มีวิธีปฏิเสธคนที่มาขออุ้มลูกของเรา ปฏิเสธอย่างไรดีให้เขาไม่เสียความรู้สึก

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง มีวิธีปฏิเสธคนที่มาขออุ้มลูกของเรา ปฏิเสธอย่างไรดีให้เขาไม่เสียความรู้สึก ลูกน่ารัก ใครๆ ก็มาขออุ้ม แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักล่ะ พ่อแม่จะยอมให้อุ้มลูกได้อย่างนั้นหรือ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พ่อแม่จะไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า หรือแม่แต่ไม่อยากให้คนรู้จักมาอุ้มลูก แต่จะใช้วิธีพูดอย่างไรที่เป็นการถนอมน้ำใจ และไม่ทำร้ายจิตใจคนอื่น ทำไมต้องปฏิเสธคนมาขออุ้มลูก เหตุผลที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านเลือกที่จะปฏิเสธคนมาขออุ้มลูก มีหลายปัจจัยมาก โดยทุกปัจจัยนั้น จะเน้นห่วงที่สุขภาพของลูก และสภาวะจิตใจของลูกด้วยเช่นกัน ซึ่งเหตุผลที่เราต้องเลือกปฏิเสธ อาจจะมีดังนี้ 1.ภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่แข็งแรง เรื่องนี้สำคัญมาก ๆ เพราะเด็กเล็กมีระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรง ลูกน้อยจึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ การสัมผัสกับคนแปลกหน้า อาจทำให้ลูกน้อยได้รับเชื้อโรคที่ไม่รู้ตัว 2.การปกป้องสิทธิส่วนบุคคล พ่อแม่มีสิทธิ์ที่จะปกป้องลูกน้อยของตนเอง การปฏิเสธคนมาขออุ้มลูก ก็เป็นการแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของ และสิทธิในการดูแลลูกอย่างใกล้ชิดที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ 3.ความไม่สะอาด เราไม่รู้เลยว่า คนที่ขออุ้มลูกอาจไม่ได้ล้างมือ อาจสูบบุหรี่ หรือมีเชื้อโรคติดมากับตัว ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกน้อยตามได้ หากปล่อยให้เขาสัมผัสลูกของเรา 4.ความปลอดภัย เด็กเล็กมักไม่อยู่นิ่งและคาดเดาไม่ได้ การให้คนอื่นอุ้มอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เช่น ลูกอาจดิ้นหลุดมือ หรือจับแน่นเกินไปจนทำให้ลูกเจ็บได้ ไม่อยากให้คนอื่นอุ้มลูก ทำยังไงดี คุณพ่อ คุณแม่หลายคน เกิดความกังวลทุกครั้งเมื่อต้องพาลูกน้อยวัยทารก และเด็กเล็กออกจากบ้าน กลัวว่าจะมีคนแปลกหน้ามาสัมผัส […]
ลูกถนัดมือซ้าย มีผลต่อพัฒนาการของลูกหรือไม่ ควรปล่อยหรือควรเปลี่ยน

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง ลูกถนัดมือซ้าย มีผลต่อพัฒนาการของลูกหรือไม่ ควรปล่อยหรือควรเปลี่ยน ในโลกเราก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีเฉพาะคนถนัดขวาเท่านั้น ยังมีประชากรที่ถนัดซ้ายอยู่ด้วย ทำให้คุณพ่อคุณเเม่ที่มีลูกถนัดซ้ายหลายคนเริ่มกังวลว่า “เอ๊ะ ลูกเราผิดปกติหรือเปล่า” เราลองมาดูกันดีกว่าว่าทำไมถึงมีเด็กที่ถนัดมือซ้าย เเล้วมันอันตรายจริง ๆ แบบที่ว่ากันหรือเปล่านะ รู้ได้อย่างไร ว่าลูกถนัดข้างไหน การสังเกตว่าลูกถนัดข้างไหนสามารถสังเกตได้จากการใช้ชีวิตประจำวันของลูก