ผ้าห่มเด็ก เลือกผ้าห่มแบบไหนที่เหมาะสมและใช่สำหรับลูกน้อยของคุณ

ผ้าห่มเด็กเลือกผ้าห่มแบบไหนที่เหมาะสม

บทความนี้ขอแนะนำ “ผ้าห่มเด็ก เลือกผ้าห่มแบบไหนที่เหมาะสมและใช่สำหรับลูกน้อยของคุณ” ผ้าห่มเด็ก ผ้าห่มทารก ใครว่าไม่สำคัญ โดยเฉพาะเด็กจะมีผิวบอบบาง และแพ้หรือระคายเคืองได้ง่ายซึ่งควรจะต้องมีผ้าห่มที่เหมาะกับเด็กโดยเฉพาะ ทั้งวัสดุที่ใช้ในการผลิตและการถักทอตัดเย็บที่จะไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อผิวเด็ก และควรเลือกแบบไหนที่จะเหมาะสมกับลูกน้อยบทความนี้มีคำตอบมาฝากกัน  ผ้าห่มเด็กจำเป็นมากขนาดไหน ถึงแม้ว่าบ้านเรานั้นจะเป็นเมืองที่มีอากาศค่อนข้างร้อนก็จริง แต่ในยุคนี้หลาย ๆ บ้านนิยมติดเครื่องปรับอากาศกันมาก ผ้าห่มก็ยังจำเป็นสำหรับคุณหนู ๆ ทั้งหลายอยู่ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้เด็กน้อยจะได้ไม่ป่วยเป็นหวัดเมื่อนอนหลับอยู่ในห้องปรับอากาศ ซึ่งผ้าห่มเด็กมีความจำเป็นสำหรับทารกน้อย คือ ให้ความอบอุ่น ให้ความรู้สึกปลอดภัย และไม่ต้องแปลกใจเลยว่าผ้าห่มผืนแรกจะเป็นไอเท็มโปรดของเด็กน้อยไปตลอด เพราะผู้ใหญ่แต่ละคนก็มีผ้าห่มผืนโปรดของตัวเองเช่นกัน เหล่าคุณแม่หรือคนที่เคยเลี้ยงเด็กมักจะเข้าใจดีว่าคุณหนู ๆ บางคนนอนดิ้นมาก บางทีนอนทับผ้าห่มจะจับขยับตัวก็กลัวจะตื่น ก็เลยจำเป็นต้องมีผ้าห่มหลาย ๆ ผืนไว้สำรองด้วย ประเภทของผ้าห่มเด็กเล็ก 1.ผ้านวม เป็นผ้าห่มที่ให้ความหนานุ่มและคงตัวอยู่เสมอ 2.ผ้าขนสัตว์ แนะนำให้ใช้ในช่วงฤดูหนาวเพราะเด็กยังมีการควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้อย่างไม่สมบูรณ์และไม่ควรให้เด็กได้รับความร้อนขณะนอนมากเกินไป 3.ผ้าสำลี เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยเพราะระบายอากาศได้ดี ทำความสะอาดง่าย 4.ผ้าไม้ไผ่ มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น ช่วยดูดซับความชื้นได้ดี 5.ผ้าฝ้าย ซักทำความสะอาดง่าย ยิ่งซักยิ่งนุ่ม วิธีเลือกผ้าห่มสำหรับเด็ก แบบไหนถึงเหมาะสม สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังกังวลใจเกี่ยวกับการเลือกผ้าห่มให้กับลูกน้อยของคุณว่าควรเลือกแบบไหนดี ขนาดเท่าไหร่ หรือมีน้ำหนักเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม เราได้รวมเทคนิคในการเลือกผ้าห่มมาให้ค่ะ เผื่อว่าจะลองนำไปปรับใช้กัน 1.เลือกเนื้อผ้า ผ้าที่ถูกนำมาเป็นวัสดุในการทำผ้าห่มนั้นมีมากมายหลายรูปแบบ […]

เนอสเซอรี่ ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสม และปลอดภัยกับลูกน้อย

