่า ‘เลือดล้างหน้าเด็ก’ คือสัญญาณแรกที่บ่งบอกว่า คุณกำลังตั้งครรภ์ แต่ความเชื่อนี้จริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่ บทความนี้มีคำตอบมาฝากกัน เลือดล้างหน้าเด็ก คืออะไร เลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation bleeding) หรือ เลือดล้างหน้า คือ สัญญาณเตือนเตรียมตั้งครรภ์อีกอย่างหนึ่ง จะเกิดขึ้นเฉพาะกับคุณแม่บางคนเท่านั้น ไม่ใช่คุณแม่ทุกคนที่จะเจอกับอาการนี้ ซึ่งเลือดล้างหน้าเด็กจะเป็นเลือดจาง ๆ ที่ออกมาจากทางช่องคลอด มักจะมาก่อน 1 สัปดาห์ หรือใกล้เคียงกับประจำเดือนรอบถัดไป อาการเลือดล้างหน้าเด็กนี้จะอยู่ประมาณ 1 – 2 วัน เท่านั้น แล้วจะหยุดไปเอง เลือดล้างหน้าเด็กมีความแตกต่างกับเลือดประจำเดือน ทำให้พอจะแยกแยะจากกันได้ 4 อย่างที่เห็นได้ชัดดังนี้ 1.ระยะเวลาที่มีเลือดออก เลือดล้างหน้าเด็กจะไหลออกทางช่องคลอดประมาณ 6-12 วันหรือเฉลี่ย 9 วันหลังไข่ตก ซึ่งจะเท่ากับว่าเลือดล้างหน้ามาเร็วกว่าประจำเดือน โดยจะเป็นช่วง 1 สัปดาห์จนถึงไม่กี่วันก่อนที่ประจำเดือนปกติจะมา ยิ่งถ้ามีเลือดออกใกล้กับวันที่คาดว่าจะเป็นประจำเดือนเท่าไรโอกาสจะยิ่งน้อยที่จะเป็นเลือดล้างหน้าเด็ก 2.ลักษณะเลือดที่ออก เลือดล้างหน้าเด็กจะมีออกมาเพียงเล็กน้อย กะปริดกะปรอยหรือเป็นแค่หยดเลือด เป็นรอยเปื้อนกางเกงใน […]

เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ภัยอันตรายที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม

เบาหวานขณะตั้งครรภ์

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ภัยอันตรายที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม คุณแม่มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ถือเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นอันตรายทั้งต่อตัวคุณแม่ และยังส่งผลกระทบถึงลูกน้อยในครรภ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรต้องระมัดระวัง และดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบมาฝากกัน ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือ Gestational Diabetes เป็นอาการของคุณแม่ที่อาจจะเป็นเบาหวานมาก่อนหรือระหว่างการตั้งครรภ์ สาเหตุเกิดจากภาวะรกในครรภ์ทำการสร้างฮอร์โมนหรือสารเคมีบางอย่าง เรียกว่าภาวะดื้อต่ออินซูลิน และทำให้ไปรบกวนการทำงานของอินซูลิน ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมน้ำตาลในเลือด ระหว่างนี้คุณแม่ต้องเตรียมพร้อมรับมือให้ดี เพื่อรักษาชีวิตของทารกน้อยในครรภ์ เบาหวานขณะตั้งครรภ์มักเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์ แต่บางรายอาจเผชิญภาวะนี้ในช่วง 20 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ โดยภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์มักไม่ก่อให้เกิดอาการใด ๆ ส่วนใหญ่แพทย์จะตรวจพบภาวะดังกล่าวได้จากการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด แต่หญิงตั้งครรภ์บางรายอาจมีอาการกระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ ปากแห้ง และรู้สึกเหนื่อยหากมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งบางอาการค่อนข้างคล้ายคลึงกับอาการของคนตั้งครรภ์ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับอาการที่เผชิญอยู่ เบาหวานขณะตั้งครรภ์ สัญญาณเตือนที่คุณแม่สังเกตได้ คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นที่บอกถึงว่าอาจมีภาวะแทรกซ้อนเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ได้แก่ – ปัสสาวะบ่อยมากกว่าปกติ – มีอาการเหนื่อย อ่อนเพลียตลอดเวลา – การมองเห็นของดวงตาพร่ามัวทั้งสองข้าง – น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ – ริมฝีปากแห้งมาก – รู้สึกกระหายน้ำมาก ดื่มน้ำบ่อย […]