เช่น สังเกตวิธีการหยิบจับของของลูกว่าชอบหยิบจับข้างไหน หรือเป็นการเล่น เช่น การโยนบอลว่าชอบใช้ข้างไหน หรือการใช้กรรไกรตัดกระดาษว่าชอบใช้มือข้างไหน โดยช่วงวัยที่สามารถสังเกตได้ชัดเจนจะเป็นช่วงประมาณ 3 ขวบขึ้นไป เพราะเด็กช่วงวัยที่เล็กว่านั้นส่วนใหญ่จะหยิบจับสิ่งของด้วยสองมือมากกว่าทำให้พ่อแม่สังเกตได้ยาก ทำอย่างไรดี เมื่อลูกถนัดซ้าย ความถนัดซ้ายไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้ถึงความสำเร็จในชีวิตของเด็กเสมอไป เพราะความถนัดของเด็กไม่ควรบังคับเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมของเขา บางครั้งสามารถปรับเปลี่ยนได้ แต่บางครั้งก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ทั้งยังเป็นการลดศักยภาพของเขาอีกด้วย ดังนั้น พ่อแม่ควรปล่อยให้เขาใช้ศักยภาพของเขาให้เต็มที่มากกว่า เพราะปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการของเด็กก็เกี่ยวข้องกับการ กระตุ้นภายนอกเช่นกัน เช่น สภาพแวดล้อม สังคม และการกระตุ้นพัฒนาการด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ความถนัดด้านไหนก็ไม่ได้มีผลต่อความเร็วในพัฒนาการของเด็กเสมอไป เด็กถนัดซ้าย ไม่ใช่ความผิดปกติแต่อย่างใด จากสถิติพบว่าทั่วโลกมีคนถนัดขวาประมาณ 90% ขณะที่มีคนถนัดซ้ายประมาณ 10% ในการศึกษาที่ผ่านมาได้อธิบายถึงความถนัดของมนุษย์ว่าถูกกำหนดตามพันธุกรรม กระบวนการทำงานสมองควบคุมกล้ามเนื้อและระบบประสาทสัมผัส คนที่ถนัดมือขวา จะมีการทำงานควบคุมทักษะกล้ามเนื้อโดยสมองซีกซ้าย ส่วนคนที่ถนัดซ้ายจะมีการทำงานควบคุมกล้ามเนื้อของสมองซีกขวา […]
ท่านั่ง W-Sitting ท่านั่งอันตราย ภัยร้ายเงียบของเด็ก

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง ท่านั่ง W-Sitting ท่านั่งอันตราย ภัยร้ายเงียบของเด็ก คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะเคยเห็นลูกรักนั่งท่า w-sitting หรือนั่งท่าผีเสื้อ ซึ่งดูแล้วก็เป็นท่านั่งที่ดูแข็งแรงมั่นคงดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เป็นการฝึกให้ลูกนั่ง แต่ที่จริงแล้ว ท่านั่ง w-sitting แบบนี้มีผลเสียต่อสุขภาพและพัฒนาการของลูก ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว และแฝงไปด้วยอันตราย ซึ่งจะอันตรายแค่ไหนไปดูกัน มารู้จักท่านั่ง W-Sitting กันเถอะ การนั่งท่า W (W Sitting) คือ การนั่งโดยบั้นท้ายอยู่ตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างที่งอพับหันฝ่าเท้าออกไปทางด้านข้าง ทำให้เป็นรูป W เป็นท่าต่อเนื่องจากการคลานไปคลานมาแล้วต้องการหยุดเพื่อนั่งเล่น เด็กจะทิ้งน้ำหนักตัวมาที่บั้นท้าย โดยแยกต้นขาและหัวเข่าจากกัน การนั่งแบบนี้จะทำให้เด็กรู้สึกมั่นคง ไม่เอนล้มง่าย แต่ทำไมทางการแพทย์จึงแนะนำว่า ไม่ควรให้เด็กนั่งท่านี้ ทำไมถึงนั่งแบบ W-Shape Sitting ไม่ได้ การนั่งแบบ W-Shape Sitting ถึงจะดูเหมือนสบาย และเด็กชอบนั่ง แต่ว่าก็มีผลเสียกว่าที่คิด เพราะการนั่งแบบนี้เป็นท่านั่งที่ไม่ดีต่อสรีระร่างกาย คือ เด็กจะหมุนหรือเอี้ยวตัวไม่ถนัด ทำให้เสียสมดุล ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญนะ เพราะในเด็กควรได้พัฒนาการทรงท่าที่มีความสมดุล (Balance reactions) […]