เนอสเซอรี่ ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสม

บทความนี้ขอแนะนำ “เนอสเซอรี่ ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสม และปลอดภัยกับลูกน้อย” การมองหาเนอสเซอรี่ ที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ปกครองอาจเป็นเรื่องยาก เพราะมีหลายปัจจัยที่ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม ทำเลที่ตั้ง ราคาที่สมเหตุสมผลและสอดคล้องกับฐานะของที่บ้าน ระบบรักษาความปลอดภัย ความเชี่ยวชาญของบุคลากร ชั่วโมงที่รับฝาก เป็นต้น เพื่อให้แน่ใจว่าลูกน้อยจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมมากที่สุด เนอสเซอรี่ คืออะไร เนอสเซอรี่ (Nursery) หรือเดย์แคร์ (Day care) เป็นสถานที่รับฝากเด็กเล็กหรือเด็กก่อนวัยเรียนในช่วงกลางวัน มีทั้งการดูแลเป็นรายวันและรายเดือน โดยมีค่าใช้จ่ายแตกต่างไปในแต่ละสถานที่ ราคาอาจขึ้นอยู่กับระยะเวลา ทำเลที่ตั้งของเนอสเซอรี่ อาหารสำหรับเด็ก โปรแกรมการดูแล ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่ประจำอยู่ที่ศูนย์ คุณภาพของบุคลากร เป็นต้น ข้อดีและข้อเสียของการส่งลูกไป เนอสเซอรี่ ข้อดี – สะดวกต่อคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องทำงานและไม่สามารถเลี้ยงลูกเองได้ – เนอสเซอรี่หลายที่มีเวลารับฝากที่ยืดหยุ่นและอาจให้บริการในเวลาหลังเลิกงาน จึงช่วยให้     คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดการกับเวลาส่วนตัวได้สะดวกขึ้น – ลูกจะได้ฝึกทักษะการเข้าสังคมกับเด็กในวัยใกล้เคียงกัน – ลูกได้รับการเสริมสร้างพัฒนาการที่เหมาะสมจากบุคลากรที่มีประสบการณ์ ข้อเสีย – การฝากลูกให้เนอสเซอรี่ช่วยเลี้ยงทำให้ลูกต้องอยู่ไกลหูไกลตาคุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัว และคุณพ่อคุณแม่อาจไม่สามารถตรวจสอบความเป็นอยู่ของลูกได้ตลอดเวลา ทั้งยังเป็นไปได้ที่ลูกจะได้รับบาดเจ็บ ถูกรังแก […]

วิธีดูแลเด็กบนรถ เมื่อต้องเดินทางไกล ให้ปลอดภัยที่สุดและนั่งอยู่ในรถอย่างมีความสุข

วิธีดูแลเด็กบนรถ

บทความนี้ขอแนะนำ “วิธีดูแลเด็กบนรถ เมื่อต้องเดินทางไกล ให้ปลอดภัยที่สุดและนั่งอยู่ในรถอย่างมีความสุข” พ่อแม่ทุกคนต่างเคยประสบปัญหาเวลาเดินทางไปเที่ยว แต่ลูก ๆ กลับไม่มีความสุข พวกเขาเอาแต่ร้องไห้และไม่ยอมนั่งอยู่เฉยๆ สิ่งนี้นับเป็นเรื่องปกติ เพราะแม้กระทั่งสำหรับผู้ใหญ่เอง การที่ต้องนั่งอยู่ในรถเป็นเวลานานๆ ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดได้เช่นกัน ต่างตรงที่ว่า เด็กๆ ที่ไม่ยอมอยู่นิ่งๆ สามารถทำให้ผู้ขับเสียสมาธิและอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ แต่การจะทำให้เด็ก ๆ นั่งนิ่ง ๆ ได้นั้นจะมีวิธีไหนบ้างนั้น บทความนี้มีข้อมูลมาฝากกัน วิธีดูแลเด็กบนรถ เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด เมื่อต้องเดินทาง และต้องพาเจ้าตัวน้อยเดินทางไปด้วย การเดินทางครั้งนี้อาจแตกต่างไปจากเดิม เพราะเด็กเล็กเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากกว่าที่คิด และเพื่อการเตรียมรับมืออย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีความปลอดภัยตลอดการเดินทาง เราจึงมีวิธีที่อยากให้ผู้ปกครองลองอ่านเพื่อเตรียมตัวกันก่อน ได้แก่ เตรียมความพร้อมของคน และรถ, ศึกษาเส้นทางก่อน, ตรวจสอบอุปกรณ์ให้พร้อม, ต้องมีผู้ใหญ่คอยดูแลเด็กเสมอ, ไม่ควรนำเด็กมานั่งตักขณะขับรถ, ระวังสิ่งของบนรถ และให้ลูกทำกิจกรรมดึงดูดความสนใจ 1. เตรียมความพร้อมของคน และรถก่อนเสมอ เป็นการเตรียมตัวของคนขับ และผู้ที่จะนั่งโดยสารไปด้วย เช่น คนขับควรพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรนอนดึก เพื่อไม่ให้เกิดความง่วงจนเสี่ยงอุบัติเหตุ หากเป็นการเดินทางไกลผู้ที่นั่งไปด้วยก็ควรพักผ่อนให้เต็มที่ เผื่อสลับกันขับเพื่อลดความอ่อนล้า หากขับได้คนเดียว ก็ควรวางแผนการเดินทางให้ดี ควรมีจุดแวะพักตามปั๊มน้ำมันตามความเหมาะสม […]