คุณแม่ให้นมลูกกินน้ำอัดลมได้ไหม ส่งผลอันตรายกับลูกน้อยหรือเปล่า

น้ำอัดลม

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง คุณแม่ให้นมลูกกินน้ำอัดลมได้ไหม ส่งผลอันตรายกับลูกน้อยหรือเปล่า น้ำอัดลมต่างๆ เช่น โค้ก เป๊ปซี่ และโซดา เป็นเครื่องดื่มชื่นใจดับกระหายที่ขาดไม่ได้ของใครหลายๆ คน คุณแม่หลายท่านก็คงอยากจิบน้ำอัดลม แต่อาจสงสัยว่า หากกำลังให้นมลูกอยู่ จะสามารถดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ได้หรือไม่ หรือมีข้อควรระวังอะไรหรือไม่ ให้นมลูกกินน้ำอัดลมได้ไหม  ให้นมลูกกินน้ำอัดลมได้ไหม คำตอบคือ ไม่แนะนำ โดยมีสาเหตุจากน้ำอัดลมมีคาเฟอีน และคาเฟอีนสามารถผ่านน้ำนมแม่ไปสู่ลูกน้อยได้ ถึงแม้ว่าจะปริมาณน้อย แต่ก็ส่งผลต่อทารก ทำให้ทารกนอนหลับยาก กระวนกระวาย หงุดหงิด รวมถึงน้ำอัดลมมีน้ำตาลสูง การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ ส่งผลให้น้ำหนักตัวของทั้งแม่และลูกเพิ่มขึ้น และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วน โรคเบาหวาน และฟันผุในอนาคต และที่ไม่ควรดื่มเป็นอย่างยิ่งเพราะน้ำอัดลมไม่มีสารอาหาร ไม่มีวิตามิน ไม่มีเกลือแร่ หรือไม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย การดื่มน้ำอัดลมแทนน้ำเปล่า อาจทำให้แม่ขาดน้ำและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายได้ แก๊สในน้ำอัดลมจะทำให้น้ำนมมีแก๊สตามไหม แม้ว่าน้ำอัดลมจะมีแก๊ส การดื่มน้ำอัดลมก็ไม่ได้ทำให้น้ำนมมีแก๊สตาม เพราะแก๊สในระบบย่อยอาหารของคุณแม่ไม่สามารถส่งผ่านไปถึงน้ำนมลูกได้ สาเหตุที่เด็กทารกมีแก๊สในท้องอาจมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น – ระบบการย่อยอาหารของเด็กทารกยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้เกิดแก๊สเป็นครั้งคราว – ระหว่างร้องไห้หรือดูดนมขวด เด็กทารกจะกลืนอากาศเข้าไปด้วย ทำให้เกิดแก๊สในท้อง – เด็กดูดนมเร็วเกินไป อย่าลืมคำนึงถึงน้ำตาลในน้ำอัดลม น้ำอัดลมส่วนใหญ่มีน้ำตาลเพื่อให้เกิดความหวาน […]

คุณแม่หลังคลอดห้ามดื่มน้ำเย็นจริงหรือเปล่า เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายจริงหรือไม่