“ไอกรน” ภัยเงียบอันตราย ที่พ่อแม่ต้องเฝ้าระวัง

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง “ไอกรน” ภัยเงียบอันตราย ที่พ่อแม่ต้องเฝ้าระวัง โรคไอกรน แม้จะเริ่มต้นด้วยอาการคล้ายหวัดธรรมดา แต่กลับซ่อนอันตรายร้ายแรง โดยเฉพาะในเด็กอายุน้อยกว่า 1 ขวบมีความเสี่ยงสูงที่จะเจ็บป่วยรุนแรงจากโรคนี้ จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องเฝ้าระวังสัญญาณเตือนของ ไอกรนในเด็ก อย่างใกล้ชิด เพื่อปกป้องลูกน้อยให้ปลอดภัย โรคไอกรน ไอกรนเป็นโรคติดเชื้อ สาเหตุเกิดจาก “เชื้อไอกรน” เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า “บอร์เดเทลลา เพอร์ทัสซิส” (Bordetella pertussis) ซึ่งจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วย เมื่อเชื้อเข้าสู่ทางเดินหายใจจะไปเกาะอยู่กับเซลล์เยื่อบุหลังโพรงจมูก และผลิตสารพิษหลายชนิดออกมา ซึ่งจะส่งผลต่อการอักเสบของเยื่อบุทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมา เชื้อแบคทีเรียดังกล่าว มีผลรุนแรงในทารกแรกเกิด ซึ่งอาจรุนแรงถึงชีวิตได้ โรคไอกรนติดต่อได้อย่างไร โรคไอกรนติดต่อได้ง่ายมาก ผู้สัมผัสโรคที่ไม่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรค จะติดเชื้อจากผู้ป่วยที่อยู่ในบ้านเดียวกันได้สูงถึง 80-100% แต่หากเคยได้รับวัคซีนป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน และมีภูมิคุ้มกันแล้ว โอกาสติดเชื้ออยู่ที่ประมาณ 20% ส่วนใหญ่ในเด็กจะติดเชื้อมาจากผู้ใหญ่ในครอบครัว โดยติดต่อผ่านทางเดินหายใจ น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ที่มีเชื้อ หากได้รับเชื้อจะสังเกตอาการได้ในระยะเวลาประมาณ 5-10 […]
ลูกพูดติดอ่าง ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม คุณพ่อคุณแม่ควรรับมือกับปัญหานี้อย่างไรดี

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง ลูกพูดติดอ่าง ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม คุณพ่อคุณแม่ควรรับมือกับปัญหานี้อย่างไรดี การพูดถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญอย่างหนึ่งว่าเด็กมีพัฒนาการและการเจริญเติบโตสมวัยหรือไม่ เด็กบางคนพูดจาน่ารักน่าเอ็นดู พูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง แต่เด็กบางคนโตจนตั้งไข่หัดเดินได้แล้ว กลับไม่รู้ภาษา ฟังไม่รู้เรื่อง พูดไม่ได้แม้แต่คำว่าพ่อและแม่ หรือบางรายกลายเป็นเด็กที่พูดไม่ชัด พูดติดอ่าง หรือพูดแล้วผู้อื่นฟังไม่รู้เรื่อง จับใจความไม่ได้ ปัญหาควรรับมืออย่างไรดี สาเหตุที่ทำให้ลูกพูดติดอ่าง มีอะไรบ้าง ลูกพูดติดอ่าง ลูกพูดไม่ชัด เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ ผู้เลี้ยงดูไม่ควรมองข้าม และควรหาวิธีแก้ไขที่ถูกต้อง เหมาะสม เพื่อทำให้อาการพูดติดอ่างของลูกดีขึ้น ซึ่งสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้ลูกมีปัญหาในด้านการพูดติดอ่าง มีดังนี้ 1.การเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู, สภาพแวดล้อม, และการตอบสนองของคุณพ่อคุณแม่หรือผู้เลี้ยงดูสามารถมีผลต่อการพูดไม่ชัดของลูกในวัยเด็ก 2.อารมณ์และจิตใจ ความตึงเครียดและความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพูดอาจส่งผลให้เด็กพูดไม่ชัด 3.ปัญหาระบบประสาทและสมอง ลูกมีพัฒนาการช้า หรือมีความล่าช้าในการพัฒนาทางภาษาอาจเกิดจากความล่าช้าของพัฒนาการสมองซีกซ้ายซึ่งเกี่ยวข้องกับการพูดและการสื่อสาร อาการหลักของเด็กพูดติดอ่าง เด็กพูดติดอ่าง เกิดจากความผิดปกติของการพูด พูดในจังหวะที่ผิดปกติ พูดติด ๆ ขัด ๆ ทำให้ไม่สามารถพูดสื่อสารได้ตามต้องการ เด็กจะพูดลากเสียงยาว พูดซ้ำ ๆ พยางค์ ซ้ำคำ พูดแทรกคำ […]
เด็กนอนกัดฟัน เกิดจากอะไร อันตรายไหมและมีวิธีรักษาอย่างไร

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง เด็กนอนกัดฟัน เกิดจากอะไร อันตรายไหมและมีวิธีรักษาอย่างไร คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงเคยชินกับการนอนกัดฟันของลูกน้อย และคิดว่าปล่อยไว้ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หายไปเอง แต่เมื่อถึงวัยอันควรแล้วลูกยังนอนกัดฟันอยู่เหมือนเดิม อาจมีผลเสียต่อตัวเด็กเองในอนาคตด้วย ถ้ารู้อย่างนี้ไม่ควรปล่อยไว้นานแต่จะแกปัญหาเรื่องนี้อย่างไรดีไปดูกัน การนอนกัดฟัน คืออะไร การนอนกัดฟัน (Bruxism) คือ ภาวการณ์เกิดการบด กัด หรือขบฟัน โดยฟันกรามด้านบนและฟันกรามด้านล่างขบเข้าหากัน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในขณะนอนหลับโดยไม่รู้ตัว การที่เด็กนอนกัดฟันถือว่าเป็นความผิดปกติการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ มักจะพบว่าเป็นโรคหรือความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการนอนหลับ เช่น นอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ การนอนกัดฟัน ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น แต่เด็ก ๆ ก็สามารถนอนกัดฟันได้เหมือนกัน เมื่อลูกนอนกัดฟันคุณแม่หลายคนอาจจะคิดว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวก็หายไปเอง เมื่อลูกโตขึ้นแต่ยังนอนกัดฟันเหมือนเดิม หากปล่อยไว้อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพฟัน เช่น ฟันสึก มีอาการปวดฟัน และปวดกรามตามมาได้ เด็กนอนกัดฟัน เกิดจากอะไรได้บ้าง เด็กนอนกัดฟัน หรือที่เรียกว่า Bruxism เกิดจากการหดตัวที่ผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ใช้บดเคี้ยว จนเกิดการกัดฟันขึ้นขณะนอนหลับ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในเด็กหลายคน และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากและร่างกายในระยะยาวได้ เด็กนอนกัดฟันอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น 1. พันธุกรรม การนอนกัดฟัน อาจมาจากพันธุกรรมที่คนในครอบครัวมีประวัตินอนกัดฟันมาก่อน […]