เรื่องน่ากลัวสำหรับเด็ก ที่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม เพราะอาจจะกระทบปัญหาทางด้านจิตใจได้

เรื่องน่ากลัวสำหรับเด็ก ที่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม

บทความนี้ขอแนะนำ “เรื่องน่ากลัวสำหรับเด็ก ที่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม เพราะอาจจะกระทบปัญหาทางด้านจิตใจได้” เมื่อลูกเกิดความกลัว ร้องไห้ งอแง คงเป็นสิ่งที่ดีหากผู้ปกครองจะระวัง เรื่องน่ากลัวสำหรับเด็ก ที่อาจมองข้ามไป หลายอย่างสำหรับผู้ใหญ่อาจไม่มีอะไร แต่สำหรับเด็กกลับกลายเป็นสิ่งน่ากลัวจนฝังใจไปแล้ว จนกลายเป็นกรอบที่ใหญ่ขึ้นจนบดบังความกล้าแสดงออก และแรงบันดาลใจในการแสดงความสามารถภายในตัวของลูกไป เรื่องน่ากลัวสำหรับเด็ก ที่อาจจะมีแต่เรื่องใกล้ตัว ชีวิตในช่วงวัยเด็กลำบากกว่าที่คิด เพราะด้วยประสบการณ์ที่น้อย อ่อนต่อโลก ทำให้มีความเข้าใจในสิ่งรอบตัวน้อยมาก เวลาเจออะไรที่ตนเองไม่รู้จัก ไม่เข้าใจต่ออะไรก็มักจะมีความกลัวเข้ามาก่อนเสมอ ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ได้ทำความเข้าใจ และหันกลับมาพูดคุยและให้เหตุผลกับลูกแทนการห้าม การดุ ก็อาจจะส่งผลดีกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติของลูกได้มากกว่าเดิม  และการให้เหตุผลของพ่อแม่ก็จะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผล และมีความสมดุลทางอารมณ์ ซึ่งปัญหาเรื่องความกลัวของลูกนั้น อาจจะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เล็กน้อยสำหรับผู้ใหญ่เลยก็ได้ ซึ่งเรื่องที่ลูกกลัวอาจจะมีเรื่องดังต่อไปนี้ 1. กลัวการถูกทิ้ง พ่อแม่ไม่รัก การที่ต้องอยู่กับคุณพ่อคุณแม่มาตลอดชีวิต ความผูกพันเริ่มตั้งแต่ยังเป็นทารกในครรภ์แล้ว และเรียนรู้จดจำคนที่เป็นพ่อแม่ได้ตอนเป็นทารก เมื่อโตขึ้นเขาจะเข้าใจว่าพ่อแม่ คือ บุคคลที่สามารถไว้ใจได้ ปกป้องตนเองได้ ทำให้เกิดความกลัวว่าหากวันหนึ่งพ่อแม่ไม่รัก หรือถูกทิ้งขึ้นมาจะทำอย่างไร มีความกลัวเพราะว่าไม่สามารถรับมือสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง และไม่มีที่พึ่งในยามที่ตนเองกลัว หรือพบเจอสิ่งไม่ดี อย่างไรก็ตามความคิดนี้จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อลูกมีอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เด็กบางคนก็อาจฝังใจ หากเคยถูกพ่อแม่ทอดทิ้งมาก่อนเช่นกัน 2.ความมืด […]