คุณแม่หลังคลอด

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง คุณแม่หลังคลอดห้ามดื่มน้ำเย็นจริงหรือเปล่า เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายจริงหรือไม่ อีกหนึ่งความเชื่อชวนฉงน แต่มีคนเชื่อแบบนี้จริง ๆ นะ ก็คือ หลังคลอดห้ามดื่มน้ำเย็น เพราจะทำให้น้ำนมไม่ไหล ดื่มน้ำอุ่นดีกว่า จะทำให้มีน้ำนมมาก ช่วยให้น้ำนมไหลคล่อง แต่ความเชื่อนี้ มีข้อเท็จจริงรองรับมากน้อยแค่ไหน แม่ให้นมบุตรห้ามดื่มน้ำเย็น จริง ๆ หรือเปล่า บทความนี้มีข้อมูลมาฝากกัน หลังคลอดลูกห้ามดื่มน้ำเย็นจริงหรือไม่ เพราะเหตุใด ความจริงตามหลักการแพทย์นั้นไม่มีข้อห้ามไม่ให้คุณแม่ดื่มน้ำเย็นหลังคลอดแต่อย่างใด เพราะเมื่อคนเราดื่มน้ำเข้าไป ร่างกายก็จะปรับอุณภูมิของน้ำให้เท่ากับภายในร่างกายอยู่ดี ดังนั้น  คุณแม่หลังคลอดจึงสามารถดื่มน้ำเย็นได้ตามปกติโดยไม่ต้องกังวลว่าเต้านมจะแข็ง อุดตัน หรือมีน้ำนมน้อย สำหรับความเชื่อเรื่องการห้ามดื่มน้ำเย็นหลังคลอดนั้นอาจเป็นเพราะในสมัยโบราณ น้ำไม่สะอาดจึงต้องมีการต้มให้สุกเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่หลังคลอดนั่นเอง แต่หากเปรียบเทียบระหว่างการดื่มน้ำเย็นและน้ำอุ่นแล้ว การดื่มน้ำอุ่นย่อมมีข้อดีมากกว่า เพราะน้ำอุ่นจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะและเซลล์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น อีกทั้งทำให้ร่างกายของคุณแม่ฟื้นฟูเร็วขึ้น และบรรเทาอาการหนาวในหลังคลอดได้เป็นอย่างดี ทำไมหลังคลอดลูกห้ามดื่มน้ำเย็น หลังคลอดลูก คุณแม่หลายคนอาจได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่หรือแพทย์ให้หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น ความเชื่อนี้มีทั้งที่มาจากวัฒนธรรมและเหตุผลทางการแพทย์ ดังนี้ – ความเชื่อพื้นบ้าน ในหลายวัฒนธรรม โดยเฉพาะในเอเชีย มีความเชื่อว่าหลังคลอดร่างกายของผู้หญิงจะอ่อนแอและบอบบาง การดื่มน้ำเย็นอาจทำให้เกิดอาการไม่สบาย เช่น ปวดท้อง หรือหนาวสั่นได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการฟื้นตัว  – […]

ร้อนขนาดนี้ทำยังไงดี? วิธีคลายร้อนของคุณแม่ตั้งครรภ์

วิธีคลายร้อนของคุณแม่ตั้งครรภ์

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง ร้อนขนาดนี้ทำยังไงดี? วิธีคลายร้อนของคุณแม่ตั้งครรภ์ แม่ท้องหลายคนพอตั้งครรภ์ได้นานหลายเดือน ยิ่งอายุครรภ์เติบโตมากเท่าไรและบวกกับสภาวะอากาศที่ร้อนอบอ้าวมากขึ้นทุกวันแบบนี้ ไม่เว้นแม้แต่หน้าฝนด้วยแล้ว ยิ่งทำให้สุขภาพจิตใจคุณแม่เกิดอาการหงุดหงิดกันบ่อยๆ ในบทความนี้มีวิธีคลายร้อนมาฝากกัน  เพราะอะไร คนท้องถึงขี้ร้อน และมีเหงื่อออกมาก  ร้อนไม่ไหว แบบที่เหงื่อออกทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยสาเหตุที่คนท้องขี้ร้อน และมีอุณหภูมิในร่างกายสูง และมีเหงื่อออกมากกว่าปกติ เรียกได้ว่า เหงื่อออกทั้งกลางวัน และกลางคืน ทั้ง ๆ ที่เปิดแอร์เย็นแล้ว ซึ่งเหตุผลของสิ่งเหล่านี้ เป็นเพราะว่า ร่างกายคนท้อง นั้นมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของ ฮอร์โมน ในร่างกายบางตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ร่างกายของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ มีปริมาณเลือดในร่างกายที่เพิ่มมากขึ้นขึ้น รวมไปถึงหลอดเลือดมีการขยายตัว เพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงลูกน้อยในครรภ์ นั่นเอง โดยจะส่งผลให้ ร่างกายคนท้อง มีอุณหภูมิที่สูงกว่าคนทั่วไป และมีอาการเหงื่อออก ร้อนกว่าคนปกติเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เป็นเพราะกลไกในการทำงานของร่างกาย ที่จำเป็นต้องขับเหงื่อออกมานั่นเอง นอกจากนี้ ร่างกายของคนท้อง ยังมีความเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะทั้งต่อมไทรอยด์ที่ทำงานเพิ่มขึ้น รวมไปถึงร่างกาย ที่ต้องการ การเผาผลาญพลังงานเยอะมากขึ้น โดยจะมีผลทำให้แม่ท้องจะหิวบ่อย กินเผื่อลูกอยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้ร่างกายพร้อมสร้างอวัยวะต่าง ๆ ของลูกน้อย ให้เติบโตได้อย่างแข็งแรงสมบูรณ์นั่นเอง วิธีคลายร้อนของคุณแม่ตั้งครรภ์ […]

เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ปวดหัวไมเกรน จะทำอย่างไรดี ทานยาได้ไหม อันตรายต่อทารกในครรภ์ไหม

คุณแม่ตั้งครรภ์ปวดหัวไมเกรน

บทความขอนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ปวดหัวไมเกรน จะทำอย่างไรดี ทานยาได้ไหม อันตรายต่อทารกในครรภ์ไหม ร่างกายของแม่ท้องจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ความดัน และเกิดอาการหลายอย่างที่สร้างความกังวลใจ ไม่ว่าจะเป็น เบื่ออาหาร เหม็น อารมณ์แปรปรวน เต้านมขยาย คลื่นไส้ รวมถึงปวดศีรษะบ่อย และถ้าปวดหัวไมเกรนร่วมด้วย สามารถทานยาได้ไหม อันตรายไหม บทความนี้มีมาฝากกัน อาการปวดหัวในคนท้อง คนท้องกับอาการปวดหัวถือว่าเป็นเรื่องปกติ พบได้บ่อย โดยส่วนใหญ่จะมีอาการคล้าย ๆ กับไมเกรน แต่บางครั้งก็รุนแรงกว่า ลักษณะอาการมีดังนี้ คนท้องจะมีอาการปวดหัวข้างเดียว อาจจะเป็นปวดหัวซ้ายหรือปวดหัวข้างขวา หรือในบางครั้งก็ปวดหัวทั้งสองข้าง ตลอดจนมีอาการมึนหัว ไวต่อสิ่งเร้า เวียนหัว หรือคลื่นไส้ร่วมด้วย อย่างไรก็ดี อาการปวดหัวในคนท้อง อาจจะพบได้บ่อยในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ฉะนั้นในช่วงไตรมาส 3 หรือ 2 คุณแม่ตั้งครรภ์จำเป็นจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ สาเหตุของไมเกรนในคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์อาจต้องประสบภาวะปวดศีรษะได้ตลอดเวลา บางครั้งอาจเป็นภาวะปวดไมเกรน หรือปวดศีรษะธรรมดา แต่บางกรณีอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคภัยอื่นๆ โดยเฉพาะภาวะครรภ์เป็นพิษได้ ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ควรทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดไมเกรน ดังนี้ สาเหตุที่ทำให้ คนท้องปวดหัว […]

คุณแม่ตั้งครรภ์ว่ายน้ำ ช่วยเสริมพัฒนาการทารกในครรภ์และยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย

คุณแม่ตั้งครรภ์ว่ายน้ำ

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง คุณแม่ตั้งครรภ์ว่ายน้ำ ช่วยเสริมพัฒนาการทารกในครรภ์และยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย แม่ท้องออกกำลังกายในน้ำช่วยเสริมพัฒนาการทารกในครรภ์ทารกในครรภ์รู้สึกได้ว่าแม่กำลังเคลื่อนไหว เคลื่อนตัวอย่างอิสระเหมือนที่ลูกในท้องก็กำลังว่ายน้ำอยู่ในน้ำคร่ำของแม่เช่นกัน ซึ่งหลายๆ ครั้งเมื่อแม่ว่ายน้ำ ทารกในครรภ์ก็จะขยับตัวเคลื่อนไหวตามไปด้วย เหมือนออกกำลังกายไปพร้อมแม่เช่นกัน  คนท้องว่ายน้ำได้ไหม  จริง ๆ แล้วการว่ายน้ำถือเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะ กับคนท้องมาก ๆ เลยล่ะค่ะ สามารถทำได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากน้ำจะช่วยพยุงน้ำหนักของคนท้อง ทำให้ไม่ต้องแบกน้ำหนักเยอะ ๆ เรียกได้ว่ามีน้ำคอยซัพพอร์ตอยู่ แถมยังไม่ได้ร้อน หรือ เหนื่อยหอบ เป็นการออกกำลังกายที่เย็นสบาย บางครั้งคนท้องออกกำลังกายในสระว่ายน้ำ ที่น้ำมีอุณหภูมิสูง สามารถทำได้เช่นเดียวกัน  โดยให้ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ประมาณ 27-33 องศาเซลเซียส ไม่ควรจะเกินกว่านั้น แม่ท้องว่ายน้ำมีข้อดีอะไรบ้าง 1.ลดแรงกระแทก อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่า การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับคนท้อง เพราะน้ำจะช่วยรองรับน้ำหนัก ช่วยพยุงและลดแรงกระแทกของข้อต่อและกล้ามเนื้อ จึงถนอมร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยลดอาการบวมตามมือและเท้าอีกด้วย 2.ลดอาการปวดเมื่อย ในช่วงที่คุณแม่เริ่มท้องโตขึ้นเรื่อย ๆ มักจะมีอาการปวดเมื่อยตามตัวพ่วงเข้ามาด้วย การว่ายน้ำนั้นสามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยเหล่านี้ได้ โดยการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณช่วงเอวและแผ่นหลัง 3.ช่วยควบคุมน้ำหนัก แน่นอนว่าการว่ายน้ำถือเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ดังนั้นก็ช่วยเผาผลาญพลังงานได้เช่นเดียว กับการออกกำลังกายแบบอื่น ๆ การว่ายน้ำสามารถช่วยเบิร์นแคลอรี่ และช่วยควบคุมน้ำหนักของคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ ใครไม่อยากน้ำหนักเกินเกณฑ์ […]

ห้ามคนท้องไปงานศพ ความเชื่อของโบราณ  ไปแล้วจะโชคร้ายจริงหรือเปล่า 

ห้ามคนท้องไปงานศพ

บทความนี้ขอแนะนำ ห้ามคนท้องไปงานศพ ความเชื่อของโบราณ  ไปแล้วจะโชคร้ายจริงหรือเปล่า อย่างที่เรารู้กันดีว่าความเชื่อของโบราณมีมากมายหลายแบบเป็นกุศโลบายที่ป้องกันสิ่ง ไม่ดีที่จะเกิดขึ้นกับเรา ดังนั้นหากเราะจะเชื่อและทำตามความเชื่อของโบราณเอาไว้บ้างก็คงจะดี โดยเฉพาะคนที่กำลังตั้งท้อง มีหลายสิ่งที่คนโบราณมักจะเตือนหรือห้ามทำ เพราะเชื่อว่าจะเป็นผลกระทบที่ไม่ดีต่อคุณแม่และลูกในท้องได้ โบราณว่า ห้ามคนท้องไปงานศพ คนโบราณว่าไว้ห้ามคนท้องไปงานศพ เป็นความเชื่อที่ว่าคนท้องไม่ควรไปงานศพ เพราะคนสมัยก่อนมองว่างานศพเป็นงานที่มีแต่ความโศกเศร้า ซึ่งจะทำให้คนท้องที่ไปงานเกิดความหดหู่ อีกทั้งมีความเชื่อว่าจะเกิดสิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้าย ขึ้นกับทารกในครรภ์ได้ อาจมีวิญญาณมาอาศัยเกิด หรือวิญญาณเร่ร่อนที่อยู่ในวัดตามกลับบ้านมา หรือบางความเชื่อก็ว่า เด็กที่อยู่ในท้องจะถูกวิญญาณของผู้ตายหลอกล่อเอาไปอยู่ด้วย เพราะเด็กที่อยู่ในท้องนั้นยังไม่รู้อะไร ง่ายต่อการถูกผีชักชวนไปอย่างไรก็ได้ หรืออีกประการหนึ่งคือเด็กในท้องอาจจะถูกวิญญาณของผู้ตายนั้นทำร้ายเอา เมื่อเกิดมาจะทำให้เด็กพิการหรือไม่สมประกอบ แต่ความจริงแล้วในเรื่องนี้น่าจะเป็นกุศโลบายของคนเฒ่าคนแก่ที่ไม่ต้องการให้คนท้องไปงานที่มีบรรยากาศหดหู่ เศร้าหมอง ที่อาจทำให้รู้สึกไม่ดีส่งผลต่ออารมณ์ของลูกในท้อง อีกทั้งในสมัยก่อนการจัดงานศพต้องเดินทางตอนกลางคืน ซึ่งอาจไม่ได้เป็นที่วัด บางหมู่บ้านอาจจะไปเผากลางป่า หรือในป่าช้าที่ต้องเดินไปไกล มีการเดินทางลำบาก หากคนท้องเดินหกล้มก็จะเป็นอันตราย โดยเฉพาะคนท้องแก่ใกล้คลอด หากเกิดเจ็บท้องคลอดกลางทางก็จะยิ่งลำบาก เพราะการแพทย์สาธารณสุขในสมัยก่อนยังไม่เจริญเท่าในปัจจุบันที่สามารถมาถึงตัวผู้ป่วยได้รวดเร็วกว่า อีกประการเป็นเพราะว่าร่างกายในขณะตั้งครรภ์มีภูมิต้านทานต่ำ อาจทำให้รับเชื้อโรคที่เกิดจากฝุ่นเถ้าตะกอนที่สูดดมเข้าไป เป็นอันตรายต่อแม่และทารกในครรภ์ได้ คนท้องจำเป็นต้องไปงานสีดำ ทำยังไงดีให้ไม่จิตตก หากจะทำในแง่ของการแก้เคล็ด คนโบราณก็จะแนะนำว่าคนท้องที่จำเป็นต้องไปงานศพนั้นควรจะติดเข็มกลัดไว้ที่เสื้อในบริเวณหน้าท้อง เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาทำอันตรายต่อครรภ์ ป้องกันไม่ให้วิญญาณหรือสัมภเวสีมาทำร้ายทารกในครรภ์ แต่ถ้าจะทำในแง่สัจธรรมของชีวิต คุณแม่ควรจะเข้าใจความเป็นไปของโลกนี้ว่าทุกคนเกิดมาล้วนต้องตายจากกันไป ทำใจให้ปลงและมองเห็นความจริงของชีวิต เศร้าได้ เสียใจได้ แต่ต้องไม่ลืมตนว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ และจำเป็นจะต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ […]