วิธีถนอมสายตาให้ลูกน้อยในยุคไซเบอร์ จากหน้าจอคอม มือถือ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง วิธีถนอมสายตาให้ลูกน้อยในยุคไซเบอร์ จากหน้าจอคอม มือถือ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ ทุกวันนี้เด็กๆและคอมพิวเตอร์แทบจะเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้ เด็กในวัยเรียนหลายๆคน และ แม้แต่เด็กวัยก่อนเข้าเรียนก็ยังใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่ง I-Pad I-Phone โทรศัพท์มือถือสารพัดรุ่นทุกวัน ซึ่งคอมพิวเตอร์เข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของครอบครัวแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรหันมาดูแลสายตาและการมองเห็นของเด็ก ๆ ให้มากขึ้น อันตรายจากการจ้องมองหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากเกินไป ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น หลายคนอาจเคยประสบปัญหาในอาการเหล่านี้ เช่น ทำให้ปวดเมื่อยตา ตาแห้ง ตาล้า แสบตา เคืองตา ตาพร่ามัว โฟกัสได้ช้าลง ตาสู้แสงไม่ได้ ปวดกระบอกตา ปวดศีรษะ หรือบางครั้งมีอาการปวดหลัง ปวดไหล่ หรือปวดต้นคอร่วมด้วย และส่งผลต่อการนอนหลับได้ หากมีอาการที่กล่าวข้างต้นร่วมกับการใช้งานจากหน้าจอติดต่อกันเป็นเวลานานในแต่ละวัน และหากแบ่งเวลาการทำงานหรือเวลาเรียนออนไลน์ไม่เหมาะสม ก็จะส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะดวงตาที่ต้องรับภาระจากการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือจอมือถือเป็นเวลานานๆ จึงอาจเป็นปัญหาต่อดวงตาที่พบจากการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ ได้แก่ ปวดศีรษะ ปวดตา ตาแห้ง เคืองตา ตามัว หากเกิดอาการเหล่านี้ ควรพบจักษุแพทย์ เด็กจ้องหน้าจอนานๆ อันตรายกว่าที่คิด เด็กเป็นกลุ่มเป้าหมายหนึ่งที่สำคัญ […]
อุ้มลูกบ่อย ๆ ลูกจะติดมือ ความเชื่อนี้จริงหรือไม่

บทความนี้ขอแนะนำบทความเรื่อง อุ้มลูกบ่อย ๆ ลูกจะติดมือ ความเชื่อนี้จริงหรือไม่ คุณแม่มือใหม่หลายคนคงเคยได้ยินผู้ใหญ่ใกล้ชิดเตือนว่าอย่าอุ้มลูกมาก เดี๋ยวลูกจะติดมือ เป็นการตามใจลูก พอวางแล้วลูกจะร้อง อุ้มบ่อย ๆ เด็กจะติดมือชอบให้อุ้ม คำเตือนนี้จริงหรือไม่ ไปหาคำตอบกัน อุ้มลูกบ่อยแค่ไหนถึงเรียกว่า “ลูกติดมือ” ทารกมักชอบร้องให้อุ้มโดยเฉพาะทารกที่อยู่ในช่วงวัยแรกเกิด ยิ่งทารกบางคนหากพ่อแม่ไม่ยอมอุ้มก็จะยิ่งร้องไห้แผดเสียงดังจนเหนื่อยหอบ ดูน่าสงสาร คุณพ่อคุณแม่ที่ไหนจะทำใจได้ที่เห็นลูกน้อยร้องไห้เจ็บปวดอยู่ตรงหน้าแล้วไม่ยอมอุ้มขึ้นมา แต่พออุ้มลูกบ่อย ๆ ก็กลัวจะเป็นเหมือนดังคำที่ผู้ใหญ่ชอบพูดว่าการอุ้มลูกบ่อย ๆ จะทำให้พวกเขาเอาแต่ใจและติดมือจนพ่อแม่มือใหม่ไม่เป็นอันทำอะไรต้องคอยสลับกันมาอุ้มลูก แต่อยากบอกคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายว่าไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะที่เด็กน้อยร้องไห้งอแงบ่อย ๆ เกิดจากการที่พวกเขายังไม่คุ้นชินกับสภาพของโลกภายนอก ที่แตกต่างออกไปจากท้องแม่ ทั้งการที่ได้ลอยอยู่ในน้ำคร่ำอุ่น ๆ และยังได้ยินเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจของผู้เป็นแม่ตลอดเวลา และนี่จึงเป็นคำตอบที่ว่าทำไมเด็กน้อยถึงสงบลงได้ในยามที่ได้อยู่ในอ้อมอกโดยเฉพาะอ้อมอกของคุณแม่ นอกจากนี้การเอาลูกเข้าเต้าของคุณแม่เองก็ทำให้ลูกสงบลงได้ เช่นเดียวกันเพราะเขาจะได้กลิ่นนมแม่ ซึ่งเป็นกลิ่นเดียวกับกลิ่นน้ำคร่ำที่พวกเขาคุ้นเคย นอกจากนี้เวลาที่เด็ก ๆ ร้องไห้บ่อย ๆ เอง ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยเพราะสาเหตุของการร้องไห้อาจมาจากการที่พวกเขาไม่สบายตัว เช่นเป็นไข้ ผ้าอ้อมเต็ม หรืออยากเรอ เป็นต้น อุ้มลูกบ่อย ทำให้ลูกติดมือจริงไหม เป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายคนคงจะสงสัยกัน โดยคำตอบของคำถามนี้คือ การอุ้มลูกบ่อย ๆ ไม่ได้ทำให้ลูกติดมือเสมอไป เพราะการสร้างความผูกพัน […]
วิธีฝึกลูกใช้หลอดดูด มีวิธีไหนบ้าง ต้องฝึกอย่างไร

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง วิธีฝึกลูกใช้หลอดดูด มีวิธีไหนบ้าง ต้องฝึกอย่างไร ปัญหาเด็กเลิกดูดขวดนมช้ากว่าวัย อาจดูเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย หรือไม่ใช่ปัญหาสำหรับ ผู้ปกครอง แต่แท้ที่จริงแล้ว การเลิกขวดนมช้านั้นอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและปัญหาทางสุขภาพของเด็กอีกหลาย ๆ อย่าง คุณแม่หลายคนจึงเลือกจะใช้วิธีใช้หลอดดูด แทนการดูดนมขวดจาก ซึ่งการฝึกลูกใช้หลอดดูด ต้องทำอย่างไร มีวิธีไหนบ้างไปดูกัน ทำไมต้อง ฝึกให้ลูกดูดหลอด การฝึกลูกน้อยให้ดูดหลอดหรือกินจากถ้วยหัดดื่มนั้น ไม่ใช่แค่การสอนทักษะใหม่ ๆ ให้ลูก แต่ยังมีประโยชน์ต่อพัฒนาการของลูกในหลายด้านรวมถึงข้อดีอื่น ๆ ที่มีผลกับลูกน้อย มาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง 1.ส่งเสริมพัฒนาการ การดูดหลอดช่วยให้กล้ามเนื้อปากและลิ้นของลูกน้อยแข็งแรงขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการพูดและการเคี้ยวอาหาร และช่วยให้ลูกฝึกควบคุมการกลืนได้ดียิ่งขึ้นด้วย 2.ฝึกให้ลูกเลิกขวดนมหรือเต้านม ปกติแล้วลูกกินนมจากขวดหรือเต้านมก็มักจะหลับคาไปทันที ซึ่งปัญหานี้จะส่งผลในเรื่องของพัฒนาการและสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กได้ 3.เตรียมพร้อมเข้าสู่วัยอนุบาล การดูดหลอดจะช่วยให้ลูกน้อยลดการพึ่งพาขวดนม ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัยอนุบาล และเด็กเริ่มกินนมกล่องกันบ้างแล้ว 4.ลดปัญหาฟันผุ การใช้หลอดดื่มจะช่วยลดการสัมผัสของน้ำหวานหรือนมกับฟัน ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุได้ 5.