ที่ดูดน้ำมูกเด็กและทารก ใช้อย่างไรแบบไหนดี ถึงจะปลอดภัยต่อลูกน้อย

ที่ดูดน้ำมูกเด็กและทารก ใช้อย่างไร

บทความนี้ขอแนะนำ “ที่ดูดน้ำมูกเด็กและทารก ใช้อย่างไรแบบไหนดี ถึงจะปลอดภัยต่อลูกน้อย” เมื่อเริ่มเป็นหวัด มักมีอาการน้ำมูกไหลตามมา สำหรับผู้ใหญ่การสั่งน้ำมูกไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่สำหรับเด็ก โดยเฉพาะทารกตัวน้อย การมีน้ำมูกมาก ๆ ส่งผลให้หายใจไม่สะดวก   ดังนั้นเราจึงขอแนะนำตัวช่วย อย่างที่ดูดน้ำมูกเด็กที่จะช่วยให้การดูแลลูกน้อยในยามเจ็บป่วยนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น   ที่ดูดน้ำมูกเด็ก จำเป็นหรือไม่ เด็กเล็กนั้นไม่สามารถที่จะสั่งน้ำมูกได้ด้วยตนเอง ทำให้หายใจไม่ออก เนื่องจากมีน้ำมูกอุดตันในโพรงจมูกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้น้ำมูกที่อุดตัน ยังเป็นสาเหตุของอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา เช่น ทำให้ทารกไม่ยอมดูดนม พักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเป็นต้น ดังนั้น ที่ดูดน้ำมูกเด็ก จึงกลายเป็นอุปกรณ์จำเป็นอีกหนึ่งอย่าง ที่จะช่วยให้คุณแม่กำจัดน้ำมูกของลูกออกได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย  ที่ดูดน้ำมูกมีกี่ประเภท 1.ที่ดูดน้ำมูกแบบมือ  สำหรับที่ดูดน้ำมูกประเภทนี้ ถือเป็นที่ดูดน้ำมูกแบบคลาสสิกที่สุด ซึ่งจะทำมาจากซิลิโคน มีลักษณะคล้ายลูกบอลแล้วก็มีปลายยาว ๆ ซึ่งคุณสมบัติของที่ดูดน้ำมูกประเภทนี้จะสามารถปรับแรงดูดให้เหมาะสมได้ด้วยมือของผู้ใช้งานเอง สามารถกำจัดน้ำมูกได้อย่างอ่อนโยน แถมยังหาซื้อได้ง่าย และราคาไม่แพงอีกด้วย 2.เครื่องดูดน้ำมูกชนิดสายยาง  ที่ดูดน้ำมูกชนิดสายยาง ถูกออกแบบเพื่อขจัดปัญหาของการดูดช่วงสั้นในที่ดูดน้ำมูกแบบลูกยางและยังลดแรงดูดที่มากเกินไปในลูกยาง โดยใช้การดูดจากปากของแม่ซึ่งจะมีความต่อเนื่องกว่า สามารถควบคุมแรงดูดด้วยตนเอง น้ำมูกที่ถูกดูดออกมาจะถูกแยกเก็บใส่ขวด ง่ายต่อการมองเห็นและทำความสะอาด น้ำมูกจะไม่ไหลย้อนกลับ ปลายซิลิโคนนิ่ม ไม่ทำให้ลูกน้อยเจ็บโพรงจมูก 3.ที่ดูดน้ำมูกไฟฟ้า หรืออัตโนมัติ  สำหรับที่ดูดน้ำมูกประเภทนี้จะใช้งานโดยพลังงานแบตเตอรี่ […]