คนท้องนวดได้ไหม นวดแล้วมีอาการยังไงบ้าง จะเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์หรือไม่

คนท้องนวดได้ไหม

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง คนท้องนวดได้ไหม นวดแล้วมีอาการยังไงบ้าง จะเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์หรือไม่ ด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น และหน้าท้องที่ขยายตัว ทำให้ทั้งขา และหลังของคุณแม่ต้องรับบทบาทที่หนักยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกอยากที่จะไปนวดผ่อนคลาย ตามศูนย์บริการนวดเพื่อสุขภาพ แต่ก็มีคำถามว่าคนท้องสามารถนวดได้หรือเปล่า จะอันตรายต่อทารกในครรภ์ไหม บทความนี้มีคำตอบ คุณแม่ตั้งครรภ์ปวดเมื่อย เพราะสรีระเปลี่ยน ในช่วงตั้งครรภ์ มดลูกที่อยู่บริเวณท้องน้อยจะขยายใหญ่ขึ้นมาก น้ำหนักจะทิ้งลงมาข้างหน้า ร่างกายจึงพยายามชดเชย โดยเลื่อนจุดศูนย์ถ่วงของร่างกาย มาทางด้านหลัง ทำให้หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่เดินหลังแอ่น ประกอบกับข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกายหลวมขึ้น เนื่องจากการแบ่งปันคอลลาเจนในร่างกายไปสู่ครรภ์ ทำให้ท่าทางของร่างกายเปลี่ยนไป จึงมักมีอาการปวดหลังมาก จนอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความเครียดสะสมสำหรับคนท้อง โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ช่วงอายุครรภ์ 7 – 9 เดือน ที่จะทำให้เกิดความเหนื่อยล้า ของกล้ามเนื้อมากยิ่งขึ้น อาจจะมีอาการปวดขา หรืออ่อนแรงบริเวณแขนร่วมด้วยได้  คนท้องนวดได้ไหม นวดผ่อนคลาย ดีอย่างไร ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า การนวดคืออะไร ซึ่งการนวด (Massage) คือ  การรักษาหรือบำบัดอาการด้วยมือ (Hand Management) แต่ความหมายโดยรวมของการนวด ก็คือ การใช้มือกระทำอย่างเป็นระบบตามหลักวิทยาศาสตร์ต่อเนื้อเยื่อของร่างกาย หากคนท้องนวดผ่อนคลาย นั้นจะดีต่อระบบประสาท […]