สะดวกต่อการพกพา เมื่อลูกเริ่มกินนมหรือน้ำจากหลอดได้แล้ว ทำให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกไปไหนมาไหนได้สะดวกมากขึ้นโดยไม่ต้องพกขวดนม เมื่อไรที่ควรเริ่มฝึก โดยทั่วไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่จะเริ่ม ฝึกให้ลูกดูดหลอด ได้เมื่ออายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หลังจากที่ลูกน้อยเริ่มคุ้นเคยกับการกินอาหารเสริมแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่กล้ามเนื้อในปากและลิ้นของลูกน้อยเริ่มแข็งแรงขึ้น และพร้อมที่จะควบคุมการดูดได้ดีขึ้น […]
เมื่อลูกติดเพื่อนมากเกินไป ปัญหาหนักใจที่พ่อแม่อาจต้องเจอ ควรรับมืออย่างไรดี

บทความนี้ขอแนะนำ บทความเรื่อง เมื่อลูกติดเพื่อนมากเกินไป ปัญหาหนักใจที่พ่อแม่อาจต้องเจอ ควรรับมืออย่างไรดี หลายบ้านพบปัญหาลูกติดเพื่อน ลูกเชื่อเพื่อน ลูกแคร์ความรู้สึกเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ แน่นอนว่า การปล่อยวางกับปัญหานี้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม พ่อกับแม่ต้องเข้าใจก่อนว่าการที่ลูกวัยรุ่นเลือกพึ่งพาเพื่อน มีท่าทีตีตัวออกห่างพ่อแม่ นั้นถือเป็นผลดีต่อการพัฒนาการของช่วงวัย ตลอดจนความรู้สึกได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมของตัวเด็กเอง สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้และไม่รู้ว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงบ้าง ตามมาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลย พฤติกรรมติดเพื่อน ตามแต่ละช่วงวัย 1. ในวัยเด็กเล็กถึงเด็กโต เด็กอาจยังไม่ค่อยมีปัญหาติดเพื่อน เพราะเป็นช่วงวัยที่เด็กกำลังมุ่งมั่นให้ความสำคัญเรื่องการเรียน แต่หากเด็กติดเพื่อนตลอด ไม่ค่อยอยู่บ้าน อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น – การไม่ประสบความสำเร็จในการเรียน ทำให้เด็กหมดกำลังใจในการมุ่งมั่นเรื่องการเรียน และมาจับกลุ่มเล่นกับเพื่อนแทน – ความเป็นอยู่หรือการเลี้ยงดูของผู้ปกครองที่ปล่อยให้เด็กจะออกไปไหนก็ได้ โดยไม่ได้กำหนดขอบเขตหรือเวลา เช่น ให้รู้ว่าเวลานี้ควรเล่นอยู่ที่บ้าน และไม่ควรออกไปข้างนอกบ้านเพราะอะไร เด็กจะไม่ได้เรียนรู้เรื่องการทำหน้าที่ของตนเอง การรู้จักจัดแบ่งเวลาให้เหมาะสม 2. ในวัยรุ่น การติดเพื่อนนั้นมองว่าเป็นพัฒนาการปกติเพราะเด็กรู้สึกว่าโตแล้วอยากจะมีอิสระ พึ่งพาตนเองได้ มีความคิดเห็นเป็นของตนเอง คิดว่าไม่ต้องพึ่งพาคนในครอบครัวมากนัก และอยากได้การยอมรับจากบุคคลภายนอก เด็กก็จะเริ่มอยากทำกิจกรรมนอกบ้านมากยิ่งขึ้น บางครั้งมีการโต้เถียงกับคนในบ้านเพื่อแสดงความคิดเห็นของตน เริ่มไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับครอบครัว ทำให้พ่อแม่บางท่านมีความกังวลเนื่องจาก เมื่อพูดคุยหรือสอนลูกนั้น เด็กก็จะมักโต้เถียง และไม่เข้าใจกัน […]