อาหารเป็นพิษในเด็ก อาการเป็นอย่างไร เกิดจากอะไร และรักษาอย่างไรดี

สารพันปัญหา แม่และเด็ก

บทความนี้ขอแนะนำ “อาหารเป็นพิษในเด็ก อาการเป็นอย่างไร เกิดจากอะไร และรักษาอย่างไรดี” อาหารเป็นพิษเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราเองอาจประสบได้บ่อย ๆ ยิ่งลูกน้อยแล้วอาการแบบนี้อาจเกิดขึ้นได้ และอาจรุนแรงกว่าที่เราต้องเผชิญ เพราะเด็กเล็กเขาทนภาวะขาดน้ำได้ไม่มากเท่าเรา อาหารเป็นพิษมีอาการอย่างไรบ้าง และคุณพ่อคุณแม่จะรับมืออย่างไรดี มีข้อมูลมาฝากกัน อาหารเป็นพิษ  คืออะไร? อาหารเป็นพิษ  คือ โรคที่มีการอักเสบของกระเพาะอาหาร และลำไส้ จากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส ที่ปนเปื้อนในอาหาร และน้ำดื่ม โดยอาการมักเกิดขึ้นหลังจากทานอาหารไม่นานนัก อาหารเป็นพิษในเด็กเกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดจากการทานอาหารที่ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ ปรุงไม่ถูกวิธี หรือทานอาการที่มีสารปนเปื้อน ในบางคนนั้นอาจจะมีอาการภายใน 1-2 ชั่วโมง แต่สำหรับบางคนนั้นก็ประมาณ 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับว่ามีเชื้อโรคมากน้อยเพียงใด อาหารทะเลเป็นอาหารที่มีสารปนเปื้อนมากที่สุด เมื่อนำมาทำเป็นอาหารแล้วทำไม่ถูกวิธีก็ทำให้สามารถ เป็นอาหารเป็นพิษได้เช่นกัน สาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษที่พบได้บ่อย อาหาร ซึ่งเป็นตัวการก่อให้เกิด โรคอาหารเป็นพิษ มากที่สุดได้แก่ – เนื้อสัตว์ ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ หรือวางทิ้ง ไว้ข้างนอกนานเกินไป – หอย […]

อันตรายจากน้ำอัดลมต่อเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกทานมากจนเกินไป

สารพันปัญหา แม่และเด็ก

บทความนี้ขอแนะนำ “อันตรายจากน้ำอัดลมต่อเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกทานมากจนเกินไป” น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในคนทุกวัย เพราะมีรสชาติหวาน ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น แต่ถ้าหากลูกติดน้ำอัดลมมากเกินไป จะส่งผลเสียต่อร่างกายและด้านพัฒนาการของลูกด้วย ซึ่งผลเสียจากการดื่มน้ำอัมลมมากเกินไปมีอะไรบ้างนั้นไปดูกัน น้ำอัดลม คืออะไร? น้ำที่ถูกอัดลม หรือน้ำที่ถูกผสมด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbonated soft drinks) ที่ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโดยใช้แรงดัน ซึ่งวิธีการต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เกิดฟองอากาศขนาดเล็ก ทำให้เวลาเราเทดื่มนั้นมีฟองฟู่ขึ้นมา และนอกจากการเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว น้ำอัดลมบางชนิดยังมีการเติมแต่งสารชนิดอื่น ๆ เข้าไปด้วย เช่น โซเดียม คลอไรด์ โซเดียมคาร์บอนเนต เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วน้ำอัดลมนั้นจะมีรสหวาน และไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลมส่งผลเสียกับเด็กอย่างไรบ้าง 1.โรคอ้วนในเด็ก ในน้ำอัดลมนั้นเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลอยู่เป็นจำนวนมาก และไม่มีสารชนิดอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเรา โดยน้ำตาลในน้ำอัดลมนั้นคือซูโครสซึ่งทำให้การดื่มน้ำอัดลมในแต่ละครั้งทำให้เด็ก ๆ บริโภคน้ำตาลมากเกินความจำเป็น ซึ่งการดื่มน้ำอัดลมมากจนเกินไป ทำให้พวกเขามีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เป็นเหตุทำให้มีน้ำหนักขึ้น และเกิดเป็นโรคอ้วนในเด็ก หรือเบาหวานได้  2.ส่งผลให้เด็กฟันผุ  เนื่องจากน้ำอัดลมเกิดจากการนำน้ำมาผสมกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นกรดคาร์บอนิก ซึ่งกรดเหล่านี้จะไปทำลายฟลูออไรด์ที่เคลือบฟัน จึงทำให้ฟันของเด็กเกิดความอ่อนแอลง นั่นจึงเสี่ยงต่อการทำให้เกิดฟันผุ อีกทั้งยังก่อให้เกิดอาการเสียวฟันอีกด้วย  3.สูญเสียแคลเซียม  คาเฟอีนมีผลต่อการขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสสูญเสียแคลเซียมจากร่างกายโดยไม่จำเป็น ทำให้เกิดภาวะกระดูกผุ […]

ลูกน้อยหวงของ คุณพ่อคุณแม่ควรรับมืออย่างไรดี

สารพันปัญหา แม่และเด็ก

บทความนี้ขอแนะนำ “ลูกน้อยหวงของ คุณพ่อคุณแม่ควรรับมืออย่างไรดี” อาการหวงของของเด็ก เป็นเพราะว่า ตัวเขาเองยังเด็ก ยังไม่รู้ถึงความต้องการของผู้อื่นอีกทั้งยังไม่สามารถทำความเข้าใจกับอารมณ์ของตนเองได้ดี เด็กบางคนหวงของมากขนาดที่ใครก็จับไม่ได้เลย การหวงของถึงจะเป็นปกติของเด็กทุกคน แต่ผู้ปกครองก็ไม่ควรจะละเลยการแก้ปัญหาโดยสอนให้ลูกรู้จักแบ่งปัน แต่จะมีวิธีให้แก้ปัญหาข้อนี้ได้บ้างบทความนี้มีข้อมูลมาฝากกัน อาการหวงของ เป็นแบบไหน เด็กที่มีอาการหวงของนั้น มักจะไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวาย หรือมาแตะของ ๆ ตัวเอง หรือของเล่นที่ตัวเองชอบ แถมยังไม่ยอมแบ่งของเล่นให้คนอื่น ๆ เล่นอีกด้วย โดยปกติ อาการหวงของมีอยู่ด้วยกันหลายระดับ เด็กบางคนที่ขี้หวงไม่มากนัก จะยอมให้คนอื่นเล่นของเล่นของตัวเอง แต่เด็กบางคนที่หวงของมาก ๆ ก็จะไม่ยอมให้ใครมาแตะของเล่นตัวเอง แถมบางคนก็ยังชอบร้องไห้ ตอนที่มีคนหยิบของเล่นของตัวเองไปอีกด้วย หากปล่อยให้เด็กเป็นคนขี้หวง และไม่บอกไม่สอน เด็กอาจโตไปเป็นคนหวงของ จนทำให้คนรอบข้างไม่อยากปฏิสัมพันธ์ด้วยก็เป็นได้ ทำไมลูกถึงมีปัญหาเป็นเด็กขี้หวง – ลูกรู้สึกว่าของชิ้นนั้นให้ความอุ่นใจแก่เขา เช่น ตุ๊กตาตัวโปรด กระเป๋าใบโปรด – ลูกเริ่มเข้าใจว่าเขามีของที่เป็นของเขาเอง จึงรู้สึกหวงสิทธิ์ของตัวเองตรงนั้น – ลูกถูกพ่อแม่บังคับให้แบ่งของของตนให้น้อง หรือคนอื่นโดยไม่เต็มใจบ่อยๆ จึงเกิดอาการหวงของเมื่ออยู่ที่โรงเรียน ทำไมเด็กถึงหวงของเล่น สาเหตุที่ทำให้เด็กมีนิสัยขี้หวง อาจมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่หรือคนในบ้าน ที่อาจจะไม่เคยสอนให้เด็กรู้จักการแบ่งปัน หรืออาจจะมาจากการที่เด็กอยู่ติดกับของเล่นนั้นมาตั้งแต่ยังเด็ก พอมีคนมาหยิบยืมหรือเอาของเล่นไปไกล ๆ […]

อาการโคลิคคืออะไร คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมรับมืออย่างไรดี

สารพันปัญหา แม่และเด็ก

บทความนี้ขอแนะนำ “อาการโคลิคคืออะไร คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมรับมืออย่างไรดี” คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะกังวลใจ เมื่อลูกร้องไห้แบบไม่มีสาเหตุ และถ้าเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ก็อาจจะยิ่งกังวลใจกลัวว่าลูกจะเป็นอะไร แต่การที่ลูกน้อยร้องไห้อย่างไม่มีสาเหตุ อาจเป็นหนึ่งในอาการโคลิคในทารก ซึ่งอาการโคลิคคืออะไร แล้วคุณพ่อคุณแม่ต้องรับมืออย่างไรบ้าง ในบทความนี้มีข้อมูลมาฝากกัน โคลิคคืออะไร ? โคลิคคืออาการของทารกที่มีอายุราว ๆ 2–4 สัปดาห์ ร้องไห้อย่างหนักโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่สามารถกล่อมให้หยุดร้องไห้ได้ ถือว่าเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้กับทารกทุกคน ทั้งเพศชายและเพศหญิง แม้จะมีสุขภาพดี หรือรับประทานนมได้ตามปกติก็ตาม โดยทั่วไป เมื่อทารกรู้สึกหิว กลัว เหนื่อย หรือรู้สึกเปียกชื้นมักจะส่งเสียงร้องไห้ออกมา แต่หากมีอาการโคลิคจะร้องไห้หนักมาก และร้องไห้ในช่วงเวลาเดิม ๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาเย็นหรือหัวค่ำ และจะร้องเสียงดัง เสียงแหลม และนานกว่าปกติ โดยรวมแล้วจะร้องไห้ประมาณวันละ 3 ชั่วโมง มากกว่าสัปดาห์ละ 3 วัน และยาวนานอย่างน้อย 3 สัปดาห์หรือบางรายอาจนานกว่านั้น และอาจมีอาการดีขึ้นเมื่ออายุประมาณ 3–4 เดือน โคลิคเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับจริงไหม ? ถ้าลูกน้อยมีอาการโคลิค จึงมักจะร้องในเวลาตอนกลางคืน และสาเหตุที่ทำให้ลูกร้องไห้ไม่หยุดนั้นส่วนมากจะเป็นสาเหตุที่ผู้ปกครองไม่สามารถเห็นด้วยตาเปล่า แต่ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับแต่อย่างใด เนื่องจากปัจจัยที่ทำให้ทารกร้องนั้นอยู่ในร่างกายของทารกเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮอร์โมนในร่างกาย […]

ลูกน้อยควรเลิกดูดขวดนมเมื่อไหร่ดี

สารพันปัญหา แม่และเด็ก

บทความนี้ขอแนะนำ “ลูกน้อยควรเลิกดูดขวดนมเมื่อไหร่ดี” เด็ก ๆ กับการดื่มนมเป็นของคู่กัน ตั้งแต่เกิดจนกว่าจะอายุ 1 – 2 ปี และควรได้รับนมแม่เป็นดีที่สุด ซึ่งในเด็กบางคนนั้นก็ติดขวดนมมากจนทำให้คุณแม่หลายบ้านอาจกังวลใจว่าลูกควรหย่าขวดนมตอนอายุเท่าไหร่ถึงจะดี หรือทำอย่างไรให้ลูกเลิกดูดขวดนมเสียที ตอนนี้ลูกเริ่มติดขวดนมไม่ยอมปล่อยเลย เพราะถ้ายิ่งเลิกช้าอาจจะเป็นปัญหากับตัวของลูกเองก็ได้ แต่เราจะมีวิธีรับมือกับปัญหานี้อย่างไร บทความนี้มีมาฝากกัน ควรให้ลูกเลิกขวดนมเมื่อไหร่ เมื่อเด็กอายุเข้า 1 ปี – 1 ปีครึ่ง ควรให้เด็กเลิกดูดนมจากขวด เนื่องจากเด็กเริ่มมีพัฒนาการ ทางกล้ามเนื้อพร้อมที่จะดื่มน้ำดื่มนมจากแก้ว หรือจากกล่องได้แล้ว แต่ทั้งนี้เด็กต้องได้รับ การฝึกให้ดื่มน้ำ  ดื่มนม จากแก้วสลับกับขวด ตั้งแต่ลูกอายุ 4 – 6 เดือน  และพอเข้าสู้ช่วงอายุ 1 ปี ลูกก็จะสามารถเลิกขวดได้ไม่ยาก แต่ถ้าเลิกหลังจากอายุ 1 ปี 3 เดือน ขึ้นไป ก็จะเลิกยากขึ้น เพราะเด็กจะติดใจขวดนมและจะ ดื้อไม่ยอมเลิกง่าย ๆ ทางที่ดีแล้วควรฝึกให้ลูกได้ลอง ฝึกดื่มน้ำ หรือ ดื่มนมจากแก้ว […]